22 มิ.ย. 2020 เวลา 01:32 • ท่องเที่ยว
กลิ่นทะแม่งๆ แพ็คเกจ “เราไปเที่ยวกัน”
เอกชนตั้งแง่เงินเหลือเพียบเกือบ9พันล.
ยังไม่ทันได้ทำแพ็คเกจ “เราไปเที่ยวกัน” 1 ใน 3 แพ็คเกจ หลังครม.คลอดออกมาหวังเป็นแรง “กระตุ้น กระตุก” ภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ก็เหมือนจะมีช่องว่าง ทิ้งข้อสงสัยให้นั่งคิดกันเสียแล้ว
หลังจาก “สุรวัช อัครวรมาศ” อุปนายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว หรือ “แอตต้า” ซึ่งเป็นกลุ่มเอกชนภาคการท่องเที่ยว ออกมาให้ความเห็นที่น่าสงสัยว่า แพคเกจ “เราไปเที่ยวกัน” ซึ่งรัฐบาลเคาะงบจากเงินกู้ก้อนฟื้นฟู 4 แสนล้านบาท ลงไปทำกว่า 1.8 หมื่นล้านบาท “อาจ” มีเงินเหลือจำนวนมาก และไม่เข้าใจว่าทำไมรัฐบาลต้องขออนุมัติงบไปสูงขนาดนั้น
เขาขยายความว่า แพ็คเกจ “เราไปเที่ยวกัน” รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่าย (Co-pay) จำนวน 5 ล้านคืน ในอัตรา 40% ของค่าห้องพักแต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน ในส่วนนี้ใช้วงเงิน 15,000 ล้านบาท ส่วนอีก 3,000 ล้านบาท เป็นวงเงินให้ผู้รับสิทธิ์นำไปเป็นค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ 600 บาทต่อห้องต่อคืน
ในสภาพความเป็นจริงโรงแรมสารพัดแห่งคงแข่งกันทำโปรโมชั่น เพราะรัฐบาลกำหนดเงื่อนไขชัดเจนว่า ห้ามขายแพงกว่าที่ขายผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งปรากฏอยู่ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ดังนั้น ค่าโรงแรมต่างๆ จะมีราคาถูกลงแน่นอน
นั่นคือ ถ้าคิดงายๆ หากราคาเฉลี่ยที่ผู้ใช้สิทธิ์ใช้ไปคืนละ 3,000 บาท จะได้โรงแรมระดับ 5 ดาว เมื่อรัฐจ่ายให้ 40% ก็เท่ากับเงิน 1,200 บาท หากนับรวมทั้งหมด 5 ล้านคืน เท่ากับรัฐจะใช้เงินเพียง 6,000 ล้านบาท ในการสนับสนุนค่าโรงแรม ดังนั้นจึงเหลือในส่วนนี้อีกตั้ง 9,000 ล้านบาท
ดังนั้นทางเอกชนเองจึงต้องข้อสังเกตเอาไว้ ก่อนโครงการจะเริ่มขึ้นจริง และอยากให้รัฐบาลไปทบทวนประเด็นเหล่านี้ เพราะผลสุดท้ายคนที่ได้ประโยชน์อาจไม่ใช่บรรดาเอกชน หรือประชาชนอย่างแท้จริง
เช่นเดียวกับแพ็คเกจ “กำลังใจ” โดยรัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางของอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 1.2 ล้านคน ให้เดินทางโดยการใช้บริการกับบริษัทนำเที่ยวในประเทศ รัฐสนับสนุนงบเดินทางไม่เกินคนละ 2,000 บาท สำหรับการเดินทางที่ไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน คิดเป็นวงเงิน 2,400 ล้านบาท
แพ็คเกจนี้ “สุรวัช” ตั้งข้อสังเกต อยากให้รัฐบาลต้องเข้าใจว่า ปัจจุบันนี้ไม่มี เอเย่นต์ทัวร์ หรือ บริษัทนำเที่ยว รายใดที่รู้จักกับกลุ่ม อสม. และ รพ.สต. เลย
แต่เมื่อโครงการมันออกมาแบบนี้ แน่นอนว่าจะเกิดคนกลางที่มาทำหน้าที่รับทำแพ็คเกจนี้แน่ๆ เดาได้ไม่ยากว่า จากนี้คงมี องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น หรือ อปท. เตรียมเปิดบริษัททัวร์ขึ้นมาใหม่เพียบ เพื่อรับนำเที่ยวคนกลุ่มนี้เอง
ดังนั้นแอตต้า จึงอยากเสนอให้ภาครัฐพิจารณากำหนดโควตาไปให้ชัดเลยได้หรือไม่ว่า หากจะช่วยบริษัททัวร์ในประเทศจริงตามที่เขียนไว้ในโครงการกว่า 13,000 บริษัท รัฐบาลควรกำหนดโควตานำเที่ยวให้บริษัทไปเลยบริษัทละ 4-5 ล้านบาท เพื่อให้บริษัททัวร์ที่กำลังลำบากกลับมามีลูกค้าจริงๆ
เที่ยวละข่าว
โฆษณา