21 มิ.ย. 2020 เวลา 13:26 • การเมือง
ซูดานดินแดนแห่งสงคราม
วันนี้ Together จะพามาทำความรู้จักซูดานดินแดนแห่งสงครามสงครามการเมืองที่ยาวนานที่สุดและมีผู้เสียชีวิตนับล้าน การต่อสู้ การทำสงคราม การแย่งชิงทรัพยากรและความเป็นมาจะเป็นยังไงไปติดตามกันครับ
ประเทศซูดานเป็นหนึ่งประเทศในแอฟริกาใต้เคยเป็นอาณานิคมของอังกฤษมาก่อนและได้รับเอกราชจากอังกฤษในภายหลังอยากได้ปกครองตนเองเป็นหนึ่งประเทศ
ด้วยความที่อังกฤษเป็นเจ้าอาณานิคมมาก่อนในซูดานจึงมีชนเผ่ามากกว่าล้อชนเผ่ามาอยู่รวมกันโดยที่มีอังกฤษปกครองหลังจากได้รับเอกราชมีการต่อสู้ทำสงครามระหว่างชนเผ่ามาโดยตลอด
แล้วสงครามระหว่างชนเผ่าได้ยุติลงหลังจากเมื่อสุดานีรัฐบาลขึ้นมาแต่สุดท้ายรัฐบาลได้ประกาศนำกฎหมายอิสลามบริสุทธิ์มาปกครองประเทศซูดานซึ่งทำให้ชาวซูดานทางฝั่งใต้ที่นับถือศาสนาคริสต์เป็นส่วนใหญ่ออกมาประท้วงและมีการต่อต้านอย่างรุนแรงจนทำให้เกิดสงครามกลางเมืองที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่งของโลกจนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 ล้านคนและไร้ที่อยู่นับ 2 ล้านคน
หลังจากเกิดสงครามกลางเมืองมาอย่างยาวนานสหประชาชาติก็ได้เข้ามาแทรกแซงและจัดแบ่งทรัพยากรและตั้งประชามติเพื่อแยกประเทศจนสุดท้ายซูดานใต้ก็ได้แยกออกมาเป็นเอกราชจากซูดาน
ซึ่งในตอนแรกนั้นประเทศซูดานเป็นประเทศที่มีน้ำมันปิโตรเลียมเป็นจำนวนมากจึงทำให้น้ำมันเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งเนื่องจากทรัพยากรน้ำมันอยู่ในซูดานใต้กว่าร้อยละเจ็ดสิบคิดเป็นมูลค่านับพันล้านสหรัฐนั่นจึงทำให้ซูดานเหนือไม่พอใจเป็นอย่างมากเนื่องจากการแยกตัวออกไปก็เหมือนขาดแหล่งเงินเข้าประเทศอย่างมาก
และด้วยเหตุผลที่ว่าประเทศซูดานใต้ไม่ได้มีดินแดนที่ตัดออกสู่ทะเลแต่ซูดานเหนือมีพื้นที่ออกสู่ทะเล นั่นจึงหมายถึงซูดานใต้มีทรัพยากรน้ำมันแต่ซูดานเหนือมีท่อส่งน้ำมันเพื่อออกสู่ทะเลนั่นจึงทำให้สุดาเหนือคิดค่าบริการในการส่งออกสูงลิบลิ่วๆ จนทำให้ซูดานใต้ไม่สามารถส่งออกน้ำมันได้จึงทำให้ได้ต้องยุติการผลิตน้ำมันไปในที่สุด
หลังจากเกิดเหตุการณ์สงครามวาทะของจากทั้งสองผู้นำก็ได้เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของสงครามมันก็คือมีกองกำลังไม่ทราบฝ่ายบุกข้ามชายแดนมาทางซูดานใต้เข้าโจมตีและยึดโรงกลั่นน้ำมันมันจึงทำให้ทางด้านซูดานใต้โกรธอย่างหนักส่งทหารเข้าตอบโต้และยึดแหล่งน้ำมันของตนเองคืน
แล้วทางซูดานดาวเหนือได้ส่งเครื่องบินเข้าโจมตีทิ้งระเบิดใส่ซูดานใต้อย่างต่อเนื่องทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนักแต่ต้องบอกให้เข้าใจก่อนครับว่าซูดานใต้นั้นเป็นประเทศใหม่จึงทำให้มีอาวุธยุทโธปกรณ์และกองกำลังไม่เพียงพอหรือหมายถึงซูดานใต้นั้นได้กว่าซูดานเหนืออย่างมาก
สงครามของทั้งสองประเทศจะมีการหนุนหลังชนกลุ่มน้อยของทั้งสองรัฐบาลในรูปสงครามตัวแทนอีกด้วยตัวอย่างเช่นซูดานใต้ก็หนุนหลังชนเผานิลกาดเพื่อให้ก่อเหตุในซูดานเหนือ ซูดานเหนือเองก็ใช้ชนเผ่ามิสชารียาซึ่งเป็นชนเผ่าเร่ร่อนอาศัยอยู่ตามตะเข็บชายแดนคอยก่อเหตุในซูดานใต้เช่นกัน
ยังหนำซ้ำในซูดานใต้ก็ยังมีการต่อสู้และทะเลาะแบ่งแยกฝ่ายด้วยกันเองภายในประเทศของฝ่ายประธานาธิบดีกับรองประธานาธิบดีโดยฝ่ายรองประธานาธิบดีได้ก่อรัฐประหารแบ่งแยกนำกองกำลังบางส่วนออกจากเมืองหลวงและก่อตั้งขึ้นเป็นกองทัพเข้าต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลอย่างเป็นทางการ
หลังจากนั้นสหประชาชาติก็ได้เข้ามาเป็นตัวกลางจัดการพูดคุยของทั้งสองฝ่ายโดยสุดท้ายก็ให้กลับมาเป็นรองประธานาธิบดีเหมือนเดิมแต่ก็ยังมีการไม่ชอบกันเหมือนเดิมเนื่องจากถูกประธานาธิบดีกล่าวหาว่าเป็นกบฏจนทำให้สงครามปะทุขึ้นอีกครั้งมีการต่อสู้กันใจกลางเมืองหลวงนครจูบาเมืองหลวงของประเทศจนสุดท้ายในปีนี้หลังจากการต่อสู้กันมาอย่างยาวนานและมีการอ่อนล้าอย่างหนักของกองทัพทั้งสองฝ่ายจึงได้มีการเข้าพูดคุยกันและจัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นมา
จากสงครามกลางเมืองที่ผ่านมามีการประเมินว่ามีประชาชนชาวซูดานใต้เสียชีวิตประมาณ 4 แสนคนและยังทำให้ประชาชนชาวซูดานใต้นับ 4 ล้านคนต้องอพยพถิ่นฐานออกนอกประเทศอีกด้วย
แล้วนี่แหละครับเป็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในซูดานว่าเหตุผลอะไรทำไมซูดานจึงขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนแห่งสงคราม
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่ติดตามบทความของเรามาจนจบและขออภัยถ้าข้อมูลบางอย่างอาจขาดตกบกพร่องหรือผิดพลาดไป
ขอความกรุณาถ้ามีข้อผิดพลาดตรงไหนผู้อ่านสามารถติชมแนะแนวได้ครับขอบคุณครับเพื่อแชร์ความรู้ด้วยกันต่อไปนะครับ😊🙏
โฆษณา