เที่ยวไทยสไตลย์ฝรั่ง วันนี้จะเล่าถึงการไปเที่ยวตามสไตลย์ฝรั่ง ณ จังหวัดที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสามของประเทศไทย นั่นคือจังหวัดกาญจนบุรี
จังหวัดกาญจนบุรีนับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่นักท่องเที่ยวฝรั่งนิยมไปพักผ่อนและท่องเที่ยวกัน แหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดนี้ที่ฝรั่งนิยมไปสัมผัสและเรียนรู้ก็คือ แหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่สอง แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวแบบการกุศล ( เลี้ยงช้าง)
ฝรั่งที่ไปเที่ยวจังหวัดนี้ส่วนมากจะมาจากประเทศเนเธอแลนด์ เบลเยี่ยม อังกฤษ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ โปแลนด์ และ อเมริกา ซึ่งล้วนก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับสงครามโลกครั้งที่สองทั้งสิ้น
ส่วนมากจะใช้เวลาพักผ่อนและท่องเที่ยวกันประมาณสองคืน สามวัน แล้วจึงเดินทางต่อไปยังจุดหมายปลายทางต่อไป ซึ่งจุดหมายต่อไปก็คือนิยมขึ้นภาคเหนือ
จุดแรกที่ฝรั่งจะไปชมในจังหวัดกาญจนบุรีก็คือแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ นั่นก็คือพิพิธภันฑ์สงครามโลกครั้งสอง ตั้งอยู่ตรงบริเวณใกล้กับสุสานสงครามโลกครั้งที่สอง ตรงข้ามสถานีรถไฟเมืองกาญจน์ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ถือได้ว่าเป็นพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่สองที่สมบูรณ์ที่สุดในจังหวัดกาญจนบุรี ภายในพิพิธภัณฑ์มีการจัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับสงครามที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง บางจุดถึงขนาดมีป้ายเขียนข้อความเตือนผู้เข้าชมว่า เป็นภาพเสมือนจริง น่ากลัว น่าสยอง เด็ก ๆ ไม่ควรเข้าดูคนเดียว หรือแม้แต่ผู้ใหญ่บางคนที่จิตไม่แข็งพอก็ไม่ควรเข้าชมคนเดียว ฝรั่งบางคนสนใจในข้อมูลมาก ๆ ใช้เวลาเข้าชมนานมาก บางทีเพื่อน ๆ ในกลุ่มต้องนั่งรอนานนับชั่วโมงได้
การเที่ยวชมสถานที่ทางประวัติสาตร์สงครามโลกครั้งที่สอง ฝรั่งจะไม่ค่อยถามคำถามมากนัก ส่วนใหญ่พวกเขาจะมีความรู้พื้นฐานมาก่อนบ้างแล้ว บางคำถามที่เขาอยากรู้ก็เช่น คนไทยคิดยังไงบ้างกับคนญี่ปุ่น มีแรงงานไทยตายเยอะไหม
ออกจากพิพิธภัณฑ์แล้วก็เดินข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อเข้าชมสุสานเชลยศึกผู้เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางจากเมืองไทยไปพม่าของกองทัพทหารญี่ปุ่น ที่สุสานแห่งนี้จะมีการสลักชื่อ วันเดือน ปีเกิด ของเชลยศึกผู้เสียชีวิตไว้บนแผ่นคอนกรีต โดยส่วนมากจะเป็นเฉลยศึกที่มาจากประเทศเนเธอแลนด์ ออสเตรเลีย และอังกฤษ
ทางรถไฟสายมรณะ ตรงนี้ฝรั่งจะชอบบรรยากาศมาก
ทางรถไฟสายมรณะ
เสร็จจากการได้เรียนรู้ ได้รับทราบข้อมูลในเชิงลึกเกี่ยวกับสงครามโลกที่สอง การสร้างทางรถไฟสายมรณะแล้ว ก็จะไปเดินชมสะพานข้ามแม่น้ำแควใหญ่ ซึ่งถ้าฝรั่งไม่ได้เห็นสะพานข้ามแม่น้ำแคว ถือว่าไปไม่ถึงจังหวัดกาญจนบุรีและมัคคุเทศก์ผู้ดูแลทริปนี้มีสิทธิ์ถูกฝรั่งร้องเรียนแน่ ๆ เดินชม ถ่ายรูปกับสะพานแล้ว จากนั้นก็ขึ้นรถไฟนั่งไปตามทางรถไฟสายมรณะ บางกลุ่มก็นั่งไปลงที่ถ้ำกระแซ บางกลุ่มก็ไปลงวังโพ หรือบางกลุ่มก็นั่งยาวไปจนสุดสายที่สถานีน้ำตกไทรโยคน้อย
ช่องเขาขาด( The Hellfire Pass)
ลงจากรถไฟก็ไปชมช่องเขาขาด หรือ ช่องไฟนรก ( The Hellfire Pass) ฝรั่งน้อยคนมากที่จะไม่ไปชมช่องเขาขาด เพราะถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดสำคัญทางประวัติศาสตร์การสร้างทางรถไฟสายมรณะ ( The Death Railway) สมัยสงครามโลกครั้งที่สองที่ยังหลงเหลือร่องรอยให้ได้เห็น และให้ได้เรียนรู้อย่างสมบูรณ์
ช่องเขาขาด เป็รอะไรที่น่าทึ่งมาก เพราะภูเขาถูกตัด ถูกเจาะ ด้วยแรงงานมนุษย์ ทั้งแรงงานที่เป็นทหารเชลยศึกและแรงงานท้องถิ่น เพิ่อวางรางรถไฟให้ไปถึงพม่า แรงงานต้องทำงานทั้งกลางวัน กลางคืน การทำงานเวลากลางคืนต้องอาศัยแสงสว่างจากตะเกียง จากคบไม้ไผ่ เวลาคนมองจากข้างนอกเข้าไปบริเวณช่องเขา ในเวลากลางคืนก็จะเห็นแสงไฟออกมาจากตะเกียงเหล่านี้ และที่เขานี้ก็มีแรงงานเสียชีวิตเยอะ เพราะว่าทำงานหนัก พักผ่อนน้อย อาหารไม่เพียงพอ จึงเรียกช่องเขานี้ว่า ช่องไฟนรก ( The Hellfire Pass)
ฝรั่งจะเที่ยวชมบริเวณนี้ด้วยอาการสงบ จะไม่คุยกันเสียงดังมากนัก เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพ ความอาลัยต่อผู้เสียชีวิตจากการสร้างทางรถไฟสายมรณะแห่งนี้
บริเวณทางเดินลงช่องเขาขาดมีพิพิธภัณฑ์เล็ก ๆ ตั้งอยู่ เขามีบริการให้ยืมออดิโอพร้อมหูฟัง บอกเล่าประวัติศาสตร์เชิงลึกของช่องเขาขาด ฝรั่งก็มักจะชอบยืมและก็เดินชมช่องเขาขาดไป ฟังออดิโอไปด้วย
จากจุดนี้ก็จะไปพักที่โรงแรมแถบแม่น้ำแควน้อย การไปยังโรงแรมก็ต้องนั่งเรือหางยาวเข้าไป ซึ่งก็ให้ได้ชมบรรยากาศอันสงบและเป็นธรรมชาติของสองฝั่งแม่น้ำแควน้อย ฝรั่งต่างก็เพลิดเพลิน และชื่นชอบกับการนั่งเรือหางยาวเป็นอย่างมาก
นั่งเรือหางยาวเข้าที่พักลอยน้ำ
ที่พักในจังหวัดกาญจนบุรีมีหลายรูปแบบให้ได้เลือกพัก ฝรั่งก็จะเลือกพักทั้งตามงบประมาณที่ตัวเองมี หรือไม่ก็เลือกพักตามรูปลักษณ์ของโรงแรม
ตอนกลางคืนหลังจากรับประทานอาหารเย็นแล้ว ทางโรงแรมก็จะจัดให้มีการแสดงของชาวมอญ (Mon Dance)โดยจะมีการร้อง รำ ทำเพลง เป็นภาษามอญล้วน ๆ
ชาวตื่นขึ้นมาฝรั่งก็จะได้เห็นช้างของชาวมอญลงมาดื่มน้ำแม่น้ำแควน้อย พอฝรั่งเห็นช้างมาใกล้ ๆ แบบนี้ต่างก็รีบถือผลหมากรากไม้แล้วกรูกันเข้าไปป้อนช้างเป็นที่สนุกสนานยิ่งนัก
ช้างชาวมอญลงมาดื่มน้ำหลังโรงแรมลอยน้ำ
ตอนหน้าจะมาเล่าถึงการไปเที่ยวชมธรรมชาติในจังหวัดกาญจนบุรี อย่าลืมติดตามอ่านกันนะครับ
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
