29 มิ.ย. 2020 เวลา 17:16 • ไลฟ์สไตล์
ตัวตนกับทางที่เลือกเดิน
ตัวตนที่แท้จริงกับสิ่งที่สื่อให้คนภายนอกรับรู้ มันต่างกันราวฟ้ากับเหว ฉันเป็นคนค่อนข้างหัวโบราณแต่ดันชอบเทคโนโลยี ชอบเรียนรู้ทั้งวิทยาการสมัยใหม่กับประวัติศาสตร์ไปพร้อมๆกัน ชอบกลิ่นอายการเขียนแบบสำนวนคนรุ่นเก่า แต่ไม่ปฏิเสธสำนวนการใช้ภาพประกอบแบบที่คนรุ่นใหม่ใช้กัน งานวิจัยงานเขียนของใครไม่มีอิทธิพลกับความคิดฉันเลย แม้แต่แฟชั่นก็ไม่คิดจะว่าจะต้องตามใคร ฉันใช้ชีวิตตามแบบที่ตัวเองพอใจเท่านั้น แต่กลับชอบการถกปัญหาหรือวิจารณ์แบบเปิดกว้าง
เพจของฉันจึงไม่จำเป็นต้องมีภาพประกอบเพราะฉันเน้นการสื่อสารจากการอ่าน แม้ผลการวิจัยสำรวจจะชี้ว่าภาพประกอบช่วยดึงความสนใจ แต่สำหรับคำตอบฉันคือ แล้วไงใครแคร์?
นิสัยส่วนตัวค่อนข้างไม่ยี่หระกับเรื่องรอบตัว แต่ถ้าอยู่ในวงเพื่อนฝูงกลับรั่วซะเพื่อนเอ่ยปากกันทุกคนว่าเมาโค้กรึน้ำเปล่า พออยู่ในกลุ่มนักพูดนักวิชาการนั่งเงียบเป็นเป่าสาก ก็เก็บข้อมูลอยู่อ่ะเนาะจะพูดมากทำไม
อยู่กับงานก็บ้างาน ถ้าไม่เข้าใจจะไม่ยอมหยุด ทำงานเกินเวลาก็ไม่สนถ้าไม่บรรลุเป้าหมาย แต่ถ้าเป็นเวลาส่วนตัวได้อยู่กับตัวเองหรือคนสนิทก็ปล่อยให้ตัวเองขี้เกียจสุดๆ
แต่ถ้าโหมดโหดมาก็ขออยู่แถวหน้า พร้อมบวกเสมอ พอโหมดบุญสายปฏิบัติก็ขอลงลึกให้สุดเอาให้ถึงแก่น ดูๆแล้วก็แหมช่างขาดๆเกินๆซะจริง จนบรรดาเหล่าคนที่รู้จักรู้ใจถึงกับออกปากว่า ฉันเป็นอัจฉริยะที่มีเส้นบางๆของคำว่าบ้าอยู่ด้วย
ฉันไม่เถียงหรอกก็มันต้องเต็มที่กับทุกอย่างที่ทำสิชีวิตจึงจะสนุก ถ้าต้องอยู่แบบเซ็งๆแอ๊บๆใส่หน้ากากปิดบังตัวตน ฉันคงมีหน้ากากเยอะกว่าใครบนโลกแน่นอน มารยาทกับหน้ากากมันต่างกัน ฉันขอเลือกเป็นตัวเองแต่รู้จักมารยาททางสังคมจะดีกว่า
โฆษณา