30 มิ.ย. 2020 เวลา 16:31 • ประวัติศาสตร์
ช่วงสายในวันนี้ ขณะที่ผมกำลังนั่งคิดว่าจะทำอะไรดีเพื่อฆ่าเวลาระหว่างรออาจารย์มาสอนออนไลน์ ผมเลยตัดสินใจเข้าไปใน google เพื่อไปเข้าไปหาการ์ตูนมานั่งอ่านรอ
เอ่อ…. ออกตัวก่อนนะครับว่ามันคือเว็บสายขาวทั่วไป การ์ตูนทั่วไป ไม่ใช่การ์ตูน 18+ หรืออะไรทำนองนั้นนะครับ
ซึ่งปัญหาที่ต้องเจอทุกครั้งกับการเข้าเว็บก็คือ มันจะมีเจ้าป๊อปอัพโฆษณาเจ้ากรรมที่คอยตามรังควานเราตลอดเวลา ไม่ว่าเราจะเลื่อนหน้าจอลบไปมาอย่างไรก็ตาม มันนน ก็จะตามรังควานไม่เลิกรา ตามไปในทุกที. กดปิดมันก็เด้งไปโผล่อีกเว็บอีก
ซึ่งผมจะไม่หัวร้อนเลย ถ้าไอ้สิ่งที่อยู่ในกรอบโฆษณานั้นเป็นของทั่วไป ของสามัญประจำบ้าน แต่มันดันเป็นโฆษณาของเล่นผู้ใหญ่ ไม่ก็เว็บพนัน
ผมจำได้ว่าเมื่อตอนสมัยเรียนม.ต้น ผมกำลังนั่งหน้าคอมนั่งหาดูการ์ตูนเพลินๆ แน่นอนละว่าผมกดเข้าไปทีไรก็เจอโฆษณาแบบว่าตลอด ตอนนั้นจำได้เวลาเป็นเป็นรูปเคลื่อนไหวสาวน้อยชาวญี่ปุ่น ( จริงๆ จะเรียกว่าน้อยก็ไม่ถูกนะ ฮ่าๆ )
แล้วประเด็นก็คือ แม่ผมเดินเข้ามาเจอพอดี แล้วเจอกับภาพที่สาวน้อยนอนอ้าซ่าอยู่เต็มจอ ผมไม่รู้จะทำไงดีตอนนั้น เลยเอาเท้าไปกดปิดสวิชไฟ แต่ดันมีไฟสำรอง เลยหนีไม่รอด หลักฐานคาจอ แม่เลยสั่งห้ามเล่นคอมไปพักนึงเลยทีเดียว
ส่วนที่จะมาเล่าในวันนี้ก็คือ ผมดันไปเจอโฆษณาเหมือนกัน แต่เป็นโฆษณายาเสริมสมรรถนะของท่านชายอย่าง “ ไวอาก้า “ ที่มักจะมาปรากฏในรูปยา อึด ทน นาน ( บางที่เห็นเขียนว่าเพิ่มขนาดด้วยนะ )
ผมเลยนึกถึงเรื่องเล่าสมัยเรียนปี 2 ที่อาจารย์เคยเล่าให้ฟังเกี่ยวกับที่มาของไวอาก้าและอยากจะเอามาเล่าให้ฟังนะครับ
ไวอาก้า (Viagra)
จริงๆ แล้วต้องบอกว่าไวอาก้านั้น มันคือชื่อยี่ห้อหนึ่งเท่านั้น เหมือนที่เราเรียกผงซักฟอกว่าแฟบ เรียกที่เย็บกระดาษว่าแม็ค( จริงๆมันชื่อ stapler ) ทำนองนั้นละครับ
Viagra นั้นหรือเรียกอีกชื่อสามัญก็คือ Sildenafil (อ่านว่า ซิล-เด-นา-ฟิล) เป็นยาที่ความสามารถขยายหลอดเลือดแดงในร่างกายได้
เดิมที่ยานี้ถูกคิดค้นเมื่อราวๆ ปีค.ศ.1986 ที่ประเทศอังกฤษเมือง Sandwich ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นห้องทดลองค้นคว้าวิจัยที่มีชื่อว่า Pfizer
โดยในตอนนั้นเหล่าบรรดานักวิทยาศาสตร์กำลังต่างทดลองค้นคว้าเพื่อหายาที่สามารถรักษาเจ็บเค้นหน้าอก(angina pectoris) ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการสำคัญของโรคหัวใจและหลอดเลือด
โดยในการศึกษาค้นคว้าในครั้งนั้นทำให้เราได้ยาที่ประโยชน์อย่างมากที่ใช้มาจนถึงปัจจุบัน โดยเฉพาะกลุ่มยาลดความดัน Prazosin, Doxazosin, Amlodipine
ซึ่งในช่วงเวลานั้นเอง ทางทีมวิจัยพยายามซึ่งกลไกการทำงานของหลอดเลือด จนค้นพบว่ามีสารที่มีชื่อว่า cGMP ซึ่งหากสารตัวนี้มีมากในเซลล์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเซลล์กล้ามเนื้อเรียบ(smooth muscle cell) ในหลอดเลือดจะช่วยในการขยายหลอดเลือดได้
โดยจะเป็นทำให้ลดอาการเจ็บเค้นหน้าอกลงได้ โดยการขยายขนาดของหลอดเลือดทำให้เลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจมากขึ้น
นอกจากนั้นเเล้วในยุคนั้นเองก็พบว่า สารอย่างไนเตรต ไม่ว่าจะมาจากร่างกายเป็นคนสร้างเอง( เช่น หลั่งจากระบบประสาทเวลามีอารมณ์ (sexual stimulation)) หรือทาน ฉีดเพิ่มเข้าไปในร่างกายสามารถไปกระตุ้นให้เกิดการสร้าง cGMP ได้เช่นเดียวกัน
แผนผังรูปการทำงานของยา : โดยที่มี NO เป็นตัวกระตุ้น ทำให้เกิดการสร้าง cGMP มากขึ้นภายในเซลล์จนนำไปสู่การขยายตัวของหลอดเลือด.
แต่ข้อเสียของยาในยุคแรกนั้นก็คือ มันขาดความจำเพาะ ยิ่งใช้ยิ่งดื้อยา และเมื่อใช้มากขึ้น
ผลข้างเคียงยาก็มากตามตัว ทำให้ทีมนักวิจัยจึงพยายามค้นคว้าให้มีความจำเพาะมากขึ้น
จนกระทั่ง Andrew Bell, Dr David Brown และ Dr Nicholas Terrett.สามารถที่จะสร้างสารที่มีชื่อว่า pyrazolopyrimidines หรือชื่อตอนแรกคือ UK-92,420 นั้นก็คือ sidlenafil หรือ Viagra ในเวลาต่อมา
โดยการทำงานคร่าวๆ ของยาก็คือ ยับยั้งการทำงานของ PDE-5 ซึ่งเป็นเอนไซม์ในเซลล์ที่ทำหน้าที่สลาย cGMP เพื่อไม่ให้สามารถทำงานได้นั้นเอง ผลก็คือเมื่อจำนวนของ cGMP มากขึ้นจะส่งผลให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดทั่วร่างกายนั้นเอง
Dr Nicholas Terrett ผู้ที่ค้นพบว่าสามารถนำยาไปรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือด และช่วยเพิ่มการทำงานของท่านชาย จนกลายเป็นบิดาแห่ง Viagra
เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้แล้วหลายท่านคงงงกันว่า เอ้า! แล้วเกี่ยวอะไรกันกับปัจจุบันที่ยาตัวนี้ถูกใช้ในเรื่องทางเพศของท่านชายหลายๆ คน
ใจเย็นๆ นะครับเพราะเรื่องนี้ยังไม่จบ
เพราะในปี 1991-1992 หลังจากคิดค้นยามาได้ 2-3 ปี ตัวยานี้ก็ถูกนำไปศึกษาต่อใน
อาสาสมัคร เพื่อดูผลข้างเคียงและประสิทธิภาพของยาที่เกิดขึ้น
ผลพบว่ามีการดื้อต่อยาหรือทนต่อยามากขึ้น ทำให้ต้องค่อยๆเพิ่มขนาดยามากขึ้นและมากขึ้น นอกจากนั้นยังพบว่าประสิทธิภาพในการรักษาอย่างฤทธิ์ในการช่วยให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือดก็ลดลง และผลข้างเคียงก็เริ่มมากขึ้นเช่นกัน
ตัวอย่างผลข้างเคียงก็เช่น ปวดหัว หน้าแดง มองเห็นสีบกพร่อง เป็นต้น
แต่ในปี 1992 นั้นพบว่าทานยาขนาดต่ำกว่าการทดลองในปี 1991 โดยใช้ขนาด 75 มิลลิกรัม ซึ่งน้อยกว่าในปี 1991 ถึงสองเท่า โดยใช้ติดต่อกัน 10 วัน พบว่ามีผลข้างเคียงแปลกๆ ที่พบมานั้นก็คือ ทำให้น้องชายของท่านชายบางคนผงาดขึ้น ตื่นตัวมากขึ้น ซึ่งเป็นผลมาจากการที่หลอดเลือดแดงที่อวัยวะเพศชายขยายขนาดนั้นเอง
<พอเลือดมันขึ้นหน้า เราก็พร้อมที่จะบวก> : เกิดจากการเลือดมาที่น้องชายมากขึ้นจากการที่หลอดเลือดแดงขยาย ส่งผลให้น้องชายกลายร่างมากขึ้น และแข็งมากขึ้น
นอกจากนั้นแล้วในการทดลองของปี 1992 ก็พบว่า Sidlenafil หากใช้คู่กับไนเตรต ซึ่งเป็นยาขยายหลอดเลือดที่ใช้ในโรคทางหัวใจและหลอดเลือดนั้นมีผลทำให้เกิดความดันตกอย่างรุนแรง จึงทำให้บทบาทของ sidlenafil ได้รับความนิยมในการใช้ในการรักษาเริ่มลดลง
จากนั้น Viagra ก็ถูกใช้และถูกพูดถึงในแง่ของการกระตุ้นการทำงานของน้องชายมากขึ้นในเวลาต่อมา แต่ว่าในภายหลังก็พบว่าสามารถใช้รักษาลดความดันในหลอดเลือดที่ปอดได้ด้วยนั้นเอง(Pulmonary hypertension)
ปล. Viagra ไม่ได้มีผลกับพืชผักนะครับ เพราะมันไม่มีหลอดเลือดนั้นเอง
ท้ายที่สุดนี้ก็อยากจะฝากบอกว่าออกกำลังกายให้ยั่งยืน ดีกว่าทนฝืนกินยานะครับ
รักสุขภาพกันให้มากๆนะครับทุกคน
SJ.
30 มิถุนายน 2563
ขอบคุณข้อมูลจาก
โฆษณา