27 มิ.ย. 2020 เวลา 14:43 • ปรัชญา
คนไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก
ณ ที่ชนบทแห่งหนึ่ง ตากับหลานชายต้องเดินทางไปทำธุระที่ต่างเมือง โดยมีลาเป็นพาหนะสำหรับเดินทาง ทั้งหมดจะต้องผ่านเมืองต่างๆ
แต่ระหว่างทาง ด้วยความกตัญญูของหลานชาย เห็นว่าตานั้นแก่แล้ว จึงขอให้ตานั่งบนหลังลา
และตัวเองเดินจุงลา
แต่เมื่อเข้ามาถึงเมืองหนึ่ง ชาวบ้านต่างซุบซิบนินทาว่า "ต๊าย ดูสิ เป็นผู้ใหญ่ซะเปล่า เอาเปรียบเด็ก ตัวเองสบายเลย"
เมื่อตาได้ยินเช่นนั้น จึงไม่อยากให้เป็นที่นินทาของใคร จึงบอกให้หลานชายขึ้นมาขี่ลาแทน
จนมาถึงอีกเมืองหนึ่ง ชาวบ้านเมืองนี้ก็นินทาตำหนิหลานชายว่า "ดูสิ ไอ้เด็กคนนี้ทำไมไม่สงสารคนแก่ๆบ้าง ตัวเองสบายเห็นแก่ตัว เอาเปรียบคนแก่"
เมื่อหลานได้ยินเช่นนั้น จึงให้ตาขึ้นมาขี่ลาด้วยอีกคน หลานจึงพูดขึ้นว่า "ดูซิจะมีใครนินทาเราอีกไหม"
ต่อมา เมื่อมาถึงอีกเมืองหนึ่ง ก็ไม่พ้นการโดนนินทาของชาวบ้าน "โถ่ ๆ ๆ เจ้าลาช่างน่าสงสารจริง ทำไมเจ้านายของแกถึงใจร้าย ใจดำ ใช้งานแกหนักเกินไป ขึ้นมานั่งถึง 2 คน ไม่สงสารแกบ้างเลย"
ทั้งคู่จึงตัดปัญหา ตัดสินใจลงจากหลังลา และเดินเท้าไปแทน
แต่แล้ว ก็ต้องมาผ่านเมืองอีกเมืองหนึ่ง คราวนี้ชาวบ้านไม่ได้นินทาอย่างเดียว กลับหัวเราะเยาะใส่ "ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ดูตากับหลานคู่นั่นสิโง่จริงๆเลย มีลาแต่ไม่ขี่ เดินจูงอยู่นั่นแหละ"
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ไม่ว่าคุณจะทำอะไร ก็จะมีคนนินทาคุณอยู่ดี
พี่โน๊ต อุดม แต้พานิช เคยพูดว่า
ทำก็โดนด่า ไม่ทำก็โดนด่า
เลือกทำดีกว่า อย่างน้อยขณะที่โดนด่า
ก็มีอะไรทำ
หากชอบบทความนี้ อย่าลืมกดไลค์กดแชร์ และกดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ
โฆษณา