30 มิ.ย. 2020 เวลา 06:13
EP 24. “The Monsters of Portland”
“I believe in monsters, they live inside us” ผี หรือ ปิศาจร้ายที่เรามักจะกลัวกัน
บางทีก็น่ากลัวไม่เท่ากับคนด้วยกัน คนที่ไม่รู้สึกรู้สากับการทำร้ายหรือทรมานสิ่งมีชีวิต
อื่น โดยเฉพาะมนุษย์ด้วยกันนั้น น่ากลัวว่าปิศาจในนิยายหรือเรื่องเล่าเสียอีก อะไรจะแย่ไปกว่าการต้องไปประสบพบเจอคนที่จิตใจเหี้ยมโหดแบบนี้อีกละ?
เว้นเสียแต่จะถึงคราวเคราะห์ร้ายไปเจอมันทีเดียวทั้งสองคน มาแบบแพคคู่เลยทีเดียว
เกิดอะไรขึ้น?:
ปี 1988 เมือง Portland รัฐ Oregon สหรัฐอเมริกา Michaelle Dierich อายุ 20 ปี
เธอมีชีวิตที่ลุ่มๆดอนๆ นอกจากจะติดยาอย่างหนักแล้ว Michaelle ยังต้องมาทำงาน
ขายบริการทางเพศ เพื่อเอาเงินไปซื้อหายาเสพติดมาใช้อีกด้วย และการใช้ชีวิตบนถนนแบบเสี่ยงตายนี่เอง ทำให้ Michaelle กลายเป็นหนึ่งในเหยื่อของความซาดิสม์ในไม่ช้า
1
ค่ำคืนนึง มีรถกระบะมาจอดเทียบกับถนนที่ Michaelle ยืนหาลูกค้าอยู่ รถกระบะดัง
กล่าวมีหลังคาอยู่ท้ายกระบะ Michaelle ตกลงที่จะขึ้นรถไปกับชายคนขับและตกลง
ราคากันที่ 30$ เมื่อขึ้นรถออกไปได้ซักพัก ชายคนขับก็จอดรถ และอยู่ดีๆก็มีผู้ชายอีก
คนนึง โดดลงมาจากหลังกระบะ เพื่อมาช่วยลากตัว Michaelle ออกมาจากที่นั่ง
ผู้โดยสาร พวกมันเอาเทปพันปาก Michaelle เอาปลอกหมอนคลุมหน้า และเอาโซ่ที่
ตรึงไว้กับพื้นข้างหลังรถกะบะ มามัด Michaelle ไว้ก่อนจะขับออกไป หลังจากนั้น
Michaelle ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่กับการโดนทารุณกรรม การโดนทำร้ายร่างกายอย่างแสนสาหัส รวมไปถึงการโดนข่มขืนอย่างโหดเหี้ยมอีกด้วย Michaelle โดนล่ามโซ่ไว้
ในตู้เสื้อผ้าแบบ Built in ของห้องๆนึง Michaelle ต้องทำธุระบนส้วมแมว (ที่มีแต่ทรายแมว) และเมื่อออกจากตู้เสื้อผ้ามาก็จะโดนล่ามติดเตียงไว้ หากขัดขืนก็จะโดนปืนไฟฟ้าช็อตในทันที
1
แต่เหมือนมีปาฏิหารย์ Michaelle ประมาณการณ์ว่า เธอโดนขังไว้ในบ้านหลังนั้นอยู่
ประมาณ 7 วัน ก่อนที่ในคืนนึง ชายทั้งสองตัดสินใจเอา Michaelle ที่ถูกมัดปาก ถูก
คลุมหัว มาทิ้งไว้ที่ข้างถนนไม่ไกลจากบ้านที่แม่ของ Michaelle อาศัยอยู่มากนัก
พวกมันเอาเธอมาทิ้งเหมือนขยะ พร้อมด้วยภาพโพลารอยด์อนาจารที่ถ่ายเธอไว้ ขณะ
ถูกจองจำไว้ในบ้านหลังดังกล่าง Michaelle เข้าแจ้งความกับตำรวจในทันที แต่ช่วง
ที่ Michaelle ถูกจับตัวไป เธอจำไม่ได้ว่า บ้านหลังดังกล่าวอยู่ตรงไหน และอธิบายไม่ถูกว่าชายทั้งสองคนหน้าตาเป็นอย่างไร บวกกับการเป็นคนติดยา และทำงานเป็นหญิง
ขายบริการ ทำให้เรื่องดังกล่าวของ Michaelle ดูเป็นเรื่องเหลือเชื่อ (ที่เหมือนจะเป็น
เรื่องแต่งขึ้นมาด้วยซ้ำ) ตำรวจไม่ค่อยจะเชื่อเรื่องของเธอมากนัก ยกเว้นนายตำรวจ
Harry Jackson คนนึงที่ยอมรับฟังและเชื่อเธอ Harry ออกเวรตรวจตราอยู่บนถนน
และมักจะคุ้นชินกับคนที่ติดยา คนไร้บ้าน และโสเภณี แต่ Harry นั้นทำอะไรไม่ได้มาก
นักเนื่องจากตัวเองเป็นแค่ตำรวจลาดตระเวนธรรมดา ไม่ได้เป็นนักสืบ เรื่องคดีของ
Michaelle จึงเป็นแค่การลงบันทึกไว้ในแฟ้ม และไม่มีอะไรคืบหน้ามากมายนัก
จนกระทั่งมีเหยื่อรายที่ 2 หลุดรอดมาได้:
สองปีถัดมา ตำรวจได้รับแจ้งเหตุมีหญิงสาว วิ่งหนีออกมาจากบ้านหลังนึง ในสภาพร่างกายเปลือยเปล่า และยังมีบาดแผล เลือดอาบทั่วตัวอีกด้วย ตำรวจไม่รอช้า รุดไปที่เกิด
เหตุก่อนที่จะพบกับ Andrea Hood หญิงสาวคนดังกล่าวซึ่งบอกกับตำรวจว่า เธอถูก
ลักพาตัวและถูกข่มขืนโดยชายสองคน ตำรวจพา Andrea ไปส่งโรงพยาบาล พร้อม
เข้าตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ก่อนที่จะพบกับเจ้าของบ้านและผู้อยู่อาศัยคือ
Vance Robert และน้องชายต่างพ่อ Paul Jackson ซึ่งยังอยู่ ณ ที่เกิดเหตุและให้การ
กับตำรวจว่า พวกเขาไม่ได้จับตัว Andrea มา Andrea เป็นคนไร้บ้านที่ดูเหมือนต้องการความช่วยเหลือ และพวกเขาแค่คิด “อยากจะช่วยเธอเท่านั้น” แต่พอ Andrea มาที่บ้าน
เธอกลับคลุ้มคลั่ง พยายามจะขโมยเงินและสิ่งของ ก่อนจะหนีออกจากบ้านมา
1
แต่ เรื่องที่ Andrea เล่านั้น แตกต่างจากเรื่องของ Vance กับ Paul มาก และทำให้
ตำรวจถึงกับขนลุกทีเดียว
Andrea ซึ่งขณะนั้นมีอายุแค่เพียง 16 ปี ชะตากรรมของ Andrea ก็ไม่ต่างจาก
Michaelle สักเท่าไหร่ การที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ข้างถนน บีบบังคับให้ Andrea ขึ้นรถมา
กับชายแปลกหน้า และวิธีการลักพาตัวก็เหมือนกับ Michaelle ที่แตกต่างคราวนี้คือ
เมื่อ Andrea ถูกจองจำอยู่ในบ้าน Vance กับ Paul กำลังสร้างห้องลับอีกห้อง ที่มีโซ่
แขวนอยู่บนเพดานและรอบๆเพดานยังมีวัสดุที่ช่วยเก็บเสียง กระจกทุกบานในบ้านติด
เหล็กดัด (ซึ่งเป็นเรื่องแปลกของที่อเมริกา บ้านส่วนมากไม่มีเหล็กดัด เว้นแต่จะเป็นบ้าน หรือร้านค้าที่อยู่ในย่านที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ขโมยเยอะ หรือเป็นย่านที่เกิดอาชญากรรม
บ่อย) Vance และ Paul ถ่ายรูป Andrea ไว้หลายรูป ตอนที่ทำการข่มขืนหรือ
ทารุณกรรมเธอ ในวันนึง ขณะที่ทั้ง Vance และ Paul เดินเข้าออกห้องที่กำลังทำการ
ก่อสร้าง เพื่อให้กลายเป็นห้องทารุณกรรมแบบเก็บเสียงนั้น พวกมันบังคับให้ Andrea
อ่านหนังสือ (หนังสือ “How to be a good girl” 🤮) Andrea ผู้ถูกใส่กุญแจมือไว้ที่มือทั้งสองข้าง คิดว่าหนทางเดียวที่จะได้ถูกปลดกุญแจมือออกข้างนึง คือการยอมอ่าน
หนังสือที่พวกมันส่งให้ Andrea ตกลง รับหนังสือมา และใช้มือที่ถูกปลดกุญแจมือออก แสร้งทำเป็นอ่านหนังสือ ก่อนที่จะประสบโอกาศเหมาะ เอามือรอดหลุดจากกุญแจมือ
อีกข้างนึงได้ Andrea วิ่งอย่างไม่คิดชีวิต Paul กับ Vance วิ่งไล่หลังมาจากอีกห้องนึง
ก่อนที่ Andrea จะวิ่งมาสุดทางเดินของห้องนอนอีกห้อง และกระโดดทะลุผ่านหน้าต่าง
บานเดียวในบ้านที่ไม่มีเหล็กดัดมาได้ (ตามตัว Andrea จึงมีแผลเต็มไปหมด และเลือด
ไหลเปื้อนเต็มตัว เพราะโดนกระจกบาด) Andrea วิ่งตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ
มาตามถนน ก่อนที่เพื่อนบ้านจะมาเจอและ เอา Andrea ไปหลบไว้ในบ้านและโทรแจ้งตำรวจในที่สุด
1
**Remark: Andrea ถูกจับไปเป็นระยะเวลาประมาณ 24 ชั่วโมง พอเห็นห้องที่ Vance กับ Paul กำลังสร้างอยู่ Andrea คิดอยู่อย่างเดียวว่า หากตัวเองถูกจับไปแขวนไว้ใน
ห้องนั้น เธอต้องตายแน่ๆ จะไม่มีใครพบเห็น หรือได้ยินเสียงร้องของเธออีกเลย เธอเลยตัดสินใจเสี่ยงตายหนีในที่สุด
The Chilling Discovery:
เมื่อตำรวจเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว พวกเขาอัดวิดิโอไปด้วยและทำการตรวจค้น
ไปด้วย สิ่งที่ตำรวจพบเจอนั้นสอดคล้องกับคำให้การของ Andrea ตำรวจเจอห้องที่
กำลังก่อสร้างอยู่ แบบที่ Andrea อธิบาย หน้าต่างที่ Andrea พุ่งหลาวออกไปนั้นมี
เศษกระจกกระจายอยู่เต็มไปหมด (Vance ยังมีรอยกระจกบาดที่แขน เนื่องจาก
พยายามคว้า Andrea กลับเข้ามาในบ้าน) Andrea เล่าว่าทั้ง Vance และ Paul ให้
Andrea เปลี่ยนกางเกงชั้นในวันละหลายๆหน ตำรวจค้นเจอกางเกงชั้นในของผู้หญิง
ทั้งใช้แล้ว และยังใหม่อยู่หลายสิบตัว ตำรวจยังค้นเจอปืนไฟฟ้า โซ่ กุญแจมือ sex toy หนังสือเกี่ยวกับกามวิตถารหลายเล่ม แต่ที่น่าตกใจมากที่สุดเลยคือ รูปโพลารอยด์
ของผู้หญิงที่ถูกทารุณกรรม ถูกจัดท่าทางต่างๆ ถูกมัด หรือแม้กระทั่งถูกบังคับให้ยิ้มโพสท์ท่าต่างๆนาๆ และ Andrea ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่ปรากฎอยู่บนรูปต่างๆ
**Remark: ขณะเข้าตรวจค้น บนตู้เย็นยังมีแม่เหล็กแปะรูป Andrea ที่ถูกทารุณกรรม
ทางเพศและเปลือยกายท่อนล่าง ไว้บนตู้เย็นอีกด้วย
เมื่อตำรวจรู้ว่า Andrea ไม่ใช่เหยื่อรายแรก หรือรายเดียวของ Paul กับ Vance ตำรวจพยายามตามหาหญิงสาวที่เหลืออยู่ เพื่อจะตรวจสอบว่าทุกคนอยู่ที่ไหน และเพื่อมาให้
ปากคำเพิ่มเติม (ที่ตำรวจกลัวคือ หญิงสาวคนอื่นในรูปจะกลายเป็นศพไปแล้วหรือไม่)
Harry หนึ่งในตำรวจที่ดูภาพของเหยื่อ จำหน้าหนึ่งในหญิงสาวได้ทันที เธอคนนั้นคือ
Michaelle นั้นเอง ตำรวจตามตัว Michaelle มาทีสถานี คราวนี้ Michaelle สามารถ
ชี้ตัว Vance และ Paul ได้จากรูปภาพที่ตำรวจเตรียมไว้ Michaelle ถึงกับร้องไห้ และ
บอกว่า ตลอดระยะเวลาหลายปีมานี้ ไม่มีใครเชื่อเธอเลย ไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เธอเล่า
ไม่มีใครเชื่อเลยว่าเธอโดนทำร้ายสาหัสแค่ไหน ณ เวลานี้ความจริงเปิดเผยแล้ว
Michaelle ไม่ใช่แค่คนติดยาเห็นภาพหลอนแล้วสร้างเรื่องอีกต่อไป เรื่องที่ Michaelle
เล่านั้นเป็นความจริง และฝันร้ายของเธอจะได้จบลงซักที Michaelle จะได้เลิกมอง
เหลียวหลังทุกครั้งที่เธอออกไปเดินข้างนอก เพียงเพราะกลัวจะโดนทำร้ายหรือลักพาตัว
ไปอีก
Predator on the run:
แต่เรื่องที่น่าจะจบแค่นั้นกลับไม่จบ เมื่อ Vance และ Paul ได้รับการประกันตัวให้ออกมาสู้คดีนอกศาล (อะไรเนี่ย???) แน่นอน พวกมันทั้งสองคนไม่คิดจะเข้าคุกอยู่แล้ว เพราะยังไม่ทันจะได้ขึ้นพิจารณาคดีครั้งแรก ทั้ง Vance และ Paul ก็หายไปกับสายลม ตำรวจ
พยายามไล่ล่า หาตัวทั้งสองคน รู้ทั้งรู้ว่ามีคนช่วยพวกมันหลบหนี แต่ก็ไม่สามารถทำ
อะไรได้ เพราะไม่มีหลักฐานมากพอ ทั้ง Vance และ Paul หายไปแบบไร้ร่องรอย
เจ้าหน้าที่จาก US Marshal ตามหาทั้ง Vance และ Paul แบบแทบพลิกแผ่นดิน และถึงแม้จะมีคนแจ้งเบาะแสมากมาย ความพยายามตามหา Vance และ Paul ดูเหมือนจะว่างเปล่า และเวลาก็ผ่านไปเป็นระยะเวลานานนับปี
16 ปี ผ่านไป อยู่ดีๆ Vance ก็เข้ามอบตัวกับตำรวจใน Portland Vance บอกตำรวจว่า เขาอาศัยอยู่บนถนน ใต้สะพาน หรือหลบๆซ่อนๆแบบ Homeless แต่ตำรวจพลิกดู
มือของ Vance แล้วไม่เชื่อในคำให้การของเขา มือของ Vance ดูไม่มีร่องรอยแห่งการ
ใช้ชีวิตบนถนน หรือผ่านหน้าร้อนหน้าหนาวมาเยอะจัด (นี่เป็นสาเหตุที่ตำรวจเชื่อว่ามี
สมาชิกครอบครัวคอยช่วยเหลือเขาอยู่) อะไรเป็นเหตุใน Vance เข้ามอบตัว แม้ระยะ
เวลาจะผ่านไปหลายปี? น่าจะเป็นไปได้ว่า เพราะกฎหมายของ Oregon นั้นระบุไว้ว่า
หากอาชญากรไม่ถูกนำตัวมาดำเนินคดีในช่วงระยะเวลาใดก็ตาม (เช่น 5 ปีสำหรับ
ความผิดฐานนี้ หรือ 10 ปี สำหรับความผิดอีกฐานนึง) คดีจะหมดอายุความในทันที แต่
น่าเสียดายที่ Vance น่าจะอ่านกฎหมายไม่หมด อายุความที่กล่าวไว้ข้างต้นนั้น จะสะดุดหยุดลงในทันที หากอาชญากรคนดังกล่าวเดินทางออกนอกรัฐ ในคดีนี้ตำรวจสามารถ
พิสูจน์ได้ว่า Vance และ Paul เดินทางออกนอกรัฐเนื่องจากFBI ตามไปเจอรถคันที่พวก
เขาใช้ก่อเหตุลักพาตัวคนอื่นนั้น จอดอยู่ที่รัฐ Arizona (เหมือน Vance พยายามจะ
ฉลาด แต่ก็ฉลาดน้อยอยู่ดี) Vance ไม่ยอมปริปากพูดว่า Paul อยู่ที่ไหน ผู้หญิงที่เหลือ
เป็นใคร และเกิดอะไรขึ้นกับพวกเธอ และเมื่อถูกนำตัวขึ้นศาล ยังทำท่าทีเยาะเย้ยเหยื่อที่มาขึ้นให้ปากคำ และทำหน้าทำตาใส่ผู้พิพากษาอีกด้วย ซึ่งก็ไม่เป็นผลดีกับตัวเขาเท่า
ไหร่ เพราะในที่สุดก็มีคำพิพากษาลงโทษสูงสุดให้ Vance โดนจำคุกเป็นระยะเวลา 108 ปี ด้วยกัน โดยไม่ให้มีโอกาสรับทัณฑ์บนทั้งสิ้น
แล้ว Paul ละ? ถึงแม้คนจะคิดว่า Paul นั้นตายไปแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมแพ้ เจ้าหน้าที่ติดต่อรายการ “The Hunt with John Walsh” (รายการทีวีชื่อดังของอเมริกาที่เรา
จะมาเล่าถึง John Walsh ในโพสท์ต่อๆไป) ให้นำเรื่องของ Michaelle และ Andrea
ไปออกรายการเพื่อให้คนแจ้งเบาะแสว่า Paul อยู่ไหน ขณะที่รายการทำเรื่องของสอง
พี่น้องที่มาจากนรกนี้ออกอากาศ Paul หายตัวไปกว่า 24 ปีแล้ว Producer ของรายการคิดว่า มีโอกาสน้อยมากที่จะหาตัว Paul เจอ แต่เพื่อ Michaelle และ Andrea พวกเขา
จะลองดูซักตั้ง
3
หลังรายการออกอากาศ ประมาณ 2-3 เดือน อยู่ดีๆเจ้าหน้าที่ก็ได้รับเบาะแส ที่มาไกล
ถึง Mexico เบาะแสดังกล่าว แจ้งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบชายที่ชื่อว่า “Pablo Bennet” ดู เจ้าหน้าที่ลองหาใน Internet ก่อน และพบเจอ profile ของ Pabloe Bennet ใน
Linkedin (website ที่เหมือนกับ facebook แต่โฟกัสไปที่การหางาน) ตั้งแต่ปี 1991
เป็นต้นมา Pablo รับทำงานเกี่ยวกับช่างและเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อยู่ใน Mexico
เจ้าหน้าที่ US Marshal ประสานงานกับตำรวจใน Mexico เพื่อทำการจับกุม Pabloe
หรือ Paul ก่อนที่จะส่งตัวมายังสหรัฐอเมริกา กลายเป็นว่า Paul แยกตัวออกจาก
Vance ก่อนที่จะหนีไปตั้งรกรากที่ Mexico นอกจากจะมีงานทำ มีชีวิตที่ดีแล้ว Paul
ยังแต่งงานและมีลูกอีกสองคนด้วย
เมื่อขึ้นศาล ทีมกฎหมายของ Paul สู้ว่า Paul นั้นแค่ทำตามคำสั่งของ Vance เท่านั้น
Paul ไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีในการทำร้าย หรือลักพาตัว ผู้หญิงเหล่านั้นเลย ในขณะที่
อัยการและทีมตำรวจกลับเห็นว่า แม้คำให้การของทั้ง Michaelle กับ Andrea
จะบ่งบอกว่า Paul เป็นคนทำตามคำสั่งของ Vance จริง แต่ Paul เลือกที่จะเข้าร่วม
กระทำความผิดเช่นเดียวกับ Vance Paul ไม่สมควรได้รับโทษที่น้อยกว่า Vance เลย
และถึงแม้ผู้พิพากษาจะเห็นด้วยแต่ก็แค่บางส่วน ในที่สุด Paul ก็ตกลงที่จะรับสารภาพ
เพื่อแลกกับข้อตกลงที่อัยการรัฐเสนอให้ และได้รับโทษให้จำคุก 18 ปี
บทสรุป:
ตำรวจพยายามตามหาตัวผู้หญิงที่เหลือ ที่ปรากฎตัวอยู่บนรูปโพลารอยด์ แต่เป็นเรื่อง
ยากที่จะตามหาตัวพวกเธอ เนื่องจากรูปที่ตำรวจมี ไม่สามารถเอาลงออกสื่อได้ ตำรวจทำได้เพียงให้คนมา sketch ภาพของผู้หญิงที่เหลือ โดยรูป sketch แบ่งออกเป็นสอง
ส่วน ส่วนแรกคือรูปที่ Sketch จากตอนที่รูปโพราลอยด์ได้ถูกถ่ายไว้ และอีกส่วนเป็นรูปที่ sketch แบบ age progressive คือเป็นรูปที่ผู้หญิงทั้งสองคนน่าจะหน้าตาประมาณนี้ในปัจจุบัน ตำรวจขอให้ผู้หญิงทั้งสองคนออกมาให้การ และหากใครรู้จักผู้หญิงทั้ง
สองคน ขอให้ออกมาแจ้งเบาะแสกับตำรวจ เพราะคดีที่เพิ่มขึ้นนั้น สามารถเพิ่มโทษให้
กับ Vance และ Paul ให้อยู่หลังลูกกรงนานขึ้น (โดยเฉพาะ Paul ซึ่งได้รับโทษจำคุกแค่ 18 ปี เท่านั้น) แต่เป็นที่น่าเสียดาย ซึ่งตราบจนถึงทุกวันนี้ ตำรวจยังไม่สามารถหาตัว
ผู้หญิงที่เหลือได้ และไม่รู้ชะตากรรมว่าทั้งสองเป็นตายร้ายดียังไง
1
**Remark:คลิปวิดิโอสัมภาษณ์เหยื่อ และตอนตำรวจไปค้นบ้าน เราจะใส่ไว้ใน
comment นะคะ
Vance และ Paul ในตอนถูกจับตัวได้ครั้งแรก
Michaelle กับ Andrea ตอนที่ถูกลักพาตัว
ห้องแห่งความลับที่ตำรวจไปเจอ
Paul รูปกลางคือตอนที่ถูกจับตัวได้ที่ Mexico
รถที่ใช้ในการก่อเหตุ
รูป Sketch เหยื่อคนอื่น
Sources:
โฆษณา