23 มิ.ย. 2020 เวลา 07:59 • ความคิดเห็น
จากใจของพี่ปี 4
คิดอยู๋นาน.... และคิดอยู๋นาน ว่า ....จะเขียนเล่าดีหรือเปล่า?
วันนี้พึ่งได้มีโอกาสคุยกับหลานชายเพราะเค้าทำงานพิเศษช่วงระหว่าง
ปิดเทอม เราทราบข่าวมาสักพักแล้วแหละว่าเค้าเองสอบติด ม.เกษตรฯ
วันที่รู้ข่าวเราเองก็ได้แค่ส่งข้อความแสดงความยินดีไป
วันนี้ได้พูดคุยกันก็คุยหลายเรื่อง รวมถึงการใช้ชีวิตในรั้วมหาลัย วันนี้ยัง
มีแอบแซวหลายชายไปว่า "พลาดแล้วปีนี้ อดรับน้องเลย เค้าคงไม่ให้
จัดกิจกรรมที่รวมกลุ่มเยอะๆหรอก"
พอได้คุยกับหลานชายแล้ว ทำให้เรานึกถึงปีนั้น ปีที่ตัวเราเป็นพี่ปี 4
เหตุการณ์ครั้งนั้นมันไม่เคยเลือนหาย นึกถึงทีไรยังรู้สึกขอบคุณทุกอย่าง
ที่ช่วยให้เรา.....พี่ปี 4 ทุกคนวันนั้น ผ่านเหตุการณ์มาได้
ขอบคุณภาพจาก : Pixabay
" เราอาจโดนสั่งพักการเรียน ถ้าเหตุการณ์นั้น...................เกิดขึ้น"
เป็นที่รู้กันดีว่า... เมื่อเปิดภาคเรียนเปลี่ยนชั้นปี พวกเราจะมีกิจกรรมมาก
มายหลายอย่าง สิ่งที่พวกเราตั้งหน้าตั้งตารอคอยคือ กิจกรรมการรับน้อง
สมัยเป็นน้องปี 1 ก็ทุกข์ทรมานมากกก เพราะนอกจากจะต้องปรับตัวกับ
การเรียนแล้ว เวลาว่างทั้งหมดก็ได้อุทิศให้กับการซ้อมเชียร์
ตอนเป็นน้องปี 1 ก็ไม่เข้าใจหรอก ว่าพี่มันจะอะไรนักหนา แค่ขอลายเซ็น
ต้องให้เราไปรำรอบต้นไม้ อายคนก็อาย ร้องเพลงก็ร้องดีๆไม่ได้ต้องให้
ตะโกนดังทะลุฟ้า เราไม่เข้าใจจริงๆ
จากน้องปี 1 มาเป็นพี่ปี 2 เราก็เอาบ้าง เรารำรอบต้นไม้น้องก็รำบ้างนะ
เราตะโกนน้องก็ขอเถอะตะโกนให้พวกพี่ฟังหน่อย ทุกกิจกรรม ทุกการ
กระทำมันหล่อหลอมให้พี่และน้องผูกพัน เชื่อมโยงกัน เกี่ยวเป็นสายใย
ให้ได้ช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
ในปีนั้น....ของพี่ปี 4 ก็วุ่นวายเอาเรื่อง ทั้งต้องเก็บวิชาเรียนทำเรื่องจบ
หาที่ฝึกงาน แต่กิจกรรมหนึ่งที่เราไม่พลาดเลยสักปีคือ กิจกรรมรับ
น้องนอกสถานที่ ถามว่าอาจารย์อนุญาตมั้ย ตอบเลยว่า "ไม่"
ทุกปีพวกเราก็หลบหลีก เลี่ยงหน้า เลี่ยงหลัง ไม่ให้อาจารย์รับรู้ การเป็น
พี่ปี 4 ไม่มีภาระใดๆทั้งสิ้น เพียงแค่ถูกรับเชิญจากน้องให้ไปเฝ้าสังเกต
การณ์เท่านั้น
เอาล่ะ ....... ได้วันและเวลา ถึงวันที่พวกเราถูกเชิญให้ไปกับน้องด้วย
พวกเราต่างแยกกันกระจายไปตามจุดต่างๆที่น้องปี 2 ที่เป็นแม่งานดั่ง
เช่นทุกปีได้นัดแนะไว้ พวกเราออกเดินทางโดยที่ทุกคนต่างก็ไม่เคย
ไปที่แห่งนั้นเลย วันนั้นมีพี่ปี 4 ที่ไปด้วยกันประมาณสิบกว่าคนได้
การไปในทุกๆปี เราจะกำหนดออกกันคืนวันศุกร์และกลับกันเช้าวัน
อาทิตย์ กำหนดเวลาออกประมาณ 6 โมงเย็น ให้ถึงที่หมายประมาณ
สี่ทุ่ม เพื่อเราจะทำกิจกรรมรับน้องกันเลยในเวลากลางคืน
กิจกรรมช่วงกลางคืนโดยปกติเราจะแบ่งออกเป็นฐาน โดยแต่ละฐานจะ
มีพี่ทุกชั้นปี ก็แล้วแต่พี่กลุ่มไหนจะได้อะไรที่น้องปี 2 เป็นคนจัดหา
ฐานหน่อไม้เน่า (หน่อไม้ปีบใหญ่ดองใส่ปลาร้า) ฐานสาคูทะเล
(สาคูผสมเกลือ) ฐานน้ำแดงบอระเพ็ด (น้ำแดงผสมบอระเพ็ด)
วันนั้นพอรถจอด พวกเราถึงที่หมาย เป็นธรรมเนียมเหมือนทุกครั้งที่พอ
ลงจากรถทุกคนต้องได้ธูปจุดเพื่อไหว้ขอเจ้าที่เจ้าทางให้ดูแล ปกปักษ์
รักษาพวกเรา แต่ในขณะที่กำลังไหว้อยู่นั้น มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งวิ่ง
ออกจากวงของพี่ๆแล้วร้องกรี๊ดเสียงดัง ทุกคนตกใจ กระนั้นผู้ชายทั้ง
รุ่นพี่ รุ่นน้องวิ่งตามไปจับไว้ เราปี 4 เองก็ตกใจ มันไม่เคยเป็นแบบนี้
ขณะนั้นมีน้องผู้หญิงปี 1 พูดขึ้นว่า พี่ ... บ้านหนูทำเกี่ยวกับร่างทรง
ที่เป็นแบบนี้เพราะ เจ้าที่ท่านไม่พอใจ พวกเรามารบกวน อีกอย่างที่
ที่เราจอดรถอยู่นี่มันทางสามแพ่ง เอออออ......มันจริง
"หนูว่าพวกพี่ยกเลิกเถอะนะ" น้องบอกเราอย่างนั้น.......กิจกรรมกลางคืน
นี่ น้องปี 1 ไม่มีใครรู้ว่าตัวเองต้องมาเข้าฐานกิจกรรมกับพี่จนถึงเกือบ
ตีสี่ พอได้ยินอย่างนั้นพี่ปี 2 พูดขึ้นว่า พี่..แต่พวกหนูเตรียมงานมาเกือบ
สองเดือนเลยนะ
ทั้งออกหาสถานที่ ขอใช้พื้นที่โรงเรียน แจ้งขอผู้ใหญ๋บ้าน พี่ปี 2 บางคน
ต้องมาก่อนเพราะต้องเตรียมทำฐานรอน้องๆ
เราเองปี 3 และ 4 เข้าใจดีว่ากว่าจะถึงวันนี้มันเหนื่อยแค่ไหน เราต้องหา
สถานที่กี่ที่ ต้องเตรียมหลายอย่าง พวกเราตกลงไปต่อกับน้อง เราจัด
น้องออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละประมาณ 10 กว่าคนเพื่อเข้าฐานแต่ละฐานที่
พี่เตรียมไว้เวลาผ่านไปห้าทุ่มกว่าๆ
ขณะที่กลุ่มแต่ละกลุ่มกำลังเข้าฐาน มีเสียงร้องของน้องผู้หญิงดังขึ้นมา
อีก คราวนี้ไม่ใช่เสียงเดียว มันดังก้องไปทั่วบริเวณเลย ตามมาด้วยเสียง
ร้องไห้อีก พวกเราพี่ปี 4 ที่เป็นผู้หญิงกำลังจะเดินเข้าในหมู่บ้านเพื่อ
ไปดูสถานที่ที่นอนพักผ่อนของน้องที่โรงเรียน
เมื่อได้ยินเสียงร้องพร้อมเสียงร้องไห้ เราหยุดชะงัก ทุกคนหยิบมือถือ
โทรหาเพื่อน คำตอบที่ได้คือ ไม่มีใครตอบได้ จู่ๆน้องผู้หญิงปี 1 เกือบ
ทุกคนร้องกรี๊ดขึ้น คนที่เหลือตกใจก็ร้องไห้
เราปี 4 ที่แยกกันอยู่ตามฐาน ตะโกนขึ้นพร้อมกันว่า "ปี 2 ....พี่ 4 สั่งให้
เก็บเอาน้องเข้าโรงเรียน หยุด... เอาน้องเข้าโรงเรียนเดี๋ยวนี้
ปี 2 และ ปี 3 บางคนร้องไห้ เราปี 4 เมื่อเดินไปเจอหน้ากันทำได้แค่มอง
หน้าแล้วจับมือกันแน่น เพื่อ..ไม่ให้น้ำตามันไหล
ผู้เขียนพร้อมเพื่อนอีก 3 คน รุ่นน้องอีก 2 คน เดินเข้าหมู่บ้านก่อนเพื่อดู
ความพร้อมของที่นอนสำหรับน้องๆ เราเดินไปก็ถามน้องไปว่า ทำไมถึง
มาเลือกที่นี่ อีกอย่างตั้งฐานห่างจากหมู่บ้านมากขนาดนี้ได้ยังไง นี่เรา
เดินมาเกือบ 3 กิโลแล้วยังไม่ถึงหมู่บ้านเลย ปกติเราจะตั้งฐานรอบๆ
ตัวหมู่บ้านประมาณกิโลเดียววนไปวนมา(ใกล้หมู้บ้านมากไม่ได้ เสียงดัง)
คืนนั้นเรารวมน้องทั้งหมดได้ประมาณ ตีหนึ่งกว่าๆ จัดน้องเข้าห้องนอน
ระหว่างนอนน้องผู้หญิงบางคนก็ยังร้องกรี๊ด เพื่อนพี่น้องที่ได้ยินก็ร้องไห้
เราทุกคนไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ พี่ทุกคนแยกกันไปดูแลน้อง
เราปี 4 หลังจากนั้นกลับมาปรึกษากันว่าเอายังไงต่อ เราตกลงกันว่า
คืนนี้ทั้งคืนเราจะเช็คจำนวนน้อง และพี่กันทุกชั่วโมง เราต้องเปลี่ยน
แผนกิจกรรมทั้งหมดของเราใหม่ จะกลับเข้ามหาลัยในรุ่งเช้าเลยก็ไม่ได้
เพราะเมื่อรถส่งพวกเราเสร็จเค้าก็ตีรถกลับเลย มารับพวกเราอีกทีคือ
เช้าวันอาทิตย์
ขอบคุณภาพจาก : Pixabay
เช้าของวันถัดมา เราเริ่มกิจกรรมสนุกสนาน ส่วนใหญ่ก็เละเทะ ทั้งโคลน
ทั้งสี แต่หน่อไม้เน่าเราก็ไม่ได้ทิ้งไป ยังคงถูกเอามาใช้เหมือนเดิม
ทั้งสีและกลิ่นสร้างความทุกข์ระทมให้น้องเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะได้
อาบน้ำก็บ่ายกว่าๆ แต่เมื่อทำกิจกรรมแล้วได้เห็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ
ของน้องๆก็ทำให้เราคลายความกังวลไปได้เกือบหมด
ตกกลางคืนเรามีกิจกรรมรอบกองไฟ ให้น้องปี 1 คิดการแสดงออกมา
โชว์ มีชาวบ้านมารอดูการแสดงของพวกเรา เวลาผ่านไปราวๆ 3 ทุ่ม
การแสดงจบ เรากำลังเตรียมกล่าวปิดค่ายรับน้องโดยพี่ปี 4 จู่ๆมีฝนตก
ลงมาอย่างหนัก เราต่างต้องวิ่งหลบเข้าที่พักอย่างเร็วไว
เมื่อฝนหยุดเราเตรียมอาบน้ำเข้านอน บางคนจับกลุ่มคุย บางคนมีกีตาร์
จับกลุ่มกันร้องเพลง ราวๆ 4 ทุ่ม ปี 2 เช็คชื่อรวม น้องวิ่งมาหาพวกเรา
บอกพี่คนหายไป 1 คน จำนวนคนไม่ครบ นับหลายรอบแล้ว เราก็เดินหา
เพื่อเช็คตรวจดูว่าใครหายไป
ปรากฎว่าคนที่หายไปคือ น้องผู้ชายปี 2 พวกเรามาไล่ลำดับเหตุการณ์
ว่าใครเป็นคนเจอคนสุดท้าย สรุปคนที่เจอคนสุดท้าย เจอกันอยู่หน้าวัด
เพราะผู้ชายหลายคนไปอาบน้ำที่วัดกัน
เราเรียกประชุมกันทันทีโดยมีแค่ ปี 3 - 4 และน้องปี 2 กลุ่มที่เช็คชื่อ
เท่านั้นที่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น เราแยกกันเป็นกลุ่ม กลุ่มแรกไปแจ้งผู้ใหญ่บ้าน
ที่เหลือเดินตามหา และอยู่เฝ้าน้องที่โรงเรียน
ด้วยความที่เป็นผู้หญิงหน้าที่ที่ได้รับคือ เฝ้าน้องที่โรงเรียน ผู้ใหญ่บ้าน
ระดมคนออกตามหา เวลาผ่านไปเนิ่นนาน แต่พวกเราทำได้แค่รอและ
โทรหาเพื่อนที่ออกตามหากับผู้ใหญ่
เที่ยงคืนยังไม่เจอ......................................
ตีสองก็ยังไม่เจอ.........................................
เวลาผ่านไปจนถึงตีสามกว่าๆ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เพื่อนยิ้มทั้งน้ำตา
บอกพวกเรา "เจอแล้ว เจอน้องมันแล้ว"
พวกเราหันหน้ากอดกันเลย จริงๆก็อยากจะตะโกนออกมาดังๆแหละ
แต่ทั้งหมดไม่มีใครรู้เรื่องที่เกิดขึ้น ยกเว้นพวกเรา
เพื่อนที่ไปเจอน้องที่หายไปเล่าว่า ...ตอนที่เจอนั้น น้องนอนอยู่กลาง
ถนนเลย ถามอะไรน้องก็ไม่ตอบ ผู้ใหญ่บ้านเลยพาไปโรงพยาบาล
เพื่อเช็คร่างกาย และนอนที่โรงพยาบาล 1 คืน
ตลอดช่วงเวลาตั้งแต่ออกเดินทาง เราปี 4 ไม่มีใครได้พัก ไม่มีใครนอน
หลับ คืนวันศุกร์ ถึง เช้าวันอาทิตย์ สมองและร่างกายบอกเลยว่าโหรง
เหรงมาก เดินๆนี่เหมือนลอยได้เลย
พวกเราเดินเข้าหมู่บ้านเพื่อขอใช้ห้องน้ำ บ้านที่เราไปเป็นบ้านคุณยาย
คนหนึ่ง เมื่ออาบน้ำเสร็จ พวกเราไหว้ขอบคุณ คุณยายจึงถามว่า
ทำไมได้พากันมาที่นี่ ตอนกลางคืนไม่มีใครออกนอกหมู่บ้านหรอกนะ
รถรับจ้างก็ไม่มีใครกล้าเข้ามาส่งถ้าหากจะมาที่หมู่บ้านนี้
พวกเราถามว่าทำไม คุณยายตอบว่า " เค้าบอกว่าเวลาขับรถกลับจะ
มีดวงไฟลอยตามรถไป เจอกันแทบทุกคัน เลยไม่มีใครกล้ามา"
" อ้าว " นั่นคือเสียงของเราทั้งหมด
ก่อนกลับผู้ใหญ่พาพวกเราทำพิธีไหว้ขอขมาพ่อปู่ที่ปกป้องดูแลคน
ในหมู่บ้าน เมื่อเสร็จพิธีเราขึ้นรถกลับ ทุกคนเหนื่อยล้าและอ่อนเพลีย
มาก แต่ถึงกระนั้นก็ไม่มีใครหลับบนรถ เพราะพี่ทุกคนรู้ดีว่าน้องที่อยู่
โรงพยาบาลยังนอนให้น้ำเกลืออยู่
เมื่อกลับถึงที่หมายพวกเราส่งน้องถึงหอพัก และพูดคุยกับเพื่อนที่เฝ้า
น้องที่โรงพยาบาลถามไถ่อาการ ดูแล้วอาการน้องเป็นปกติดีไม่มีอะไร
น่าเป็นห่วงเพียงแค่รอน้ำเกลือหมดเท่านั้นก็กลับบ้านได้
เหตุการณ์ครั้งนั้น...มันไม่เคยเลือนหายไปจากใจ
หากวันนั้น...มีน้องสักคนเป็นอะไรไป...เราที่เป็นพี่ต้องถูกพักการเรียน
หากวันนั้น...น้องที่หายไป ...เราตามหาไม่เจอ
ขอบคุณที่เหตุการณ์มันไม่ได้เลวร้ายมากไปกว่านั้น
ขอบคุณทุกอย่างที่ช่วยให้เราได้นั่งอยู่ตรงนี้ เวลานี้
ทุกเหตุการณ์ที่ประสบพบเจอมา เป็นครูที่ทำให้เราอดทน เข้มแข็ง
ก้าวผ่านอุปสรรคต่างๆ แม้ในวันที่ท้อ เหนื่อยล้า ขอเพียงแค่มีสติ
สุดท้ายอยากฝากถึงพี่ปี 4 ทุกท่านอดทน อดทน อดทน เรียนจบไวๆจ้า
แม่น้องเจตน์
โฆษณา