4 ก.ค. 2020 เวลา 00:52 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถ้าโนบิตะเล่นหุ้นจะเป็นอย่างไร ?
วันนี้ผมขอมาเล่าเรื่องการลงทุนในกองทุนดัชนีตลาดหุ้นญี่ปุ่นโดยยกตัวอย่างโนบิตะซึ่งปัจจุบันนั้นโนบิตะอายุได้56ปีแล้วใกล้จะถึงวันเกิดของโนบิตะซึ่งโนบิตะเกิดวันที่ 7 สิงหาคม 1964 แม้ว่าจะผ่านไปกี่ยุคโนบิตะก็ตัวเท่าเดิม และการ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเด็กทั่วโลกได้เสมอ
วันนี้ผมมีบทความของเพจ investing.in.th
มาแชร์ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆได้ลองอ่านกันดูครับ
โนบิ โนบิตะ เป็นเด็กชายที่เกิดมาในครอบครัวชั้นกลางของประเทศญี่ปุ่น สิ่งที่น่าสนใจของเขาไม่ใช่เพียงเพราะมีเพื่อนเป็นหุ่นยนต์แมวสีฟ้าเท่านั้น แต่เขาเกิดมาในช่วงจังหวะที่เหมาะเจาะมาก เพราะเป็นช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นเตรียมพร้อมจะเป็นขาขึ้นครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์
ถ้าโนบิตะเล่นหุ้น
ผู้ที่เคยอ่านโดราเอมอนมาแต่แรกย่อมรู้ว่าโนบิตะนั้นได้เงินค่าขนมเป็นรายเดือน และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของโนบิตะนั้นเกิดขึ้นในช่วงปี 1974 (อายุประมาณ 10 ขวบ อยู่ชั้นป.5) ซึ่งโนบิตะเองได้เงินค่าขนมจากแม่เดือนละ 500 เยน หรือคิดเป็นเงินไทย 150 บาทต่อเดือน หรือตกวันละประมาณ 5 บาท แต่ไม่ต้องตกใจไป เพราะนี่คือค่าเงินของสมัยเมื่อราว 40 ปีที่แล้ว
นิสัยส่วนตัวของโนบิตะนั้นเป็นคนที่ไม่ได้เก็บออมอะไรมากนัก แต่สมมติว่า โดราเอมอนเพื่อนรักได้ใช้ของวิเศษบางอย่าง ทำให้โนบิตะกลายเป็นคนที่คิดหน้าคิดหลังเรื่องเงิน มากขึ้น จนเขาตัดสินใจว่าจะเก็บเงินอย่างน้อย 50% ของค่าขนมเพื่อเอาไปลงทุน !
ด้วยความชาญฉลาดของโนบิตะ เขาจึงนำเงินไปลงทุนซื้อดัชนี NIKKEI225 ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนของตลาดหุ้นญี่ปุ่น (อันที่จริงเราไม่สามารถนำเงินไปซื้อดัชนีตรงๆ ได้ แต่เพื่อความง่ายในการคำนวณ จึงสมมติให้โนบิตะสามรถซื้อดัชนี NIKKEI225 ได้) เพราะดัชนีนี้คำนวณมาจากหุ้นขนาดใหญ่ 225 ตัวที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว (Tokyo Stock Exchange)
โดยที่ ณ สิ้นปี 1974 ดัชนี NIKKEI225 อยู่ที่ 3,836.93 จุด โนบิตะเองได้เงินค่าขนม เดือนละ 500 เยน การเก็บเงิน 50% ของค่าขนม แปลว่าทั้งปีเขาจะมีเงินเก็บทั้งสิ้น 3,000 เยน และสามารถซื้อดัชนีนี้ได้ทั้งสิ้น 0.7819 หน่วย เมื่อซื้อเสร็จแล้ว โนบิตะก็เพียงแค่ลืมเงินก้อนนี้ไป แล้วออกผจญภัยกับโดราเอม่อนและผองเพื่อน
ผลลัพธ์เป็นอย่างไร
หลังจากที่โนบิตะผจญภัยจนหนำใจ (ว่ากันว่าเด็กชายผู้นี้เกือบทำลายล้างโลก ไปถึง 200 ครั้ง ด้วยของวิเศษของโดราเอมอน) ผ่านมาถึงปี 2018 ซึ่งครบรอบวันเกิด เขาพอดี ปรากฎว่าดัชนี NIKKEI225 ที่ซื้อแล้วถือลืมไว้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 3,836.93 จุด มาเป็น 22,662.74 จุด นั่นทำให้เงินลงทุนจาก 3,000 เยนเมื่อราว 40 ปีก่อน เพิ่มขึ้นเป็น เงินเกือบ 18,000 เยนในปัจจุบัน คิดเป็นผลตอบแทน 6 เท่า
แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อคิดเป็นผลตอบแทนต่อปีจะอยู่ที่เพียง 4.16% ต่อปีเท่านั้น ซึ่งเยอะกว่าเงินฝากไม่มาก
ทำไมถึง
ผลตอบแทนน้อย
แม้โนบิตะจะเข้าลงทุนในช่วงที่ดัชนีอยู่ที่ราว 3,000 จุดเท่านั้น แต่ด้วยระยะเวลาการลงทุนกว่า 10 ปี ดัชนีอาจปรับตัวขึ้นมาถึง 22,000 จุด แต่เมื่อเฉลี่ยเป็นรายปีแล้วก็มากกว่า เงินฝากไม่เท่าไหร่ นั่นก็เพราะว่า มีบางช่วงที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นแทบไม่ขยับไปไหนเลยเป็นเวลา 20 ปี
แต่ถ้าเขาสามารถหาหุ้นเป็นรายตัวได้ แทนที่จะซื้อเหมาทั้งตลาด เปลี่ยนมาเป็นใช้เวลาวิเคราะห์มากขึ้น และเลือกลงทุนหุ้นเป็นรายตัว ก็อาจได้รับผลตอบแทนที่มากขึ้นกว่านี้ หลายร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่แน่นอนว่ามันมาพร้อมกับความเสี่ยงที่มากขึ้นด้วย
ไม่ว่าอย่างไร
ก็ต้องลงทุน
การที่ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีเพียง 4% อาจไมได้สวยหรูนัก แต่มันย่อมดีกว่าการเก็บ เงินใส่กระปุกหรือฝากธนาคารแล้วได้ดอกเบี้ยที่ต่ำแทบติดดิน หรือต่อให้โนบิตะไม่ ลงทุนในตลาดหุ้น ก็ยังมีสินทรัพย์การลงทุนอื่นให้เลือกอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้ หรือแม้แต่อสังหาริมทรัพย์
แต่อย่างน้อย การเก็บเงินเพียงแค่ 3,000 เยนของโนบิตะ ก็พิสูจน์ให้เห็นถึงพลังของ "ดอกเบี้ยทบต้น" ได้เป็นอย่างดี ด้วยผลตอบแทน 4.16% แต่ได้ติดต่อกัน 40 กว่าปี ก็สามารถทำให้เงินเพิ่มขึ้นถึง 6 เท่าได้
เป็นอย่างไรกันบ้างครับ ในชีวิตเราไม่ต้องมีของวิเศษจากโดราเอมอน ก็สามารถเสกเงินให้เป็นเท่าตัวได้ไม่ยากนัก ด้วยของวิเศษที่เรียกว่าการลงทุนก็สามารถทำให้เรามั่งคลั่งได้
Reference
-www.investing.in.th
โฆษณา