30 มิ.ย. 2020 เวลา 17:36 • เพลง & ซีรีส์ เกาหลี
Reply 1988 ตอบคำถาม อะไรเกิดขึ้นเมือปี 1988
พาไปเกาหลีมาหลายเรื่อง วันนี้ขอพาย้อนอดีตไปเล็กน้อย
ปี 1988 เป็นปีที่เกาหลีได้เป็นเจ้าภาพจัดโอลิมปิกเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนให้ประเทศนี้ก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศอุตสาหกรรมใหม่ ทำให้ยุคนี้เป็นจุดเปลี่ยนของสังคมยุคเก่าและสังคมยุคใหม่คนรุ่นเก่าและคนรุ่นใหม่ในเกาหลี
หนังแนวย้อนยุคไปยังจุดเปลี่ยนของสังคม เราเคยเห็นมาหลายเรื่อง ของไทยเราก็ แฟนฉัน ของญี่ปุ่นก็ Always: Sunset on third street ที่ใช้บรรยากาศการจัดกีฬาโอลิมปิกครั้งแรกของญี่ปุ่นมาเป็นฉากหลังเช่นกัน
Reply 1988 ไม่ได้เป็นหนังฉายโรงเหมือนเรื่องที่เล่ามา แต่เป็นซีรีส์ฉายทางทีวี เป็นเรื่องราวของกลุ่มเด็ก ๆ รุ่นเดียวกันในย่าน จังมุนดง ชานกรุงโซลทางทิศเหนือ ที่ผู้คนยังใช้ชีวิตกึ่งเมืองกึ่งชนบทเทียบกับกทม.คงแถวบางเขน ย่านนี้บังเอิญอยู่ใกล้ ๆ กับย่านจองรึงดง ที่เป็นย่านชานเมืองในเรื่อง Architecture 101 ที่รีวิวไปวันก่อนเทียบกันคงแถวสะพานใหม่ ก็เลยหยิบเรื่อง Reply 1988 มาดูต่อซะเลย
ต้นเรื่องมีความคล้ายคลึงแฟนฉันค่อนข้างเยอะ เพราะเน้นไปที่วีรกรรมของเด็ก ๆ รุ่นเดียวกัน และจะหาเพลงประกอบที่เข้ากับยุคนั้นมาใช้ประกอบหนัง รวมไปถึงการบ้าหนังจีนจากฮ่องกงเหมือน ๆ เด็ก ๆ ในแฟนฉัน
แต่วัยของเด็กใน Reply 1988 จะโตกว่ากลุ่มแฟนฉันเพราะเข้าสู่ยุค ม.ปลายแล้ว กำลังเริ่มสนใจเพศตรงข้าม บรรดาเพื่อนสนิทห้าคนมีคนเดียวที่เป็นผู้หญิงหรือมีน้อยหน่าคนเดียว ในขณะที่ผู้ชายอีกสี่คน เด่นพอ ๆ กัน ไม่รู้ว่าใครจะได้เป็นเจี๊ยบของน้อยหน่า
ต่างจากแฟนฉันตรงที่ว่า ซีรีส์นี้ไม่เน้นที่กลุ่มเด็กอย่างเดียว แต่กลุ่มพ่อแม่ก็มีความสำคัญในการดำเนินเรื่องเยอะมาก พ่อแม่มีความแตกต่างจากกลุ่มเด็กสูงมากเพราะเกิดคนละเจนเนอเรชั่น ต้องปากกัดตีนถีบในยุคที่ประเทศยังยากจนและแทบทุกคนอพยพมาจากต่างจังหวัด ในขณะที่พวกเด็ก ๆ เกิดในกรุงและไม่ค่อยลำบากเท่ารุ่นพ่อแม่ และยังมีการแทรกเหตุการณ์ในยุคนั้นอย่างที่ละครไทยคงไม่กล้าเช่นการประท้วงรายวันของนักศึกษาเกาหลี​ ตัวละครมีโดนจับไปปรับทัศนคติ​ ความขัดแย้งเรื่องการเมืองในบ้านเดียวกัน การไปเจออดีตประธานาธิบดีเผด็จการที่หนีมาบวชที่วัด​ (ที่เล่ามาทำไมมันคุ้น​ ๆ) 😅
ครอบครัวใน Reply 1988 ก็คล้ายกับกลุ่มครอบครัวในเรื่อง SKY Castle มากน่าจะได้แรงบันดาลใจมาแต่เปลี่ยนเป็นครอบครัวร่ำรวยและเน้นเรื่องของพ่อแม่มากกว่า มีห้าครอบครัวในหมู่บ้านเดียวกัน มีลูก ๆ ที่กำลังเรียนม.ปลายเป็นส่วนใหญ่เช่นกัน แม่ ๆ ส่วนใหญ่อยู่บ้านไม่ต้องทำงาน แต่ใน Reply 1988 เป็นกลุ่มอาจุมม่าที่สนิทสนมเกื้อกูลกันดี แต่ใน SKY Castle ไปมาหาสู่กันตลอดแต่ปากปราศรัยน้ำใจเชือดคอ พ่อ ๆ ใน Reply ชอบจับกลุ่มกินเหล้า ส่วนพ่อใน SKY Castel หน้าที่การงานดีมากชอบข่มกันด้วยอีโก้ พ่อแม่ใน Reply ไม่มีใครจบมหาวิทยาลัย ส่วนใน SKY จบจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ​ ยกเว้นบ้านเดียวที่ทำตัวเป็นแกะดำ
แต่ด้วยพื้นฐานเหล่านี้ก็ทำให้กลุ่ม Reply มีความอบอุ่นให้ลูก ๆ มากกว่า แต่ไม่สามารถชี้ทางเดินให้ลูกได้และไม่รู้ว่าลูกกำลังทำอะไร แต่กลุ่ม SKY สามารถชี้นำลูกได้และใกล้ชิดลูกได้มากกว่าแต่ก็สร้างปัญหาให้ลูก ๆ ได้มากกว่า การเทียบซีรีส์สองเรื่องนี้ทำให้เข้าใจถึงสังคมเกาหลีที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างน่าสนใจดี
จุดเด่นของ Reply ไม่ใช่เนื้อเรื่องเพราะไม่มีอะไรนอกจากเด็ก ๆ โตขึ้นและพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยแบบตัวใครตัวมันพ่อแม่นำทางให้ไม่ได้ แต่เป็นเรื่องของความสัมพันธ์ระหว่างสองกลุ่มที่มีความแตกต่างกันมากจนเหมือนคุยกันคนละภาษา แต่มีความรักความเข้าใจที่เชื่อมโยงครอบครัวและระหว่างครอบครัวเข้าด้วยกัน โดยมีจุดศูนย์กลางคือ ด๊อกซอน สาวคนเดียวในกลุ่มเพื่อนซี้ห้าคน
ซีรีส์เรื่องนี้เสี่ยงมาก ที่ฝากการเชื่อมโยงเรื่องราวไว้กับตัวละครด๊อกซอนคนเดียว ซึ่งเป็นดาราหน้าใหม่อายุน้อยจากเกิร์ลกรุ๊ป แต่เหลือเชื่อที่เธอแบกซีรีส์ทั้งเรื่องเอาไว้ได้ตลอด จนได้รางวัลดาราหน้าใหม่ในปีนั้นไป เล่นแบบไม่ห่วงสวย หน้าดำ ผมทรงติ่งหู แต่งตัวเชย กินจุ เรียนไม่เก่ง​ ชอบเต้นรำแต่เต้นมั่ว ขี้ลืม​ สมาธิสั้น เอะอะโวยวายทั้งเรื่อง แต่พึ่งพาได้ ความดีอื่นก็ต้องยกให้ทีมนักแสดงรุ่นใหญ่คนอื่น ๆ ที่เล่นได้สมบทบาทมาก ราวกับเป็นชีวิตจริง และด๊อกซอนจะเป็นตัวละครที่เห็นพัฒนาการได้มากที่สุดเพราะเธอค่อย ๆ สวยและดูฉลาดขึ้นเรื่อย ๆ
เนื่องจากไม่ค่อยมีเรื่องราวให้เดินนัก แต่ละตอนจะมีคอนเซปท์หลักเช่นตอนแรกก็เกี่ยวกับกีฬาโอลิมปิก บางตอนจะเกี่ยวกับการล้ำเส้นที่ตัวละครแต่ละตัวต้องเผชิญ จนเหมือนกับจะเป็นซีรีส์จบในตอนแบบซิทคอม แต่หลัง ๆ บทเริ่มเดินหน้าเมื่อเหล่าเพื่อน ๆ เริ่มโต เริ่มสนใจเพศตรงข้าม ซึ่งทำให้ ด็อกซอน กลายเป็นหญิงสาวคนเดียวในกลุ่มที่หนุ่ม ๆ รุมล้อม แถมมีการระหว่างทางโดยมีภาพในยุคปัจจุบันกับสามีที่เป็นเพื่อนในกลุ่มให้คนดูได้ลุ้น และคาดเดาคำตอบ (Reply) ว่าสุดท้ายแล้วใครกันที่ได้ใจด๊อกซอน เพราะตัวแสดงเป็นสามีตอนแก่นั้นดูไม่ออกว่าเป็นคนไหนในกลุ่มที่ดูโอปป้าเหมือนๆกัน แล้วทุกคนก็มีจุดเด่นที่สามารถชนะใจเธอ ลุ้นกันน่าดู
ชมซะเยอะ ข้อเสียก็มี ตัวละครในแม้จะมีบุคลิคสมจริง แต่นิสัยจะดูแบนไปหน่อย ทุกคนเป็นคนดี สังคมดี ดีซะจนบางครอบครัวมีเงินเป็นเศรษฐีย่อม ๆ ยังไม่ยอมย้ายออกไปที่หรู ๆ เป็นหนังฟีลกู้ด ซึ่งจริง ๆ แล้วในชีวิตจริงมันไม่สวยหรูอย่างนั้น คนจริง ๆ มันมีด้านมืดมากกว่านี้
พล็อตย่อยบางจุดดูเหมือนจะเอาไปแรงบันดาลใจสร้างซีรีส์อีกเรื่องได้เลยอย่างเส้นเรื่องความรักต่อสาวที่มีอายุมากกว่า ที่แทบจะเดินเหมือนเรื่อง Something in the Rain ที่สร้างทีหลังเป๊ะ แถมยังมีมุกถือร่มมุกขอให้พี่สาวเลี้ยงข้าว ซีรีส์เกาหลีนี่ชอบหยิบของเก่ามารีไซเคิลกันดี
สนุกครับ แนะนำ อีกอย่างซีรีส์เกาหลีทุกเรื่องฉากโรแมนซ์ระหว่างพระนางจะต้องมีจูบกัน จูบแล้วจูบอีก เป็นแฟนเซอร์วิสอย่างนึง จนกระทั่งการแจกรางวัลจะต้องมีฉากจูบยอดเยี่ยม ตอนแรกไม่คิดว่าเรื่องนี้จะมีเพราะเป็นความรักของเด็ก ๆ ที่ไหนได้ มี แต่ช่วงแรก​ ๆ​ไม่พร่ำเพรื่อเหมือนซีรีส์เรื่องอื่น แล้วได้รางวัลฉากจูบยอดเยี่ยมมาด้วย ต้องยอมรับว่าฉากนี้ออกแบบมาดี แต่พอซีรีส์ดังมียืดเรื่อง ตอนท้าย ๆ ก็จูบพรำ่เพรื่อไปนิด
ป.ล. Reply 1988 เป็นแค่หนึ่งในกลุ่มหนังชื่อ Reply ที่มีสร้างมาก่อนแล้ว 2 เรื่องในคอนเซปท์เดียวกันคือ Reply 1994 และ Reply 1997 โดยผู้สร้างชุดเดียวกัน แย่เลย ต้องไปตามดูอีกสองเรื่องรึนี่
ป.ล. 2 ซีรีส์นี้ม้ามืด สร้างปรากฎการณ์ไต่เรตติ้งได้คล้าย ๆ SKY castle เพราะไม่ใช่ซีรีส์สูตร ตอนแรก ๆ คนดูน้อย เพราะคนเริ่มชอบนี่เรตติ้งกระฉูด ตอนปิดกล้องเลยมีเงินพาทีมงานมาฉลองกันที่ภูเก็ต (ถ้าเรตติ้งไม่ดีฉลองกันแถวเกาะเซจูก็พอ :p)
ป. ล. 3 เพิ่งรู้ว่าเกาหลีเคยมีกฎหมายห้ามคนแซ่เดียวกันจดทะเบียนสมรสกัน​ (ในเรื่องมีแซวขำๆว่ายกเว้นตระกูลคิมเพราะเยอะเกิน)
ป.ล. 4 งานศพในต่างจังหวัด​ คนร่วมงานต้องทำตัวเฮฮารื่นเริง​ คล้าย​ ๆ​ ตจว.บ้านเรา​เลย​ ที่มีมหรสพ​ (แต่ลับหลังแขกร้องไห้เป็นเผาเต่า)
โฆษณา