24 มิ.ย. 2020 เวลา 11:40 • ธุรกิจ
กรณีศึกษา TikTok ใหญ่กว่า ปตท. 4 เท่า
ถ้าพูดถึงแอปพลิเคชันบนโลกออนไลน์ที่หลายคนใช้งานเป็นประจำทุกวัน
คงจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube
นอกจากแอปพลิเคชันที่ว่ามา
อีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่กำลังมาแรง จนทำให้หลายคนวางมือถือไม่ลง
คงหนีไม่พ้น “TikTok”
กระแสความนิยมของแพลตฟอร์มที่เป็นศูนย์รวมของวิดีโอสั้นนี้
ทำให้บริษัทแม่ของ TikTok ที่ชื่อว่า ByteDance
มีมูลค่าสูงกว่า ปตท. บริษัทที่ใหญ่สุดในไทยถึง 4 เท่า
1
เรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
“ByteDance” เป็นบริษัทสตาร์ตอัปสัญชาติจีนที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2012
ที่เป็นเจ้าของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียหลายแอปพลิเคชัน
ตัวอย่างเช่น
Toutiao แอปพลิเคชันอ่านข่าว และคอนเทนต์ในประเทศจีน
Helo แอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียที่เป็นที่นิยมในอินเดีย
และแอปยอดนิยมที่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากที่สุดในตอนนี้ คือ TikTok
แล้ว TikTok คืออะไร?
TikTok คือ แพลตฟอร์มที่ให้ผู้ใช้งานมารับชมและเผยแพร่วิดีโอบนมือถือ
โดยเป็นวิดีโอสั้นๆ ที่สร้างสรรค์จากใครก็ได้ และจากที่ไหนก็ได้บนโลก
และมีฟีเจอร์แปลกใหม่ให้ใช้สร้างสรรค์ผลงาน เช่น มีเพลงให้ร้องลิปซิงค์ ฟิลเตอร์ เอฟเฟ็กต์ต่างๆ
1
จุดเริ่มต้นของ TikTok ต้องย้อนกลับไปในปี 2016
ByteDance ได้เปิดตัวแอปพลิเคชันสำหรับเผยแพร่วิดีโอสั้นๆ บนมือถือในประเทศจีน ชื่อว่า Douyin
Douyin ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมในประเทศจีน
ภายในไม่กี่เดือนยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็พุ่งสูงกว่า 100 ล้านครั้ง
และมียอดการรับชมวิดีโอมากกว่า 1,000 ล้านครั้งต่อวัน
1
พอเรื่องเป็นแบบนี้ Zhang Yiming ผู้ก่อตั้ง ByteDance ก็เกิดความคิดที่จะทำให้แอปพลิเคชันนี้เป็นที่รู้จักและโด่งดังในระดับโลก
1
Cr. Caixin Global
จึงเกิดเป็นแอปพลิเคชันแบบเดียวกันกับ Douyin ที่เปิดให้คนนอกประเทศจีนได้ใช้
แอปพลิเคชันนี้เองที่ชื่อว่า “TikTok”
หลังจากเปิดตัวไปได้เพียงสองปี
ในปี 2018 TikTok ก็มียอดการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมากถึง 800 ล้านครั้ง
ด้วยฟีเจอร์สนุกๆ สำหรับการสร้างสรรค์วิดีโอสั้นมากมาย
ทำให้ไม่เพียงแต่คนทั่วไปเท่านั้นที่เข้ามาใช้งาน
TikTok ยังเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในเหล่าดาราและคนมีชื่อเสียง
ทั้งในต่างประเทศ รวมถึงคนดังในไทย
ปรากฏการณ์นี้ยิ่งเป็นแม่เหล็กดึงดูดให้คนเข้ามาใช้งาน TikTok มากขึ้น
Cr. แนวหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น การระบาดของโควิด-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020
ยิ่งเป็นปัจจัยที่ดันให้ยอดการใช้งาน TikTok เพิ่มมากขึ้นอีก
เพียงแค่ไตรมาสแรกของปี 2020 ไตรมาสเดียว
TikTok มียอดการดาวน์โหลดมากถึง 315 ล้านครั้ง
จนในปัจจุบัน TikTok มียอดดาวน์โหลดเกินกว่า 2,000 ล้านครั้งแล้ว
2
อีกสิ่งสำคัญที่น่าสนใจคือ
TikTok ให้ความสำคัญกับการพัฒนาระบบ AI
ในการคัดเลือกคอนเทนต์ให้ตรงตามความชอบของผู้ใช้งาน
เพื่อดึงดูดผู้ใช้ให้อยู่ในแอปพลิเคชันให้ได้นานที่สุด
1
จนในปัจจุบัน TikTok มียอดผู้ใช้งานต่อเดือนมากถึง 800 ล้านคน
และมีระยะเวลาในการใช้งานแอปพลิเคชันเฉลี่ยมากถึง 52 นาทีต่อคนต่อวัน
เมื่อเทียบกับแอปพลิเคชันโซเชียลมีเดียอื่นๆ แล้ว
ก็ต้องบอกว่า TikTok กำลังก้าวขึ้นมาท้าทายแพลตฟอร์มอื่นอย่างดุเดือด
Facebook มียอดผู้ใช้งานประมาณ 2,500 ล้านคนต่อเดือน
YouTube มียอดผู้ใช้งานประมาณ 2,000 ล้านคนต่อเดือน
Instagram มียอดผู้ใช้งานประมาณ 1,000 ล้านคนต่อเดือน
TikTok มียอดผู้ใช้งานประมาณ 800 ล้านคนต่อเดือน
1
กระแสความนิยมและฐานผู้ใช้งานที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ TikTok
ทำให้รายได้จากค่าโฆษณาและการขายสินค้าภายในแอปพลิเคชัน
เช่น เหรียญหรือของขวัญ เพิ่มขึ้นอย่างมาก
Cr. CEO Channel
รายได้ของบริษัท ByteDance เจ้าของ TikTok
1
ปี 2018 ByteDance มีรายได้ 229,000 ล้านบาท
ปี 2019 ByteDance มีรายได้ 527,000 ล้านบาท
รายได้ของ ByteDance โตขึ้นถึง 130% ในหนึ่งปี
ในช่วงสามเดือนแรกของปี 2020
ByteDance ทำรายได้ไปแล้วประมาณ 173,600 ล้านบาท
ถ้าเป็นไปตามเป้า
ByteDance จะมีรายได้ในปี 2020 ทั้งหมด 874,000 ล้านบาท
1
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ ByteDance บริษัทแม่ของ TikTok
ถูกประเมินมูลค่าไว้สูงถึงประมาณ 4.6 ล้านล้านบาท
มูลค่านี้มากขนาดไหน?
ลองมาเทียบกับ ปตท. บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
มูลค่าตลาดของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เท่ากับ 1.1 ล้านล้านบาท
มูลค่าประมาณการของ ByteDance เท่ากับ 4.6 ล้านล้านบาท
จะเห็นว่า นักลงทุนให้มูลค่ากับ ByteDance สูงกว่า ปตท. ถึง 4 เท่า
เรื่องนี้กำลังบอกอะไร?
เรื่องนี้ทำให้เราเห็นว่า การสร้างมูลค่าให้กับบริษัทหรือสิ่งที่ทำ
ไม่จำเป็นจะต้องอาศัยการมีทรัพยากรมากมายหรือใช้เวลานานเสมอไป
4
ประเด็นก็คือ เราต้องหามูลค่าที่ซ่อนอยู่ในเรื่องง่ายๆ ในชีวิตประจำวันของทุกคนให้เจอ
อย่างที่ TikTok รู้ว่าคนชอบดูวิดีโอสั้นๆ และอยากได้พื้นที่ให้เผยแพร่คอนเทนต์ของตัวเอง
2
Cr. Manager Online
ก็ไม่น่าเชื่อว่าแนวคิดง่ายๆ เพียงแค่นี้
กลับไปตอบโจทย์ความต้องการของคนทั่วโลก และเกิดเป็นมูลค่าขึ้นได้มาก
มากจน เราคิดไม่ถึงว่าแอปแบบนี้จะมีมูลค่าไม่แพ้ บริษัทใหญ่ๆ ในอุตสาหกรรมอื่น..
โฆษณา