27 มิ.ย. 2020 เวลา 10:20 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
Link Style พลังอำนาจการเชื่อมโยงด้วยหลักเหตุผล
เมื่อมนุษย์เผชิญหน้ากับเหตุการณ์เหนือธรรมชาติยากจะอธิบาย ในการรับรู้ของคนเรานั้นมักใช้วิธีการเชื่อมโยงเพื่อหาเหตุผลมารองรับ โดยเฉพาะกับเหตุการณ์ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องกัน
ยกตัวอย่าง เช่น การเดินทางออกนอกบ้านแล้วประสบอุบัติเหตุคนเราจะมองหาความเชื่อมโยงว่าอาจเกิดจากการใส่เสื้อผ้าสีฉูดฉาดหรือการก้าวขาผิดข้างออกจากบ้าน
ซึ่งในความเป็นจริงการที่คนเราจะประสบอุบัติเหตุหรือไม่นั้นไม่ได้มีความเกี่ยวโยงใด ๆ กับปัจจัยการแต่งตัวหรือการเลือกก้าวขาไหนนำแต่อย่างใด
หากแต่การคิดเชื่อมโยงด้วยเหตุผลต่าง ๆ นานาสามารถทำใจยอมรับได้มากกว่าการเชื่อว่าเหตุการณ์ทั้งสองอย่างไม่มีความสัมพันธ์กัน
ด้วยหลักเกณฑ์ดังนี้ อาชีพหมอดูที่ถึงแม้การทำนายจะไม่แม่นขนาดไหนก็ยังมีคนหลงเชื่อเพราะใช้ความนึกคิดเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าด้วยกัน
ดังนั้นการจะเชื่อมโยงอะไรกับเหตุการณ์ไหนแทนที่จะใช้ความรู้สึกเป็นผู้นำควรใช้หลักเกณฑ์ทางสถิติมาอธิบายจะดีกว่า
ในทางรูปธรรมหากคนเราจะเชื่อว่าการใส่เสื้อสีเขียวจะทำให้โชคร้ายประสบเคราะห์ภัยมากกว่าการใส่เสื้อสีอื่น เราก็ควรทำการทดสอบซ้ำ ๆ ว่ามีความเชื่อมโยงกันจริงหรือไม่
ซึ่งผลที่ได้ควรมีค่าความสัมพันธ์มากกว่า 75% ขึ้นไป
ตัวอย่างง่าย ๆ ถ้าใน 5 วันทำงานคุณใส่เสื้อสีเขียวแล้วเจอโชคร้ายทุกวันคงไม่ต้องบอกว่ามีความสัมพันธ์ขนาดไหนระหว่างเรื่องไม่ดีกับสีเสื้อที่ใส่ แต่ในทางตรงกันข้ามหากคุณโดนดีเข้าวันหนึ่งคงมิอาจผู้ได้ว่าเสื้อสีเขียวนำพาโชคร้ายมาให้
สุดท้ายก่อนจะเชื่อมโยงเหตุการณ์ไหนเข้าด้วยกันควรพิสูจน์ด้วยหลักการทางสถิติก่อน เพราะหากพูดถึงความเชื่อมโยงวิทยาศาสตร์สามารถอธิบายได้ดีกว่าการปักใจเชื่อโดยไม่ไตร่ตรองเยอะ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา