- โลกจะพ้นวิกฤต แค่พลิกจิตสำนึก -
กะลา หรือภาชนะเดียวกัน เมื่อคว่ำหรือหงายมีคุณสมบัติต่างกันลิบลับ ลองดูรูปข้างล่าง สภาวะคว่ำคือการครอบ เมื่อถูกครอบก็ทําให้ตัดขาดจากโลกภายนอก ตกอยู่ในที่แคบ ทําให้เห็นแคบ คิดแคบ อะไรท่ีแคบก็บีบคั้น ตัดขาดจากความเป็นจริง ถ้าไม่รู้ความจริงก็โง่เขลา ขาดปัญญา เกิดทุกข์
ผลที่ตามมาคือการมี “จิตคว่ำ” เพราะตัดขาดจึงไม่เห็นท้ังหมด ทําให้เห็นแก่ตัว ไม่เห็นแก่คนอื่น ไม่เห็นแก่ส่ิงอื่น ไม่เห็นแก่ส่วนรวม
ตรงข้ามกัน “สภาวะหงาย” คือ การเปิดกว้าง ทําให้เชื่อมโยงได้กว้างขวางยาวไกล จึงเห็นกว้าง คิดกว้าง หลุดพ้นจากความบีบคั้นเป็นอิสระ สามารถสัมผัสกับธรรมชาติตามความเป็นจริง จึงมีปัญญา เกิดสุขกับการมี ”จิตหงาย” จากการเห็นแก่ส่วนรวม หรือเห็นแก่ท้ังหมด
ถ้ามนุษย์รู้ว่าความสุขฉับพลันเป็นไปได้ง่ายและทันทีเหมือนหงายกะลา นั่นคือพลิกจิตจากคว่ำเป็นหงาย จากจิต ‘เล็ก’ และแคบคํานึงถึงแต่ตัวเอง กลายเป็นจิต ‘ใหญ่’ ที่เห็นแก่คนอื่น เห็นแก่สิ่งอื่น และเห็นแก่ท้ังหมด เกิดความสุขทันที
ดังนั้นการจะแก้วิกฤติได้จึงต้องการการ ‘ปฏิวัติจิตสํานึก’ ต้องการการพลิกจิต จาก ‘คว่ำ’ เป็น ‘หงาย’ ให้เป็นจิตใหญ่ที่สามารถเข้าถึงความเป็นทั้งหมดเห็น และคิดถึงทั้งหมด เพื่อบูรณาการและดุลยภาพของทั้งหมด
การเข้าถึงความเป็นทั้งหมดของโลก ทําให้จิตเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เป็นอิสระมีความสุขอย่างไม่เคยมาก่อน มีความรักอันไพศาลต่อ เพื่อนมนุษย์และธรรมชาติท้ังหมด เพราะเราสัมผัสกับธรรมชาติอยู่ตลอดเวลา เช่น ดิน น้ํา อากาศ สายลม แสงแดด ต้นไม้ แมลง ท้องฟ้า เมฆ ดวงดาว พระอาทิตย์ พระจันทร์
เมื่อสัมผัสธรรมชาติอย่างใดอย่างหนึ่งก็ระลึกรู้ว่าธรรมชาติทั้งหมดล้วนเช่ือมโยงเป็นหน่ึงเดียวกันทั้งจักรวาล หลุดพ้นจากความบีบคั้นของความคับแคบ เป็นอิสระ เมื่อเป็นอิสระจากความบีบคั้นจากความคับแคบก็มีความสุข เป็นความสุขอันลึกซึ้งหรือเป็นทิพย์ เบาสบายเพราะอิสรภาพ มีความรักอันไพศาลต่อเพื่อนมนุษย์และธรรมชาติทั้งหมด เมื่อเข้าถึงความเป็นท้ังหมดก็จะประสบความงามอันล้นเหลือ เพราะความงามเกิดจากความเป็นทั้งหมด ❤️
เรียบเรียงจาก: Volunteerspirit
ภาพจาก : Volunteerspirit
#ตุ๊ยตุ่ยมะกุ่ยมาคุยกัน
#JaniceForBetterLife
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
