21 มิ.ย. 2020 เวลา 02:48
ไขข้อข้องใจ
ทำไมเดือนมิถุนายนปี2563 บางปฏิทินถึงให้วันแรม 14 ค่ำเดือน 7 เป็น
วันพระและบางปฏิทินให้วันแรม 15 ค่ำ เป็นวันพระ(่ส่วนใหญ่)
การนับปฏิทินทางจันทรคติของไทยจะใช้การโคจรของดวงจันทร์รอบโลก
เป็นเกณฑ์ กำหนดให้ 1 ปี มี 12 เดือน ในเดือนที่มีเลขคี่คือเดือน 1,3,5,7,9,11 ให้มี 29 วัน(เรียกว่าเดือนขาด)และในเดือนคู่คือ เดือน 2,4,6,8,10,12 ให้มี 30 วัน(เรียกเดือนเต็ม)ใน 1 เดือนจะแบ่งเป็นข้างขึ้น 15 วัน และข้างแรม 14-15 วัน(ในเดือนขาดจะมีแค่แรม 14 ค่ำ ส่วนในเดือนเต็มจะมี 15 ค่ำ)รวม 1 ปี
จะมี 354 วันซึ่งจะต่างจากการนับทางสุริยคติถึง 11 วัน ดังนั้นจึงมีการปรับปฏิทินเป็นระยะเพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดการเหลื่อมล้ำกันโดยจะแบ่งประเภทปีออกเป็น 3 แบบ
1.ปกติมาส มี 354 วัน
2.อธิกมาสมี 384 วัน โดยในปีนี้จะมีเดือน 8 ซ้ำ 2 หน
3.อธิกวาร มี 355 วันโดยในเดือน 7 จะมีแรม 15 ค่ำ(คือปีนี้ 2563)
ทุกๆ 19 ปี จะมีอธิกมาส ประมาณ 7 ปี และอธิกวาร ประมาณ 3 ปี
(ไม่แน่นอน)
ส่วนการนับทางสุริยคตินั้นจะใช้การโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ในการกำหนด 1 ปี ใช้เวลาประมาณ 365.25 วัน จึงแบ่งปีออกเป็นปี อธิกสุรทิน มี 366 วัน (ปีนี้ 2563)และปีปกติมี 365 วัน โดยทุกๆ 4 ปีจะมีปี อธิกสรุทิน 1 ครั้งโดยประมาณ
โฆษณา