กับชีวิตก็เช่นกัน ที่เราทุกคนต่างมี “มีด” เป็นของตนเอง
.
แม้ว่ายามที่เราเกิดมา “มีด” ที่ว่านี้ อาจจะเป็นด้ามเล็กและทู่ แต่เมื่อเราเติบโตขึ้น เจออะไรมากขึ้น เรียนรู้มากขึ้น “มีด” ดังกล่าว ก็เริ่มค่อยๆคมกริบมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน
.
และเมื่อ “มีด” เราคมได้ระดับหนึ่งแล้ว ก็มีบ้างที่เราเผลอไผล หรือตั้งใจเอามันไปจ้วงแทงผู้อื่น ให้พวกเขาเหล่านั้นเกิดบาดแผลทางใจ
.
“เอ้ยย ทำไมไม่เขียนอย่างนี้วะ เอ็งนี่มันโง่จริงๆ!!
ครูคนหนึ่ง ใช้ “มีด” กระหน่ำแทง
ขณะสอนการบ้านลูกศิษย์
.
“ไอ้เบื๊อกเอ้ยย ทำอะไรก็ไม่เป็น
จ้างมาเสียข้าวสุกมากๆ!!!”
เจ้านายคนหนึ่ง กำลังใช้ “มีด” กรีดไม่ยั้ง
ขณะสั่งงานลูกน้อง
.
เห็นไหมครับว่า? คนเหล่านี้มอง “มีด” เป็นอาวุธ และใช้มันโดยปราศจากความเข้าใจ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว พวกเขาสามารถใช้ “มีด” เล่มนั้น เพื่อช่วยเหลือผู้อื่นได้ ...
.
ด้วยการ “ตัด” ความทุกข์ออกไปจากใจของผู้ทนทุกข์
.
หากเปรียบความรู้ และความจริง ที่เราบ่มเพาะสะสมมาตลอดช่วงชีวิต เป็นดั่ง “มีด”
.
ความรักก็คงเปรียบได้ดั่ง “แรงในการหั่นเนื้อปลาปักเป้า” ที่ต้องค่อยๆกด และหลบหลีกไม่ให้ถูกต่อมพิษ ที่อาจแตกออกมา เพื่อ “ทลายความสัมพันธ์”