Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สมองจ๋า
•
ติดตาม
30 มิ.ย. 2020 เวลา 05:25 • ประวัติศาสตร์
"วลาดยอดนักเสียบ" ชื่อนี้ไม่ได้มาเพราะโชคช่วย แต่ได้มาเพราะความโหดร้าย ป่าเถื่อน ของกษัตริย์ที่ชื่อ "วลาด แดร็กคิวล่าที่ 3" กษัตริย์ผู้ชอบจับเอาเชลยศึกมาเสียบเล่น แล้วฟังเสียงร้องอันโหยหวนราวกับเป็นเสียงเพลง
กระทั่งในยุคต่อมา ความโหดร้ายของวลาดผู้นี้ถูกนำมาแต่งเป็นเรื่องราวสุดโด่งดังที่เรียกกันว่า "แดร็กคิวล่า"
แต่เรื่องราวความโหดร้ายทั้งหมดจะเป็นอย่างไร บทความนี้จะพาคุณไปดูให้เห็นแบบถึงพริกถึงขิงกัน!!
ภาพยนตร์เรื่อง "แดร็กคิวล่า" มีต้นกำเนิดมาจากวลาด แดร็กคิวล่า หรือ วลาดที่ 3 ผู้ปกครองเมืองที่มีอยู่จริงในหน้าประวัติศาสตร์โรมาเนีย
พระองค์ทรงขึ้นชื่อเรื่องความโหดในสนามรบมากๆ โหดชนิดที่ว่าเมื่อพูดถึงชื่อของพระองค์ทีไร นักประวัติศาสตร์จะต้องนึกถึงแต่เรื่องการทรมานคนและการฆ่าคนอยู่ตลอดเวลา
แต่ก่อนจะไปเล่าถึงความโหดร้ายนั้น เพื่อให้เข้าใจเรื่องราวอย่างลึกซึ้ง เราจะพาคุณไปดูพื้นเพชีวิตของวลาดผู้นี้ก่อนว่ามีความเป็นมาอย่างไรบ้าง
ย้อนกลับไปในช่วงปี ค.ศ. 1431 ยุคสมัยของวลาดที่ 3 ประเทศโรมาเนียถูกแบ่งออกเป็น 3 อาณาจักร คือ วัลลาเชีย, มอลดาเวีย, ทรานซิลเวเนีย
โดยในแต่ละเมืองจะมีผู้ปกครองประจำอาณาจักรนั้นๆ ซึ่งวลาดที่ 3 เป็นผู้ปกครองเมืองวัลลาเซีย ต่อจากวลาดที่ 2 ผู้เป็นบิดา
โดยบิดาของวลาดที่ 3 ก็ไม่ธรรมดาเลย เพราะบิดาเป็นถึงสมาชิก "ภาคีแห่งมังกร" (Order of the Dragon) สมาคมที่ทำหน้าที่พิทักษ์ศาสนาคริสต์ในยุโรปตะวันออก
ตำแหน่งนี้ถือเป็นตำแหน่งที่มีเกียรติและจะถูกส่งต่อมายังทายาทรุ่นต่อไปด้วย นั่นหมายความว่า วลาดที่ 3 ก็ถือเป็นหนึ่งในภาคีแห่งมังกรด้วยเช่นกัน
ฟังดูแล้วอนาคตของวลาดที่ 3 น่าจะไปได้ดีแน่ เพราะมีบิดาที่ยิ่งใหญ่และเป็นถึงสมาชิกภาคีแห่งมังกร แถมตนเองก็ได้รับเกีรยตินั้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นอนาคตของพระองค์คงต้องยิ่งใหญ่แน่ๆ
แต่ในความเป็นจริงแล้ว มันไม่ใช่แบบนั้นเลย ทุกอย่างมันสวนทางกันหมด
ในวัยเด็ก วลาดที่ 3 มีชีวิตที่ผ่านความเป็นความตายและความยากลำบากมามาก พระองค์เคยถูกจับเป็นตัวประกันพร้อมกับน้องชายที่ชื่อ ราดู ไปยังจักรวรรดิออตโตมัน
พอโตขึ้นมาก็ถูกสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 แห่งจักรวรรดิออตโตมัน เข้ามารุกรานอีก เรียกได้ว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ โดยเฉพาะในช่วงการถูกรุกรานจากสุลต่านเมห์เหม็ดที่ 2 ที่ได้กลายเป็นจุดเปลี่ยนของพระองค์ไปตลอดกาล
เพราะในช่วงนั้นเหล่าขุนนางและประชาชนต้องการสนับสนุนให้ ราดู ผู้เป็นน้องชายได้ขึ้นปกครองอาณาจักรวัลลาเซีย ไม่ใช่วลาดที่ 3 เพราะวลาดที่ 3 เป็นนักปกครองที่ไม่ได้เป็นที่นิยมแก่ขุนนาง จะทำอะไรก็ติดขัดไปหมด มิหนำซ้ำประชาชนยังไม่ค่อยสนับสนุนพระองค์เท่าที่ควร แถมข่าวการโดนไล่ลงจากบัลลงค์ก็หนาหูขึ้นมาเรื่อยๆ
เมื่อเป็นเช่นนี้ วลาดที่ 3 ไม่มีทางเลือก นอกจากการขอความช่วยเหลือจากเมืองอื่น ซึ่งเมืองที่พระองค์ตัดสินใจขอความช่วยเหลือคือเมืองฮังการี มีผู้ปกครองคือ แมทเธียส คอร์วินัส
วลาดที่ 3 รีบเข้าติดต่อกับแมทเธียส คอร์วินัส เพื่อให้ช่วยพระองค์เรื่องการถูกล้มบัลลังค์ และจะขอเข้าไปที่เมืองฮังการีด้วย
แต่พอพระองค์เดินทางไปที่ฮังการีแล้ว โชคกลับไม่เข้าข้างพระองค์ เพราะอยู่ๆ แมทเธียสได้ทำการควบคุมตัววลาดที่ 3 ทันที สร้างความตกใจให้กับฝ่ายของวลาดที่ 3 มากๆ
ยิ่งไปกว่านั้น ในขณะที่วลาดที่ 3 ถูกควบคุมตัว ราดูผู้เป็นน้องชายก็ได้ยึดครองปราสาทโพเอนารี่ ของพระองค์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ถึงตรงนี้ ดูเหมือนว่าเส้นทางการครองบัลลังค์ของพระองค์มันช่างริบหรี่เต็มที ปราสาทก็ถูกยึด ประชาชนและขุนนางก็ไม่ค่อยสนับสนุน แถมยังถูกควบคุมตัวกับเมืองที่จะมาขอความช่วยเหลืออีก มองดูแล้วไม่มีมุมไหนเลยที่วลาดที่ 3 จะกลับไปกู้คืนบัลลังค์ของพระองค์เองได้
แต่ใครจะไปรู้ล่ะ ในวันที่ทุกอย่างมืดมิด มันอาจมี "แสงสว่างในปลายอุโมงค์" อยู่ที่ไหนสักแห่ง
เช่นเดียวกับวลาดที่ 3 พระองค์ยังคงอดทนรอโอกาสต่อไป แม้ตัวเองจะถูกควบคุมตัวและโดนตัดโอกาสจากทุกด้านก็ตาม
จนในที่สุดการรอคอยของพระองค์ก็สิ้นสุดลง เมื่อแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์มาถึง พระองค์ได้รับข้อเสนอจากแมทเธียส ผู้ที่ควบคุมตัว ด้วยการเสนอ 2 เงื่อนไข เพื่อแลกกับการปล่อยตัว คือ
1.พระองค์ต้องเปลี่ยนมานับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก เช่นเดียวกับกษัตริย์แมทเธียส คอร์วินัส แห่งฮังการี
2.พระองค์จะต้องสมรสกับสตรีในราชวงศ์ฮังกาเรียน ที่ชื่อ Ilona Szilágyi
ถึงตรงนี้ เพื่อให้กลับไปครองบัลลังค์ได้อีกครั้ง วลาดที่ 3 ทรงตอบ "ตกลง"
นั่นแปลว่าหลังจากนี้ วลาดที่ 3 จะกลายเป็นผู้นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก และจะสมรสกับหญิงสาวที่ชื่อ Ilona Szilágyi
มาถึงตรงนี้ดูเหมือนว่าชีวิตของวลาดที่ 3 มันน่าสงสารและน่าเห็นใจมากเลยใช่ไหมครับ แถมอ่านแล้วก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับเรื่องของแดร็กคูล่าตรงไหน
อันนี้ต้องใจเย็นๆ ก่อนเด้อ เพราะเรื่องราวหลังจากนี้ต่อไปนี่แหละ จะเป็นความโหดร้ายของพระองค์ จนนำไปสู่แรงบันดาลใจของภาพยนตร์สุดโด่งดังเรื่อง "แดร็กคิวล่า"
หลังจากพระองค์ได้รับการปล่อยตัว ราดู น้องชายของพระองค์ก็สิ้นชีพพอดี ในขณะที่เมืองวัลลาเชียก็กำลังถูกปกครองโดยพวกออตโตมันอยู่
เมื่อวลาดที่ 3 ที่ได้รับการปล่อยตัวมาเห็นดังนั้น จึงนำคนไปขับไล่พวกออตโตมันออกจากเมือง แล้วทำการแต่งตั้งพระองค์ให้เป็นผู้ปกครองวัลลาเชียอย่างสมบูรณ์ตามที่พระองค์ต้องการ
หลังจากขับไล่พวกออตโตมันและตั้งตนปกครองเมือง คราวนี้วลาดที่ 3 ได้เป็นกษัตริย์แบบสมบูรณ์แล้ว อำนาจทุกอย่างอยู่ในมือพระองค์ทั้งหมด ดังนั้นเป้าหมายต่อไปคือการแก้แค้นและขับไล่พวกที่เคยมารุกรานพระองค์ให้หมดแบบสิ้นซาก
ปี 1476 วลาดที่ 3 ทำสงครามกับชาวเติร์ก พระองค์ทำสงครามแบบป่าเถื่อนมาก ทุกครั้งที่จับเชลยศึกมาได้ พระองค์จะให้ทหารตัดไม้แหลมยาวมาปักไว้ที่โล่งแจ้ง แล้วเอาเชลยศึกมาเสียบแบบเป็นๆ
โดยวิธีการเสียบคือ เสียบจากทวารหนักให้ทะลุไปจนถึงปาก หลังจากนั้นเชลยศึกจะค่อยๆ ดิ้นอย่างทุรนทุรายและร้องไห้อย่างโหยหวนจนเสียชีวิตไปเอง
แต่บางครั้งวลาดก็เอาเชลยศึกนับหมื่นมาเสียบทีเดียว แล้วนั่งฟังเสียงร้องอันทรมานของเชลยศึกเหล่านั้นอย่างรื่นรมย์
การเสียบคนแบบนี้ จะถูกนำไปปักไว้ตามที่ต่างๆ ทั้งทุ่งนา ข้างทาง เพื่อสร้างความหวาดกลัวให้กับศัตรู แต่พอทำไปนานๆเข้า ชื่อเสียงของวลาดที่ 3 เริ่มถูกเรียกกันว่า "วลาดจอมเสียบ" (Vlad the Impaler) เพราะนิสัยที่ชอบเสียบคนแบบนี้แหละ
ไม่เพียงแค่นั้น ผู้คนเริ่มเล่ากันปากต่อปากว่า วลาดจอมเสียบชอบ "ดื่มเลือดคน" ด้วย ซึ่งเลือดที่ว่าก็มาจากเลือดของพวกเชลยศึก ด้วยการเอาถังไปรองเลือดของคนที่ถูกเสียบแล้วให้มันไหลลงถัง จากนั้นวลาดก็จะนำไปดื่มแบบสดๆ
และเรื่องราวแบบนี้ล่ะครับ ทำให้ "บราม สโตกเกอร์" นักเขียนนวนิยายชาวไอร์แลนด์ ได้นำไปเป็นแรงบันดาลใจ (ส่วนหนึ่ง) ในการเขียนเรื่อง "แดร็กคูล่า" ในปี ค.ศ. 1897 ก่อนที่มันจะโด่งดังไปทั่วโลกจนถึงปัจจุบัน
ในขณะที่ปราสาทโพเอนารี่ ของวลาดที่ 3 ก็ถูกนำมาเชื่อมโยงกับเรื่องราวของแดร็กคูล่าด้วย ซึ่งปราสาทนี้มีอยู่จริงและสร้างความเป็นปริศนาและความเชื่อที่น่าติดตามของแดร็กคูล่าอยู่ไม่น้อยเลย
เช่นเคยครับ ใครมีความคิดเห็นอย่างไร สามารถแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างอิสระเลยเด้อ
facebook.com
Đăng nhập hoặc đăng ký để xem
Xem bài viết, ảnh và nội dung khác trên Facebook.
เยี่ยมชม
References
https://www.silpa-mag.com/history/article_51775
https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A7%E0%B8%A5%E0%B8%B2%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88_3_%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%9A
http://www.tartoh.com/topic/8329/%E0%B8%95%E0%B8%B3%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%99-%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%84%E0%B8%B9%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%B2-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%8A%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B8%E0%B8%93%E0%B8%AD%E0%B8%B2%E0%B8%88%E0%B9%80%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81
3 บันทึก
6
2
4
3
6
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย