21 มิ.ย. 2020 เวลา 01:15 • สุขภาพ
หมอขอเล่า ''ขออัพเดท'' การต่อสู้กับเชื้อ covid-19 เป็นอย่างไร ล่าสุด มีข่าวดี หรือ ข่าวร้าย มากกว่ากัน ???
https://www.chinadailyhk.com/article/121826
สถานการณ์ การระบาดของ covid-19 ทั่วโลกยังอยู่ในภาวะที่น่าเป็นห่วง เเละ ยังมีผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกวัน
https://www.worldometers.info/coronavirus/
เเต่อย่างไรก็ดี เเทบทุกประเทศ ทั่วโลกได้เริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับ covid-19 กันเเล้ว เนื่องด้วยเเรงกดดันทาง เศรษฐกิจเเละสังคมต่างๆ เเละหลายประเทศ ก็ประกาศเลยว่าคงไม่มีการ ปิดเมืองอีกเเล้ว เเม้ว่าจะมีการระบาดมากขึ้นก็ตาม(อาทิเช่น ประเทศ สหรัฐอเมริกา)
เเละสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวคราวเกี่ยวกับ covid-19 ที่น่าสนใจหลายประเด็นซึ่ง ก็มีทั้ง ข่าวดี เเละ ข่าวร้าย !!!!
ผมจึงอยากจะเขียนบทความนี้มาให้ ผู้อ่านมาได้อัพเดทกัน
เรึ่มจากข่าวดี !!!!
https://www.voathai.com/a/coronavirus-covid-19-ventilator-dexamethasone/5465100.html
ซึ่งยาสเตียรอยด์ที่ว่า คือ ยา dexamethasone !!!!
ซึ่งโดยปกติ ยา dexamethasone ไม่ใช่ยาหายากอะไร มีใช้ทั่วๆไปอยู่เเล้ว โดยจะมีฤทธิ์ในการลดการอักเสบ เเละก็มีการใช้ในผู้ป่วยหลายกลุ่ม อาทิเช่น รักษาผู้ป่วยจากการเเพ้อย่างรุนเเรง หรือ กลุ่มผู้ป่วยโรคเเพ้ภูมิตัวเองต่างๆ เป็นต้น
ซึ่งรายงานวิจัยครั้งนี้จัดทำโดย ทีมวิจัยของ University of Oxford อังกฤษ นำโดย Prof. Peter Horby
ซึ่งผลลัพธ์ ในรายงานการศึกษานี้นั่นก็ คือ
กลุ่มคนไข้ที่ได้รับ ยา dexamethasone ลดความเสี่ยงที่
จะเสียชีวิตของผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยหายใจจาก 40% เป็น 28% ส่วนผู้ที่ต้องหายใจผ่านท่อออกซิเจนอย่างเดียว ยานี้ช่วยลดอัตราการตายเหลือ 25% !!!!!
ซึ่งรายงานวิจัย อันนี้สำคัญมาก เพราะ ยา dexamethasone เป็นยาพื้นฐานมีทุกโรงพยาบาล เเละอาจจะเป็น กุญเเจสำคัญในการลดอัตราการเสียชีวิตจาก covid-19 ทั่วโลก
จบไปกับข่าวดีนะครับ เเต่พอมีข่าวดีโลกก็มักจะมีข่าวร้ายร่วมด้วยเสมอ ซึ่งข่าวร้ายนั่นก็คือ
https://www.facebook.com/workpointTODAY/photos/a.153956988306921/1322121321490476/?type=3
งานวิจัย 2 ชิ้นล่าสุดที่ออกมาจากฝั่งเมือง จีนเกี่ยวกับภูมิคุ้มกันของผู้ที่เคยติดเชื้อ covid-19
งานวิจัยชิ้นแรกเป็นความร่วมมือกันของ โรงพยาบาลจงหนานของมหาวิทยาลัยอู่ฮั่น และ มหาวิทยาลัยเท็กซัส วิทยาเขตกาลเวสตัน ที่ทำการตรวจมากกว่า 23,000 ตัวอย่างจากบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ทำงานพบปะกับผู้ติดเชื้อโดยตรง
ซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดว่าในตัวอย่างเหล่านี้มีอย่างน้อย 1 ใน 4 หรือ 25 % ที่น่าจะติดเชื้อ (เพราะเป็นพื้นที่เเรกที่ระบาดยังไม่ค่อยมีใครป้องกันตัว) ว่า ผลการตรวจเมื่อเดือนเมษายนกลับพบสารภูมิต้านทานเพียง 4% หรือ 1 ใน 25 เท่านั้น !!!!!
ส่วนงานวิจัยอีกชิ้นเป็นการศึกษาตัวอย่างจากเขตว่านโจว นครฉงชิ่ง ที่นำ 37 ตัวอย่างของผู้ที่ป่วยจากการติดเชื้อโควิด-19 และอีก 37 ตัวอย่างของผู้ที่ติดเชื้อชนิดเดียวกันแต่ไม่แสดงอาการ มาทำการตรวจหาสารภูมิต้านท้าน
จากการตรวจพบว่า 40% ของกลุ่มที่ไม่แสดงอาการนั้น ไม่สามารถตรวจพบสารภูมิต้านทานได้แล้ว ในขณะที่ 13% ของผู้ที่ล้มป่วย ก็ไม่เจอสารภูมิต้านทานเช่นกัน
ซึ่ง งานวิจัยทั้งสอง เป็นหลักฐานบอกว่า ที่จริงเเล้ว หลังจากติดเชื้อ covid-19 ร่างกายมนุษย์อาจจะไม่สร้างภูมิคุ้มกัน หรือ อาจจะ สร้างเเต่อยู่ได้เพียง ชั่วคราวระยะเวลานึง (ผ่านไปหลายเดือนตรวจอีกทีก็ไม่เจอเเล้ว )
ซึ่งข่าวนี้เป็น ข่าวร้ายมากในการพัฒนา วัคซีน เพราะ จะเกิดปัญหาต่อว่า ฉีดวัคซีน เเล้วบางคนก็อาจจะไม่มี ภูมิต้านทานอยู่ดี หรือ มีก็อาจจะช่วงสั้นๆ ซึ่งสั้นยาวเเค่ไหน(กี่วัน กี่เดือน)ก็ไม่รู้ได้
ซึ่งอาจจะเป็นการบอกกลายๆว่า เรา อาจจะพัฒนาวัคซีนสำเร็จ ช้ากว่ากำหนด หรือ ไม่มีวัคซีนเลยก็เป็นได้ครับ !!!!
ซึ่งก็ต้องศึกษาหาข้อมูลกันต่อไปนะครับ กับ covid-19
ส่วนตัวผมเชื่อว่า เรื่อง covid-19 ยังต้องมีการศึกษากันอีกมาก เเละ วัคซีนอาจจะไม่ประสบความสำเร็จง่ายดายขนาดนั้น
1
เเต่อย่างน้อยๆ ด้วยองค์ความรู้ที่เรามีมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ทำให้การรักษา covid-19 มีประสิทธิภาพมากขึ้นเเม้ว่าอาจจะไม่มียาที่ทำลาย covid-19 อย่างเฉพาะเจาะจง เเต่ก็อาจจะใช้องค์ประกอบหลายๆอย่าง ในการลดอัตราการเสียชีวิต จาก covid-19 ได้ ซึ่งอาจจะทำให้ มนุษย์สามารถค่อยๆอยู่ร่วมกับ เชื้อตัวนี้ได้ในกรณี วัคซีนไม่สำเร็จนะครับ
เเต่อย่างไรก็ดี ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นการดูเเลตัวเองย่อมสำคัญที่สุด หลักเกณฑ์ปฎิบัติ อาทิเช่น ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงสถานที่คนเยอะๆ ยังไงก็ยังจำเป็นนะครับ covid-19 คงอยู่กับเราไปอีกนาน ดูเเลตัวเองไว้ก่อนย่อมดีที่สุดครับ
https://storylog.co/story/5a2d2330ece73ee64d6539a3
โฆษณา