เมนูบ้านป่า #งูสิงห์ 🐍 ตอนที่สอง
หลังจากที่อุปกรณ์ในการก่อไฟมาครบ ประกอบไปด้วยไฟแช็ค กาบมะพร้าว น้ำมันก๊าซ พ่อจัดการนำกาบมะพร้าวมากองรวมกัน ราดน้ำมันก๊าดลงไป 1 ฝา แล้วเอากิ่งไม้ที่หาได้จากบริเวณนั้นมาสุมรวมกัน แล้วก็จุดไฟลุกขึ้น
เมื่อไฟติดได้ที่พ่อจัดการนำร่างอันไร้วิญญาณของเจ้างูสิงห์ผู้เคราะห์ร้าย มาขดเป็นวงกลม ในลักษณะเหมือนที่มันกำลังขดอยู่ตามธรรมชาติ แล้วนำลวดเล็กๆมาพันเป็นปล้องๆเพื่อไม่ให้มันคลายตัว
เมื่อไฟลุกติดจนหมดเปลวไฟแล้ว พ่อจัดการโยนงูลงไปในกองไฟ แล้วคอยพลิกไปพลิกมา ให้ไฟลุกลามเลียทั่วตัวของงู เมื่อความร้อนถึงจุดสูงสุด งูตัวนั้นจึงปรากฏเพศออกมาได้อย่างชัดเจนเป็นงูสิงห์คานตัวผู้ ใครไม่เคยเห็นอวัยวะเพศของงูตัวผู้ ให้นึกถึงหญ้าเขี้ยวงูเอาไว้ครับ แถวบ้านจะเรียกว่าหญ้า #ควยงู (ขออนุญาตใช้คำพื้นบ้าน ) มันเหมือนกันยังไงยังงั้น มีลักษณะเป็น 2 แท่ง แยกออกซ้ายขวา ดูแปลกตาดี
เมื่อความร้อนจัดการกับงูจนพอดีแล้ว พ่อจัดการเขี่ยมันออกมาจากกองไฟ แล้วบอกให้ผมไปหยิบคีมปากนกแก้วในกระป๋องเครื่องมือช่างมาให้ ตอนแรกก็ยังไม่เข้าใจว่าพ่อจะให้เอามาทำอะไร แต่ก็ต้องไปตามบัญชา
พ่อใช้คีมปากนกแก้วตัดลวดที่มัดเจ้างูไว้ ออกทั้งหมด และใช้นิ้วชี้ของพ่อเองกดลงไปกลางลำตัวซึ่งทำได้ง่ายดายมากเพราะความร้อนทำให้เนื้อหนังของเจ้างูในตรงนั้นนุ่มนิ่มหมดแล้ว และลากนิ้วยาวตั้งแต่กลางลำตัวจนไปถึงหัวและจากกลางตัวลงไปถึงสิ้นสุดที่อวัยวะเพศงู นำเครื่องในทั้งหมดออกมา
เสร็จแล้วจึงใช้มีดฟันงูเป็นท่อนๆยาวขนาดฝ่ามือ จัดการใช้คีมปากนกแก้วที่ผมได้มา ดึงซี่โครงของงูออกทีละชิ้นอย่างประณีต พ่อพิถีพิถันในการทำมากใช้เวลาเกือบชั่วโมงในการไล่ดึงซี่โครงทุกซี่ในตัวของงูออกมากองได้ประมาณ 1 จานเล็ก และจัดการดึงเอากระดูกสันหลังออกมา สิ่งที่อยู่ในจานนั่นก็คือเนื้องูล้วนๆไม่มีอะไรผสมเลย และขั้นตอนสุดท้ายคือการสับละเอียด
หลายที่ผมเคยได้ลองกินงู จะมีวิธีทำ 2 แบบครับคือสับเป็นชิ้นๆและสับละเอียด ซึ่งสับละเอียดนี้จะใส่กระดูกทั้งหมดของงูลงไปด้วย โดยการสับไปทั้งตัวไม่ได้แยกกระดูกออก เวลากินจะให้สัมผัสที่ไม่ค่อยราบรื่นนัก เพราะจะเจอเศษกระดูกเวลาเคี้ยว
แต่สิ่งที่พ่อทำ มันทำให้การกินงูในครั้งนั้น เหมือนวิ่งไปบนถนนไฮเวย์ลาดยางราบเรียบไม่มีอะไรให้ขลุกขลักเลยสักนิด
กระบวนการตั้งแต่นำไปเผาไฟจนถึงสับละเอียด กินเวลาร่วมเกือบ 2 ชั่วโมง เมื่อเสร็จแล้วพ่อจึงให้ผมถือจานสักงูไปให้แม่ที่ในครัว ซึ่งเหมือนกับว่าแม่เองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าจะต้องทำอะไร
- กระเทียม
- ช่อผักชี
- ผิวมะกรูด
- เมล็ดผักชี
- ดีปลี
- พริกแห้ง
- เกลือเม็ด
- ช่อกระเพรา
ทั้งหมดทั้งมวลโขลกรวมกันในครกหิน จนละเอียด แม่จัดการตั้งกระทะใส่น้ำมันลงไปนิดหน่อยพอน้ำมันร้อนก็ใส่เครื่องผัดลงไป เจียวเครื่องผัดจนหอมและสังเกตว่าออกเหลือง จึงนำเนื้องูที่สับรออยู่แล้วใส่ลงไป ผัดไปได้พอเนื้องูเริ่มสะดุ้ง เหล้าขาวต้มเองสูตรบ้านป่าดีกรีทะลุ 80 ซึ่งสรรพสามิตมาตรวจและลองชิมต้องทำหน้าเหยเกกลับไป
1 แก้วก๊ง สาดลงไปในกระทะที่กำลังผัดอยู่เพื่อเป็นการดับกลิ่นคาวของเนื้องูไปในตัว อันที่จริงไม่ต้องก็ได้ครับเพราะเครื่องเทศที่กล่าวมาข้างต้นก็เพียงพอแล้วสำหรับการดับคาวของงู
เมื่อทุกอย่างเข้ากันสิ่งสุดท้ายที่แม่ใส่ลงไปคือ ยอดกระเพราอ่อนและยอดชะอม ใช้ตะหลิวกวนๆผัดพลิกไปมาสองสามทีแล้วปลงลง
#ผัดเผ็ดงูสิงห์สูตรบ้านป่าจึงพร้อมเสิร์ฟ
ได้ข้าวสวยร้อนๆสักจานกลิ่นมันหอมยั่วยวนจริงๆ (สงสัยสิ้นเดือนนี้ต้องกลับบ้านไปไล่ตีงูให้พ่อทำให้กินซะแล้ว)
ป.ล. ภาพด้านล่างเป็นภาพของผัดหนูนา ซึ่งผมพยายามหาภาพของผัดงูที่ใกล้เคียงกับที่แม่ผัดไม่เจอมีแต่ผัดหนูนาในภาพนั่นแหละครับที่ลักษณะมันใกล้เคียงเหมือนกับผัดงูที่เสร็จแล้ว จึงเอามาให้ดูเป็นภาพเปรียบเทียบ
เมนูอาหารบ้านป่า #ผัดเผ็ดงูสิงห์ 🐍 จบตอน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
