Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
🏖🏖🏖ชีพจรลงเท้าล่าโปรเที่ยวกัน🏖🏖🏖
•
ติดตาม
23 มิ.ย. 2020 เวลา 04:43 • ธุรกิจ
🚛🚛ทำความรู้จัก YouPik 🚛🚛
👜แอปพลิเคชันน้องใหม่สายช้อป👔
เพิ่งผ่านวันที่ 9 เดือน 9 มาไม่นาน บอกพี่ทุยเลยว่าโดนค่าเสียหายชนิดที่เรียกว่ายับ ฮ่า ๆ วันนี้พี่ทุยขอเตือนว่าให้ขาช้อปทั้งหลายรีบ เอา Application Internet Banking ในมือถือออกด่วน ๆ เพราะวันนี้พี่ทุยมีเรื่องราวเกี่ยวกับแอปพลิเคชันช้อปปิ้งที่กำลังฮอตฮิตติดลมบนมาฝาก ถ้าเลื่อนหน้า Newsfeed กันบ่อย ๆ พี่ทุยมั่นใจว่าต้องเคยเห็นกันบ้างแหละกับ Application ตัวนี้มีชื่อว่า “YouPik” นั่นเอง
👒👒👒👒👒👒
ก่อนอื่น เรามาทำความรู้จักกับ Application นี้กันก่อนเลย YouPik เค้าคือ Application ช้อปปิ้งออนไลน์น้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามาตีตลาดไม่นานนี้ และไม่ทันไรก็เป็นที่นิยมจนตีขึ้นเป็นอันดับ 3 รองจากพี่ใหญ่ในวงการอย่าง Shopee และ Lazada ซึ่งจริง ๆ แล้วเค้าเป็น App ในเครือของ Lazada เองนั่นแหละ แต่รูปแบบการขายก็มีความต่างกันอยู่หลายข้อนะ
ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกเรื่องแอปพลิเคชัน YouPik พี่ทุยขอชวนคุยเรื่องธุรกิจ E-Commerce หรือการซื้อขายผ่านตลาดอิเล็กทรอนิกส์กันก่อนละกัน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ตลาด E-Commerce ได้มีมูลค่าสูงขึ้นทุก ๆ ปี สาเหตุหลักน่าจะมาจากการเข้าถึงสมาร์ทโฟน อย่างที่เห็นว่า เดี๋ยวนี้สมาร์ทโฟนมีหลายราคามาก ตั้งแต่ราคาสบายกระเป๋าไม่กี่พันบาทจนถึงสมาร์ทโฟนรุ่นที่มีฟังก์ชั่นรองรับการทำงานครบครันราคาหลายหมื่นบาท แต่ไม่ว่ารุ่นไหน ๆ ล้วนสามารถเข้าใช้งาน Social Network พื้นฐาน รวมถึง E-Marketplace ได้ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ปัจจุบันคนไทยถึง 80% จะได้ครอบครองเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนและมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่า 45 ล้านคน คิดเป็นเวลาการใช้งานอินเทอร์เน็ตเฉลี่ย 4.2 ชั่วโมงต่อวัน
จากสถิติพบว่า ค่าเฉลี่ยในการใช้สมาร์ทโฟนช้อปปิ้งออนไลน์ของคนทั้งโลกอยู่ที่ 55% ประเทศที่มีพฤติกรรมการช้อปปิ้งออนไลน์ด้วยสมาร์ทโฟนสูงเป็นอันดับ 1 คืออินโดนีเซีย ที่ 76% อันดับที่ 2 คือ จีน ด้วยตัวเลข 74% และไทยเราก็ตามมาติด ๆ เป็นอันดับ 3 ที่ 71% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยโลกอยู่พอสมควรเลย
เพราะฉะนั้นเราคงพอเห็นภาพแล้วว่า ทำไมการขายของออนไลน์ถึงเป็นช่องทางที่พ่อค้าแม่ค้าสนใจกันมาก ไม่ว่าใครก็ต่างพูดถึงแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์อย่าง Lazada, Shopee และตอนนี้อาจจะมี “YouPik” เข้ามาขอส่วนเเบ่งเค้กก้อนโตของตลาดนี้อีกเจ้านึง
เมื่อการเเข่งขันราคาไม่ใช่คำตอบ
หลาย ๆ คนอาจเคยคิดว่า “Lazada และ Shopee ขายของดีขนาดนั้น ต้องกำไรปีนึงเป็นหลายพันล้านเเน่เลย” พี่ทุยขอบอกว่าตรงกันข้ามกับที่เราคิดเลยจ่ะ
Lazada เปิดมาตั้งเเต่ ปี 2555 และขาดทุนมาตลอด ต่อมาปี 2558 ขาดทุนประมาณ 2,000 ล้านบาท ในปี 2559 ขาดทุน 2,100 ล้าน ส่วนปี 2560 ขาดทุน 570 ล้านบาท
Shopee เพิ่งเปิด ปี 2559 และในปี 2559 นั้น ขาดทุนประมาณ 530 ล้านบาท ส่วนปี 2560 ขาดทุนไป 1,400 ล้านบาท
ถึงจะเป็น Application ช้อปปิ้งออนไลน์เหมือนกัน แต่เค้าก็มีกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่แตกต่างกันออกไป Lazada จะเน้นกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่โตกว่าส่วน Shopee จะเน้นกลุ่มเด็กวัยรุ่น นอกจากนี้ยังพบว่าผู้ใช้งาน 58% ของ Shopee เป็นผู้หญิง ในขณะที่ผู้ใช้งาน 57% ของ Lazada เป็นผู้ชาย รูปแบบหน้าตาของ Application Lazada จึงดูเรียบและขรึมมากกว่า Shopee
แต่เค้าทำการตลาดโดยการ “แข่งขันด้านราคา” เหมือนกัน พูดง่าย ๆ คือการแข่งกันลดแลกแจกแถม จัดโปรโมชั่น เช่น 9 เดือน 9 ซึ่งพอ Lazada มี Shopee ก็มีด้วย ซึ่งการทำเช่นนี้เป็นผลดีต่อผู้บริโภคเพราะจะได้สินค้าที่ถูกลง โปรโมชั่นงาม ๆ เป็นต้น ส่วนผลที่มีต่อฝั่งผู้ขายและทาง Application น่ะเหรอ ? ก็อย่างที่เห็นในตัวเลขกำไร-ขาดทุนนั่นแหละ
แต่น้องใหม่สายช้อปอย่าง YouPik ไม่ได้เข้าสนามมาด้วยความตั้งใจที่จะทำกำไรโดยการดึงลูกค้ามาซื้อของในราคาที่ถูกกว่า แต่เค้าทำการตลาดผ่าน
“การบอกปากต่อปาก”
The Power of Word of Mouth Marketing
บิลบอร์ด ในขณะที่สมัยที่แทบทุกคนเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย ๆ พอกับการเข้าถึงอากาศอย่างยุคนี้ การแนะนำจากคนรู้จักหรือแม้แต่การรีวิวจากคนที่เราไม่รู้จักกลับเป็นอะไรที่มีอิทธิพลต่อการซื้อของผู้คนมาก เพราะมี Social Network เป็นกระบอกขยายเสียงจากผู้ใช้งานจริงไปทั่วโลกยังไงล่ะ
ถึงสินค้านั้น ๆ จะมีการโฆษณาในทุกสื่อ และโฆษณาแบบฮาร์ดคอร์ด้วย แต่ได้รับการพูดถึงหรือรีวิวจากผู้ใช้งานจริงทางอินเทอร์เน็ตว่าไม่ดีสมคำโฆษณา การโฆษณานั้น ๆ ก็ย่อมไร้ผล
มาดูสถิติของการโฆษณาแบบปากต่อปากที่ YouPik เลือกใช้กันหน่อย
พบว่าลูกค้าจำนวน 57% ที่จะไม่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการร้านที่ได้รับการรีวิวจากอินเทอร์เน็ตไม่ดี
ลูกค้า 92% บอกว่าเหตุผลหลักในการซื้อสินค้าหรือใช้บริการร้านใด ๆ มาจากการเชื่อในคำแนะนำแบบปากต่อปากนี่แหละ
ลูกค้า 76% จะแนะนำสินค้าจากบริษัทที่พวกเขาไว้ใจให้กับคนรู้จัก
ลูกค้า 58% รู้สึกไว้ใจร้านค้าที่ได้รับการรีวิวในอินเทอร์เน็ต
ลูกค้า 72% บอกว่าพวกเขาไว้ใจรีวิวทางอินเทอร์เน็ตพอ ๆ กับคำแนะนำปากเปล่าจากคนรู้จักเลย
ลูกค้า 20-50% บอกว่าเหตุผลหลักที่เป็นเบื้องหลังของการตัดสินใจซื้อของมาจากคำแนะนำแบบปากต่อปาก
ลูกค้า 77% อยากอ่านรีวิวมากกว่า 10 รีวิวก่อนที่จะตัดสินใจซื้อของ
ระบบการขายของ “YouPik” เป็นรูปแบบการตลาดโดยอาศัยคำแนะนำแบบปากต่อปากเต็ม ๆ เลย โดยให้ผู้ขายทำการรีวิวสินค้านั้น ๆ ลงโซเชียลของตัวเอง เช่น Facebook หรือ บางทีก็เป็น “Influencer” หรือผู้ที่เป็นที่รู้จักในวงการนั้น ๆ เช่น Beauty Blogger ก็จะรีวิวชักชวนคนมาซื้อสินค้าเกี่ยวกับความสวยความงามผ่านทางแฟนเพจใน Facebook ของตัวเอง
ดู ๆ ไปหลายคนก็คงนึกเถียงในใจว่านี่มันธุรกิจ MLM นี่หน่า แต่ถ้าพิจารณาดี ๆ แล้วก็จะพบว่ามีความแตกต่างหลายข้อเหมือนกันนะ เช่น ไม่ต้องเน้นรักษายอดขาย บังคับทำยอดและไม่ได้มีค่าแรกเข้า (แต่ต้องซื้อของให้ครบ 999 บาท ถึงจะเป็นผู้ขายได้)
YouPik เป็นตัวอย่างของธุรกิจแนวใหม่ที่ยืนยันกับเราว่า ไม่มีคำว่า “เป็นไปไม่ได้” ในโลกทุกวันนี้ เพียงแค่เราพลิกมุมคิด คำว่า “ไม่” ตรงกลางก็จะหลุดออกไปเอง อย่างการขายของที่น่าจะต้องพึ่งพาการโฆษณาเต็ม ๆ ก็สามารถเปลี่ยนเป็นการโฆษณาฟรี ๆ แบบปากต่อปากจากผู้ใช้งานได้
มาติดตามดูกันว่าความนิยมในน้องใหม่อย่าง YouPik จะยั่งยืนหรือเป็นแค่ไฟไหม้ฟาง ที่เดี๋ยวเดียวผู้คนก็ต่างลืม นี่เขียนไปเขียนมา พี่ทุยก็ชักอยากไปส่องสินค้าใน YouPik บ้างเเล้ว แต่ไม่ว่าของชิ้นนั้น ๆ จะเย้ายวนยังไงก็ต้องคิดให้ดีก่อนซื้อนะ ไม่งั้นแทนที่จะได้ทรัพย์สิน กลับได้หนี้มาเสียเต็มบ้านเลย(อิอิ)
ปล.!!เอาบทความจากพี่ทุยอีกแล้วค่ะ
พี่เขามี E-Book ด้วยน่ะ
บอกเลยว่าช้อปชอบมาก ซื้อก็ได้เงินคืน
ขายก็ได้เงินคือ (กำไร) ต่อชิ้น
ใครท่านใดสนใจเข้าไปดูได้ค่ะ
แต่.....
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย