23 ก.ค. 2020 เวลา 04:13 • ปรัชญา
...ความสุขของการจากลา...
เชื่อว่าหลายคนคิดว่าการจากลานำมาซึ่งความทุกข์มากกว่าความสุข ไม่ว่าจะเป็นการลาจากจากคนที่เรารัก ด้วยเหตุผลและปัจจัยหลายๆ อย่าง
การจากลานำมาซึ่งความสูญเสีย เป็นความจริงเสมอไปใช่หรือไม่? แอดเคยตอบว่าใช่ แต่มาวันนี้ ประสบการณ์บอกให้แอดรู้ว่า การจากลาไม่ได้ทำให้ชีวิตสูญเสียอะไรเสมอไปซะทีเดียว
แอดไม่ค่อยได้เดินทางกลับประเทศไทยบ่อยๆ ตั้งแต่ไปเรียนหนังสือที่กรุงปักกิ่งหลังขึ้นม.4 เพื่อนสนิทแอดที่นั่นส่วนใหญ่เป็นเด็กต่างชาติ บางคนก็ย้ายบ้านไปมาบ่อยๆ อยู่เหมือนกัน
แรกเริ่ม แอดก็คิดถึงบ้าน แม้ว่าจะย้ายมาอยู่กันเป็นครอบครัว แต่ก็ใช่ว่าตัวเองจะไม่ต้องปรับตัวกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาษา อาหารการกิน และวัฒนธรรม
วิวที่ถ่ายไว้ครั้งสุดท้าย ก่อนที่จะย้ายบ้านอีกครั้งในปักกิ่ง
แต่เด็กแอดก็ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่หรอกค่ะ ไม่ว่าจะเป็นการย้ายโรงเรียนเอย ย้ายบ้านเอย เพื่อนเก่าหายไป เพื่อนใหม่เข้ามา
กลายเป็นว่าพอมาอยู่ที่ปักกิ่ง ครอบครัวแอดย้ายบ้านเกือบทุกปี! เนื่องจากการเดินทางที่ไม่สะดวกบ้างล่ะ ค่าเช่าบ้านที่แพงขึ้น หรือความชอบส่วนตัวบ้างล่ะ แต่โชคดีที่ไม่ถึงกับต้องย้ายโรงเรียน
การเปลี่ยนแปลงทำให้แอดชอบความไม่จำเจ ทำให้เป็นคนเตรียมพร้อม ทำให้เราไม่ต้องเก็บขยะ อะไรที่ไม่จำเป็น ไม่ค่อยใช้ก็ไม่ต้องซื้อ (ตึ๋งหนืดดีๆ นั่นเอง) ยิ่งพออยู่หอที่มีกฎให้ย้ายของเปลี่ยนห้องทุกๆ ปียิ่งทำให้แอดไม่กักตุนอะไรไว้มาก นอกเหนือจากเสบียงอาหารและยา มันทำให้รู้ว่าชีวิตมันไม่แน่นอน ต้องขวนขวายความรู้ให้มากที่สุด ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ดี
ข้าวของตอนจะย้ายบ้าน เห็นแล้วไม่อยากให้มีวันนั้นอีก -_-
อีกสิ่งหนึ่งที่แอดนึกขึ้นได้ก็คือ การจากลา นอกจากจะเป็นวัฏสงสารของชีวิตแล้ว มันยังบ่งบอกว่าเรากำลังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ออกไปเจอสิ่งที่ท้าทายกว่า ถ้าแอดไม่ได้จากเมืองไทยมาที่จีน แอดคงไม่ได้สกิลภาษาจีนและอังกฤษติดตัว คงไม่ได้เจอเพื่อนดีๆ อีกหลายคนที่ยังคอยติดต่อกันจนถึงทุกวันนี้ แม้จะอยู่กันคนละทวีป และที่สำคัญคงไม่ได้เรียนปริญญาตรีสายไบโอเทค ไม่ได้สัมผัสความหลากหลายทางวิชาการเรียนการสอน
การจากลายังทำให้เรายินดีกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกันคนรอบข้าง แอดมีเพื่อนคนหนึ่งนางใฝ่ฝันอยากที่จะเรียนแอนิเมชั่น เธอเคยโดนคุณครูในคลาสดูถูก เพราะสกิลการวาดรูปของเธอไม่ได้ถึงขั้นแอดวานซ์หรือเพอร์เฟ็กต์ แต่ความจริงฝีมือการวาดรูปของเธอก็มีความเป็นเอกลักษณ์นะ เธอจากครอบครัวมาเรียนหนังสือและทำงานในอเมริกา ล่าสุดเธอโพสต์โปรเจ็กต์ที่ถ่ายทอดเกี่ยวกับคนสำคัญในครอบครัวของเธอ ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้ก้าวผ่านความยากลำบากในชีวิต ในตอนนี้แอดเห็นเธอพัฒนาขึ้นในหลายๆ ด้าน หลังจากที่ไม่ได้เจอกันมา 4 ปี แอดรู้สึกยินดีและปลาบปลื้มกับความสำเร็จของเธอเป็นอย่างมาก
For both we have the same eyes: https://m.youtube.com/watch?v=T0lpYAojT8Q&autoplay=1&mute=0&feature=youtu.be
ส่วนตัว ความฝันของแอดเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แอดโชคดีที่เกิดมาครอบครัวให้โอกาสได้ออกไปลองหลายสิ่งหลายอย่าง ถึงแม้ว่าแอดจะเรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในเอเชีย แต่แอดก็เคยถูกปฏิเสธเรียนป. โทจากมหาวิทยาลัยมีชื่อเสียงอีกแห่งในประเทศจีนมาแล้วเหมือนกัน ก็ยังไม่ได้คิดว่าตัวเองเก่งอะไรเมื่อเทียบกับนักเรียนที่จบจากมหาวิทยาลัยในประเทศไทยหลายคน และครั้งนี้แอดก็เปลี่ยนสายเรียนอีกซะด้วย เพราะแอดเห็นช่องทางที่ดีกว่า ชอบกว่า แล้วแอดก็ได้รับโอกาสทองนั้นมาแล้ว
แอดก็เลยไม่ได้รู้สึกผิดหวังมากนัก อยากทำอะไรก็ทำถ้ามันดี ขอแค่เรารู้ว่าเป้าหมายคืออะไร แล้ววันนี้เราเลือกสิ่งนี้เพื่ออะไรก็พอ
หวังว่าบทความนี้จะทำให้ผู้อ่านที่กำลังประสบกับ "การลาจาก" อยู่ เศร้าน้อยลง หรือเป็นประโยชน์ในทางอื่นไม่มากก็น้อยนะคะ
โฆษณา