Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เสียบสามเหลี่ยม
•
ติดตาม
27 มิ.ย. 2020 เวลา 13:27 • ประวัติศาสตร์
กว่าที่ ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกที่ใฝ่ฝันมานาน 30 ปี ถือว่าพวกเขาใช้เวลารอคอยสถานะการเป็น “แชมป์ลีกสูงสุด” อีกครั้งนานถึง 11,016 วัน
“หนึ่งหมื่นหนึ่งพันสิบหกวัน” เลยนะครับ นับจากวันที่ ลิเวอร์พูล การันตีตำแหน่งแชมป์ลีกสมัยที่ 18 จนถึงการได้แชมป์สมัยที่ 19 เมื่อวันพุธที่ 25 มิถุนายน 2020 ที่ เชลซี ช่วยเปิดบ้านชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ให้ 2-1
ก่อนหน้านี้ ทีมหงส์แดงได้แชมป์ลีกสูงสุดครั้งสุดท้าย คือวันที่ 28 เมษายน 1990 จากการเปิดบ้านชนะ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ไป 2-1 ซึ่งถือเป็นการได้แชมป์ก่อนฤดูกาล 1989-90 จะจบลง 2 เกม
ในวันนั้น ยอดโค้ชของสโมสรคนปัจจุบันอย่าง เจอร์เก้น คล็อปป์ เพิ่งจะอายุแค่ 22 ปี และยังเป็นนักเตะของทีมระดับท้องถิ่นของเยอรมนีอย่าง ร็อต-ไวส์ แฟร้งค์เฟิร์ต
ส่วนนักเตะของ ลิเวอร์พูล ชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกชุดล่าสุด ที่เกิดก่อนวันสุดท้ายที่สโมสรได้แชมป์ลีกมีเพียง 4 คนเท่านั้น
ทั้ง 4 คนนั้น ส่วนใหญ่เป็นแค่ตัวสำรองของทีมชุดนี้ ได้แก่ แอนดี้ โลเนอร์แกน นายประตูมือสี่วัย 36 ปี, เจมส์ มิลเนอร์ กองกลางตัวเก๋าวัย 34 ปี, อาเดรียน นายด่านมือสองวัย 33 ปี และ อดัม ลัลลาน่า มิดฟิลด์วัย 32 ปี
ส่วนกัปตันทีมอย่าง จอร์แดน เฮนเดอร์สัน แม้จะเกิดในปี 1990 แต่เขาลืมตาดูโลกวันที่ 17 มิถุนายน นั่นหมายความว่าเฮนโด้ยังไม่ออกมาจากครรภ์มารดา ในวันที่ เคนนี่ ดัลกลิช คุมทีมได้แชมป์ดิวิชั่น 1 เดิม
ถ้าหากแฟนบอล แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คิดว่าครั้งสุดท้ายที่ได้เห็นทีมรักคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ในปี 2013 คือการรอคอยที่ยาวนาน
ถ้าหากบรรดา เดอะ กันเนอร์ส คิดว่าภาพครั้งสุดท้ายที่ อาร์เซน่อล ได้แชมป์ลีกแบบไร้พ่ายในปี 2004 มันเริ่มเลือนหายไปจากความทรงจำ
มันก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กหงส์ต้องเจอกับช่วงเวลารอคอยที่ทรมานกว่า
ผมเชื่อว่าคนที่เกิดทันเห็นภาพ ลิเวอร์พูล ชูถ้วยแชมป์ลีกเมื่อปี 1990 กับตาตัวเอง ตอนนี้อย่างต่ำๆ อายุต้องเกือบๆ 40 ปี
แล้วช่วงเวลา 30 ปีที่รอคอย มันนานขนาดไหนในความรู้สึกของแฟนบอล...
ลองนั่งไทม์แมชชีนย้อนไปดูกันนะครับ ว่าในวันที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกสมัยที่ 18 มีอะไรบ้างที่ทุกวันนี้เรารู้จักดี แต่ตอนนั้นมันยังไม่เคยเกิดขึ้นในโลก
เริ่มต้นที่วงการฟุตบอลกันก่อน ย้อนไปเมื่อ 30 ปีที่แล้ว พรีเมียร์ลีก กับ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ยังไม่ได้ก่อตั้งขึ้น
พรีเมียร์ลีก และ แชมเปี้ยนส์ ลีก เริ่มต้นขึ้นในฤดูกาลเดียวกันคือซีซั่น 1992-93 โดยก่อนหน้านั้นคือ ดิวิชั่น 1 เดิม และ ยูโรเปี้ยน คัพ ตามลำดับ
และแน่นอนว่าในวันที่ ลิเวอร์พูล ได้ไปแล้วถึง 18 สมัย เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ยังไม่เคยพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้แชมป์เลยสักถ้วย
ในตอนนั้น โลกก็ยังไม่เคยมีนักเตะคนไหนที่ค่าตัวเกินกว่า 10 ล้านปอนด์
ซัมเมอร์ปี 1990 โรแบร์โต้ บาจโจ้ กลายเป็นผู้เล่นค่าตัวแพงที่สุดในโลก เมื่อย้ายจาก ฟิออเรนติน่า ไปอยู่กับ ยูเวนตุส ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ ซึ่งราคาแบบนั้น ไม่มีทางซื้อซูเปอร์สตาร์ในยุคนี้ได้
หลังจากนั้น วงการฟุตบอลมีการทำลายสถิตินักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกเกิดขึ้นถึง 16 ครั้ง โดยล่าสุดสถิติมาหยุดอยู่ที่ค่าตัวของ เนย์มาร์ ที่ย้ายจาก บาร์เซโลน่า ไป เปแอสเช เมื่อปี 2017 ด้วยสนนราคา 198 ล้านปอนด์
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อ 30 ปีก่อน นักเตะที่มีสัญชาตินอกทวีปยุโรป ก็ยังไม่มีสิทธิ์คว้ารางวัล บัลลง ดอร์
จอร์จ เวอาห์ อดีตกองหน้าตำนานทีมชาติไลบีเรีย คือความภูมิใจของทวีปแอฟริกา เพราะเขาคือนักเตะที่ไม่ใช่ชาวยุโรปคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้า บัลลง ดอร์ ได้ในปี 1995 ส่วนปัจจุบันเขาคือประธานาธิบดีของไลบีเรีย
และในปี 1990 บางที 2 ยอดแข้งแห่งโลกยุคปัจจุบันทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ และ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ น่าจะยังเตะบอลขั้นพื้นฐานไม่เป็นด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้น เมสซี่ อายุแค่ 3 ขวบ ส่วน โรนัลโด้ ก็เพิ่งลืมตาดูโลกแค่ 5 ปี
ในปีสุดท้ายที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกอังกฤษ มันยังเป็นปีที่หลายๆ ประเทศยังไม่ปรากฏชื่อบนแผนที่โลก
ในปี 1990 เยอรมนี ยังแบ่งออกเป็นฝั่งตะวันออกและตะวันตก เพราะกำแพงเบอร์ลินยังไม่ถูกทุบทิ้งอย่างเป็นทางการ
สหภาพโซเวียต ก็ยังไม่ล่มสลาย แต่หลังจากวันที่ 25 ธันวาคม 1991 เป็นต้นมา ปัจจุบันดินแดนดังกล่าวมีการมีการแยกตัวออกมาเป็น 15 ประเทศ โดย รัสเซีย คือสหพันธรัฐที่ใหญ่ที่สุดในโลก
ปี 1990 ยูโกสลาเวีย ยังรวมกันเป็นประเทศเดียว แต่หลังจากปี 1992 เป็นต้นมา พวกเขาแยกดินแดนออกมา และปัจจุบันกลายเป็น 7 ประเทศ ประกอบด้วย เซอร์เบีย, มอนเตเนโกร, โครเอเชีย, สโลวีเนีย, มาซิโดเนีย, บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และ โคโซโว
ในตอนนั้นทวีปยุโรปยังมีประเทศที่ชื่อ เชโกสโลวาเกีย ก่อนที่จะแบ่งออกเป็น สาธารณรัฐเช็ก และ สโลวาเกีย ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 1993
ขณะที่ประเทศใหม่ล่าสุดของโลกได้แก่ เซาธ์ ซูดาน ที่ประกาศเอกราชจาก ซูดาน ชาติในทวีปแอฟริกา เมื่อปี 2011
แน่นอนว่าถ้าคุณนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปในยุค 90 คุณจะไม่มีทางรู้จักกับสิ่งที่เรียกว่าสมาร์ทโฟน และเมื่อ 30 ปีที่แล้วคุณคงไม่เชื่อแน่ ว่าวันหนึ่งคุณจะมีโทรศัพท์ที่ใช้ระบบจอสัมผัส
เฟซบุ๊ก, ยูทูบ, อินสตาแกรม, ว็อทส์แอป, ทวิตเตอร์, ระบบแอนดรอยด์ หรือ iOS ศัพท์พวกนี้คืออะไร คนยุคนั้นล้วนไม่เคยได้ยินมาก่อน
เว็บเสิร์ชข้อมูลอันดับหนึ่งของโลกอย่าง Google กว่าจะก่อตั้งครั้งแรกก็ต้องรอจนถึงปี 1998
เอาแค่ให้อินเตอร์เน็ตเปิดบริการให้คนไทยได้ใช้งาน ยังต้องรอจนถึงปี 1996
ส่วนเว็บไซต์แรกของโลก เกิดขึ้นในวันที่ 6 สิงหาคม 1991 คือเว็บขององค์การวิจัยนิวเคลียร์ของยุโรป (CERN) โดยมีแอดเดรสคือ
http://info.cern.ch/hypertext/WWW/TheProject.html
ซึ่งถ้าคุณกดเข้าไปดูตอนนี้ จะพบว่าบนหน้าเว็บมีแต่ตัวหนังสือล้วนๆ
ในปี 1990 ถ้าจำไม่ผิด เครื่องเกมที่ฮิตในบ้านเรามากที่สุดน่าจะเป็น Super Famicom ที่ต้องเสียบตลับใหญ่ๆ เล่น ส่วนคนที่ไม่ซีเรียสเรื่องถูกลิขสิทธิ์ คงไปซื้อหัวโปรมาประกอบเครื่อง แล้วใส่แผ่น Floppy Disk เล่นแทน
เพลย์สเตชั่นในปี 1990 ก็ยังไม่มี เพราะกว่าจะออกวางขายรุ่นแรกสุดก็ปี 1994 ส่วนปัจจุบัน โซนี่ เพิ่งเปิดตัว เพลย์สเตชั่น 5 ไปเมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมานี้เอง
ขณะที่เกมฟีฟ่าภาคแรกของทาง อีเอ สปอร์ตส์ กว่าจะคลอดก็ต้องรอจนถึงปี 1993 โดยปัจจุบันมีการทำออกมาแล้วรวมกันทั้งหมด 36 ภาค
แน่นอนว่าโทรทัศน์ของคนยุคนั้น ยังห่างไกลจากแบบจอ LED หรือ Smart TV ที่เราคุ้นเคยในปัจจุบัน สมัยนั้นมันยังเป็นรุ่น CRT หรือที่เขานิยมเรียกกันว่า “จอแก้ว”
ผมไม่แน่ใจเท่าไรว่าถ้าไปเดินห้างสรรพสินค้าตอนนี้ ยังมีที่ไหนมีทีวีจอแก้วขายอยู่อีกหรือเปล่า
ในส่วนของวงการบันเทิง ทุกคนคงรู้ดีว่าเจ้าของสถิติหนังทำเงินสูงที่สุดในโลกตลอดกาลก็คือ Avengers : End Game ที่กวาดรายได้ไปกว่า 2,797 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังจากเข้าโรงในปี 2019
แต่ในปี 1990 แน่นอนว่ายังไม่มีหนังของจักรวาลมาร์เวลสักเรื่อง เพราะ MCU เปิดตัวเรื่องแรกคือ Iron Man ในปี 2008
ไม่ต้องเอาหนังจักรวาลมาร์เวลที่มี โรเบิร์ต ดาวนี่ย์ จูเนียร์ หรือ คริส อีแวนส์ นำแสดงก็ได้ แม้กระทั่งเรื่อง X-Men ภาคแรก ที่ ฮิวจ์ แจ็คแมน เล่นเป็นวูล์ฟเวอรีนนำแสดง กว่าจะฉาย ก็หลังจากที่ ลิเวอร์พูล ได้แชมป์ลีกสมัยที่ 18 นานถึง 10 ปี
พูดถึงเรื่องหนัง ก็นึกขึ้นได้อีกอย่าง ก็คือในปี 1990 ผู้กำกับชื่อดังทั้ง คริสโตเฟอร์ โนแลน, เควนติน แทแรนติโน่ หรือแม้กระทั่ง พชร์ อานนท์ ยังไม่ได้เริ่มกำกับหนังเลยสักเรื่อง
และในปี 1990 อย่าว่าแต่จะหาหนังดูได้ง่ายๆ เหมือนที่เรามี Netflix หรือยูทูบแบบทุกวันนี้
เพราะแม้กระทั่ง วีซีดี กว่าจะมีการผลิตออกมาครั้งแรกยังต้องรอจนถึงปี 1993 ก่อนที่เราจะมี ดีวีดี ครั้งแรกในปี 1996
คนสมัยนั้นเขาต้องไปหาซื้อหาเช่าวิดีโอมาดูกัน ถ้าสมัยที่ผมเด็กๆ จะชอบดูพวกหนังจีนกำลังภายใน หรือไม่ก็หนังแปลงร่าง ขบวนการ 5 สีมากที่สุด
ขณะที่การฟังเพลง ถ้าเป็นยุค 2020 เราแค่โหลดแอปแบบ Joox, Spotify หรือเปิดผ่านยูทูบ ก็เลือกเพลย์ลิสต์ได้ตามต้องการ แต่ในสมัยนั้น มันยังเป็นการฟังผ่านเทป, ซีดี หรือไม่ก็แผ่นเสียงเท่านั้น คือนักร้องยุคนั้น ถ้าดัง คือดังจริงจังเลย
แม้แต่ ไฟล์ MP3 ในปี 1990 ก็ยังไม่มีนะครับ เพราะมันเกิดขึ้นครั้งแรกบนโลกเมื่อปี 1993 ก่อนที่มันจะพัฒนาไปสู่สังคมที่ร้านขายเทปและซีดีเจ๊งกันเป็นแถว
ในปี 1990 วงดนตรีและเกิร์ลกรุ๊ปที่ดังมากเป็นอันดับต้นๆ ของอังกฤษอย่าง Oasis และ Spice Girls ยังไม่ได้เริ่มฟอร์มวงด้วยซ้ำ
พวกเขาวงแตกกันไปเรียบร้อย ก่อนที่ ลิเวอร์พูล จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีกซะอีก
ทีนี้มาดูที่เมืองไทยกันบ้าง ถ้าปี 1990 ก็จะตรงกับ พ.ศ.2533
คนดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตอนนั้น คือพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ โดยที่เหตุการณ์อย่าง “พฤษภาทมิฬ” ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ
ในปีนั้น ทักษิณ ชินวัตร, อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ยังไม่เริ่มเล่นการเมือง ส่วนนายกคนปัจจุบันอย่าง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังมียศแค่พันโท
เมื่อ 30 ปีก่อน คนกรุงเทพฯ ยังไม่มีรถไฟฟ้าบีทีเอส เพราะกว่าจะเปิดใช้งานก็ปี 1999 ส่วนรถไฟฟ้าใต้ดิน หรือ MRT เปิดให้บริการครั้งแรกในปี 2004
วงการบอลไทย “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ยังไม่เริ่มเล่นระดับอาชีพ แต่ในวันนี้ทุกคนรู้ดีว่าเขาคืออดีตศูนย์หน้าและโค้ชระดับตำนานของทีมชาติไทย
และเมื่อ 30 ปีที่แล้ว รายการฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนอย่าง เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ก็ยังไม่เคยมีการจัดการแข่งขัน เพราะกว่าจะจัดขึ้นครึ่งแรกก็ปี 1996 ซึ่งจนถึงตอนนี้ ทีมช้างศึกได้แชมป์ไปแล้ว 5 สมัย
ตัดภาพกลับมาที่การคว้าแชมป์ของ ลิเวอร์พูล ในฤดูกาลนี้อีกครั้ง ถือว่าพวกเขาทำผลงานได้มหัศจรรย์อย่างเหลือเชื่อ
คือในเมื่อรอคอยมานานถึง 3 ทศวรรษ ถ้าจะเป็นแชมป์ทั้งที มันก็ต้องเอาให้โลกจำไปเลย
พวกเขาคือทีมที่ได้แชมป์ก่อนจบฤดูกาลได้เร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ เมื่อทำแต้มทิ้งขาดอันดับ 2 ก่อนจบซีซั่นถึง 7 นัด
พวกเขาทำสถิติชนะเกมเหย้าติดต่อกันนานที่สุด เท่าที่พรีเมียร์ลีกเคยบันทึกมา เพราะผลงานล่าสุดที่อัด คริสตัล พาเลซ 4-0 ถือว่าแชมป์ลีกอังกฤษ 19 สมัยได้เฮที่แอนฟิลด์มานานถึง 22 นัดซ้อนเข้าไปแล้ว
ถ้าโปรแกรมในบ้าน 3 เกมข้างหน้าที่จะพบกับ แอสตัน วิลล่า, เบิร์นลี่ย์ และ เชลซี หงส์แดงยังชนะรวดทั้งหมด พวกเขาจะเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่ชนะเกมเหย้า 100% ในฤดูกาลเดียว
นอกจากนั้นแล้ว ที่ผ่านมายังไม่เคยมีทีมไหนที่เก็บได้ถึง 86 แต้มจาก 31 นัดแรกของพรีเมียร์ลีกมาก่อน ถือว่านี่คือทีมที่ทำผลงานนับตั้งแต่เปิดซีซั่นได้ดีต่อเนื่องที่สุด แบบที่ไม่มีใครเคยทำได้ขนาดนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ถ้าหาก เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมชนะอีก 5 นัดจาก 7 เกมสุดท้าย พวกเขาจะสะสมได้ถึง 101 คะแนน ทำลายสถิติแชมเปี้ยนที่มีแต้มมากที่สุด ที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ครองเอาไว้ในฤดูกาล 2017-18 ลงทันที
ก่อนที่จะถึงฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูล ชอกช้ำกับพรีเมียร์ลีกมานานมาก ผลงานที่ดีที่สุดคือการได้แค่รองแชมป์มา 5 สมัย ในปี 1991, 2002, 2009, 2014 และ 2019
เมื่อปีที่แล้ว พวกเขาก็เพิ่งเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์ฟุตบอลลีกสูงสุดอังกฤษ ที่เก็บได้ถึง 97 แต้ม แต่ยังจะอุตส่าห์พลาดแชมป์ เพราะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ดันกวาดไปถึง 98 คะแนน
แต่มาปีนี้ พวกเขากำลังจะเป็นแชมเปี้ยนที่ทิ้งห่างทีมอื่นด้วยช่องว่างที่ขาดลอยที่สุด เท่าที่ประวัติศาสตร์วงการฟุตบอลอังกฤษเคยมีบันทึกมา
ถึงแม้ว่ากว่าจะได้ชูถ้วย ก็ต้องรอจนถึงเดือนกรกฎาคม เนื่องจากโปรแกรมเดิมถูกเลื่อนออกมานานกว่า 3 เดือนจากการแพร่ระบาดของโคโรน่าไวรัส
วิกฤติโควิด-19 ถือเป็นอีกอย่าง ที่โลกไม่เคยมีมาก่อนในรอบ 30 ปี และบางทีมันอาจเป็นวิกฤติที่หนักที่สุด ที่โลกเผชิญร่วมกันในรอบ 3 ทศวรรษที่ผ่านมา
แต่เจ้าไวรัสตัวทำลายล้างมนุษย์ชนิดนี้ มันก็ยังไม่อาจหยุดยั้งการได้แชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกของ ลิเวอร์พูล ได้
...อีกสิ่งที่โลกเมื่อ 30 ปีที่แล้วไม่เคยมี ก็คือทีมที่ได้แชมป์ลีก ในแบบที่คนทั้งโลกพูดถึงมากที่สุดเนี่ยแหละครับ
#เสียบสามเหลี่ยม #Liverpool #LFC #YNWA #1990s #Football #PremierLeagueChampions #PremierLeague
ชอบกดไลค์ ถูกใจกดแชร์ และเพื่อไม่พลาดบทความคุณภาพจากเรา อย่าลืมกดไลค์เพจ และติดตามเพจแบบ See First ไว้เลยนะครับ
..สนใจติดต่อลงโฆษณา, สนับสนุนเพจ ติดต่อจ้างงานเขียนบทความฟุตบอล งานแปลข่าว เขียนสคริปต์สำหรับ Content ฟุตบอล หรือแปลหนังสือฟุตบอล ทักอินบ็อกซ์ สอบถามได้ตลอดเวลาครับ
3 บันทึก
19
1
3
19
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย