Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Minyada Story
•
ติดตาม
8 ก.ค. 2020 เวลา 03:06 • นิยาย เรื่องสั้น
ค่าที่เกิด...เพียงเสี้ยวนาที
หากจะขุดคุ้ยลงไปในความทรงจำของคนที่มีอายุเกินกว่าที่จะเรียกว่าวัยรุ่นในสมัยนี้ เรื่องหนึ่งที่หลายๆ คนจดจำได้ดีพอๆ กับตำนานดาวลูกไก่ ก็คือ เรื่องราวของ มอม สุนัขที่เปี่ยมไปด้วยความจงรักภักดีต่อผู้เป็นนาย ซึ่งเคยถูกบรรจุไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอนระดับประถมศึกษา
Cr:Minyada_A(ชิโร่ซัง)
แม้เจ้ามอมจะเป็นเพียงบทประพันธ์ที่เกิดจากปลายปากกาของ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช แต่มอมกลับดูเหมือนว่าจะมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ ในใจของผู้คน ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด ก็ไม่เคยทำให้เรื่องของมอม จางหายไปจากใจของคนที่มีโอกาสได้สัมผัสถึงความรักความภักดีของมัน จากเนื้อหาที่ยังคงครุกรุ่นอยู่ในความทรงจำสมัยเป็นเด็กน้อย เกี่ยวกับสุนัขตัวโปรดในดวงใจ
มอมเป็นลูกสุนัขพันธุ์ทางที่เกิดจากแม่พันธุ์ไทยและพ่อพันธุ์อัลเซเชียน มันเกิดมาด้วยความบังเอิญ และเป็นกำพร้าพ่อตั้งแต่ลืมตาขึ้นมาดูโลกใต้ถุนบ้านของครอบครัวหนึ่ง ซึ่งมีฐานะยากจน ต่อมามอมเรียกพวกเขาว่า นาย นายผู้หญิง และหนู
มอมถูกเลี้ยงดูมาด้วยความรักความอบอุ่นจากคนในครอบครัว รูปร่างหน้าตาของมอมค่อนไปทางพ่อมากกว่าทางแม่ จึงทำให้มันดูแตกต่างจากสุนัขพันธุ์ทางทั่วๆ ไป เมื่อมันโตเป็นหนุ่มเต็มที่ แม่ก็หายไปจากชีวิตของมัน แต่มันไม่เดือดร้อนอะไร เพราะมันมีนาย และครอบครัวของนายที่รักมัน นายคอยให้ข้าวให้น้ำมันกิน เล่นกับมัน ดูแลพยาบาลมันทุกครั้งเมื่อมันเจ็บป่วย มอมจึงรักนาย นายหญิง และหนูด้วย มอมคิดว่านายเป็นมากกว่าชีวิตของมัน
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่มอมมันแอบหนีหายไปจากบ้านนาย เมื่อครั้งที่มันเป็นหนุ่มเต็มที่และไปหลงรักสาวนวลบ้านใกล้ๆ มอมมันรักสาวนวลอย่างหัวปักหัวปำ วันๆ ไม่เป็นอันกินอันนอน บ้านช่องไม่กลับ ไปตามเฝ้าตามดูสาวนวลอยู่ไม่ห่าง ความรักในตัวสาวเจ้าทำให้มันแสดงอาการหึงหวงใส่ตัวผู้อื่นๆ ที่เข้ามาใกล้สาวนวล จนมันต้องเจ็บตัวเพราะผู้คนในระแวกนั้นขว้างปาก้อนหินก้อนดินใส่มันด้วยความรำคาญ มอมเป็นอย่างนี้อยู่หลายวัน หนักเข้ามันก็ทนต่อความหิวไม่ไหว ต้องซมซานกลับบ้านไปหานาย นายก็ไม่ได้มีท่าทีต่อว่าหรือดุด่าว่าทำไมมันถึงหายหัวไปจากบ้านนาย นายกลับหาข้าวหาปลาให้มันกินอย่างกระตือรือร้น เพราะทนต่อความผ่ายผอมของมันไม่ไหว จนกระทั่งอาการรักในตัวสาวนวลหายไปจากใจของมอม มอมจึงกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
ยิ่งนานวันความรัก ความผูกพัน ที่มอมมีต่อนายก็มีมากขึ้น แต่ไม่วายที่มอมจะแสดงอาการดื้อรั้นเอากับนาย เมื่อนายบอกสอนให้มันทำอะไร มันกลับไม่เคยทำและไม่สนใจจะทำเลยสักครั้ง มีเพียงเรื่องเดียวที่มอมให้ความสนใจ คือเรื่องที่นายสอนให้มันวิ่งไปคาบกิ่งไม้แห้งที่นายขว้างลงไปในน้ำ มอมมันชื่นชอบเรื่องนี้เป็นอย่างมากเพราะเห็นว่าเป็นความสนุกสนานของตัวมันเอง มันจึงชอบเล่นและตื้อให้นายเล่นกับมันอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อมอมมีอายุได้ 2 ปี ก็เกิดเรื่องราวรอบตัวมันมากมาย ซึ่งมันรับรู้ได้จากอาการตื่นตกใจของผู้คนที่มันได้ผ่านไปพบเห็นเข้า รวมทั้งรถราคันใหญ่ และผู้คนรูปร่างหน้าตาผิดแปลกไปจากเดิม แม้มอมมันจะไม่ค่อยเข้าใจแต่มันก็รับรู้ได้ว่าเหตุการณ์ที่เป็นอยู่นี้เริ่มไม่ปกติ สิ่งแรกที่มอมคิดได้ก็คือความเป็นห่วงนายของมัน นับจากวันที่มอมคิดได้มันก็อยู่ติดบ้านและเฝ้าระมัดระวัง นาย นายผู้หญิง และ หนู อยู่ไม่ห่าง พยายามไม่ให้ใครเข้ามาใกล้ หรือทำอันตรายผู้คนที่มันรักในครอบครัวนี้
แล้ววันหนึ่ง มอมรู้สึกว่านายมันมีสีหน้า ท่าที และการแต่งกายที่แปลกไปกว่าทุกครั้ง นายหญิงก็มีอาการเศร้าสร้อย ไม่เอาใจใส่บ้านเรือน หรือเล่นหัวกับมันเหมือนก่อน นายก็หายออกไปจากบ้านบ่อยครั้งและนานวันขึ้น แต่ครั้งหลังสุดก่อนนายจะหายหน้าไปจากบ้าน นายได้กำชับกับมันเป็นมั่นเป็นเหมาะว่า ให้ช่วยดูแลนายผู้หญิงและหนูด้วย
ครั้งหลังที่นายจากไปนายผู้หญิงได้แต่เศร้าสร้อย ขณะที่เหตุการณ์รอบๆ ตัวมอมก็ดูวุ่นวายขึ้นทุกวัน ทั้งเสียงเครื่องบิน ทั้งเสียงระเบิดที่มันเคยได้ยินบัดนี้กลับดังถี่ขึ้น ความเงียบเข้ามาครอบคลุมบ้านใกล้เรือนเคียง ผู้คนห่างหายหน้าตาไป มีแต่บ้านว่างๆ อยู่หลายหลัง
มอมมันไม่รู้หรอกว่าตอนนี้เหตุการณ์ในบ้านเมืองกำลังอยู่ในสภาวะสงคราม และแถบที่มันอยู่ก็อันตราย ผู้คนจึงอพยพหนีตายออกไปจากพื้นที่ พวกที่ไม่หลบหนีหรือไม่มีที่จะไป ได้แต่ขุดหลุมหลบภัย ไว้หลบแรงระเบิด ที่เครื่องบินปล่อยทิ้งลงมาตูมตาม ส่วนนายหญิงของมันไม่มีที่ไปและไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใครที่ไหน ทั้งความจน ทั้งความไร้ญาติทำให้นายหญิงต้องกัดฟันสู้ทนอยู่ที่เดิมต่อไป
ทุกครั้งที่เกิดเสียงตูมตามเข้ามาใกล้ มอมมันจะรู้ทันทีว่ากำลังจะเกิดอันตรายต่อนายหญิงและหนู มันจึงรีบวิ่งไปเห่าเรียกนายหญิงของมันอยู่หน้าประตูบ้าน นายหญิงได้ยินเสียงมอมมาปลุกที่ไรก็จะอุ้มหนูออกไปหลบภัยในหลุมที่ขุดไว้ทุกครั้ง มอมมันทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี สมกับที่นายได้ฝากฝังนายหญิงและหนูไว้กับมัน
มอมมันทำเช่นนี้เรื่อยมาและในครั้งนี้ก็เช่นกัน มอมมันได้ยินเสียงเครื่องบินเสียงดังมากและหมาใกล้ๆ ต่างพากันเห่าหอนเสียงขรม มันจึงรีบวิ่งขึ้นไปปลุกนายหญิงเหมือนทุกครั้ง แต่ครั้งนี้ต่างไปเพราะเสียงเครื่องบินนั้นดังกระหึ่มอยู่ใกล้ๆ ไม่นานระเบิดลูกหนึ่งก็ถูกปล่อยลงมาจากเครื่องบิน เป้าหมายคือหลังคาบ้านนายของมัน ไฟไหม้บ้านทั้งหลังในทันที จากนั้นระเบิดอีกลูกหนึ่งก็ถูกปล่อยตามลงมาในบริเวณหลังบ้าน เรื่องระเบิดหล่นลงมาใส่ตัวบ้านจนไฟไหม้บ้านนั้นมอมพอรู้ แต่เรื่องระเบิดลูกที่สองที่หล่นลงมาบริเวณหลังบ้านนั้นมันไม่รู้อะไรแล้ว สิ่งสุดท้ายที่มันรู้สึกคือแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แล้วสติของมันก็ดับไป
รู้สึกตัวอีกครั้งสิ่งที่มอมมันนึกถึงเป็นอันดับแรก ก็คือ นายผู้หญิงและหนู มันนึกห่วง นายของมัน และรู้สึกเจ็บปวดที่ขาหลัง เพราะบาดแผลขนาดใหญ่ที่ได้มาจากสะเก็ดระเบิดลูกหลัง มันเจ็บจนลุกขึ้นไปไหนไม่ไหว ได้แต่นอนเลียแผลรอเวลาว่าเมื่อไหร่ อาการเจ็บปวดจากบาดแผลจะหายไป
มอมนอนเจ็บอยู่นานกว่าจะลุกขึ้นได้อีกครั้ง พอมันลุกขึ้นมาได้ก็เดินโซซัดโซเซตรงไปที่หลุมหลบภัยในทันที แต่มันก็ต้องแปลกใจที่ไปถึงแล้วพบว่า มีแต่เท้าของนายผู้หญิงเท่านั้นที่โผล่ออกมาจากหลุมหลบภัย ความตกใจบวกกับความห่วงใยในตัวนายหญิงและหนูที่นายมันฝากไว้ให้ช่วยดูแล ทำให้มอมมันรีบใช้พละกำลังที่มีทั้งหมดตะกุยดินที่กลบตัวนายหญิงอยู่ออกไป จนกระทั่งหมดแรง มอมมันก็ไม่สามารถจะพานายหญิงและหนูออกมาจากใต้กองดินได้ ได้แต่ส่งเสียงเห่าและนั่งเฝ้าอยู่ที่ปากหลุมนั้น มันเฝ้าอยู่จนเช้าจึงจะมีคนกลุ่มหนึ่งเข้ามาในเขตบ้านและตรงมาทางหลุมที่มีนายหญิงของมันอยู่ และพวกเขาก็ช่วยกันรุมขุดดินที่ฝังร่างนายหญิงของมันไว้
มอมมันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าคนพวกนั้นกำลังจะทำอะไรกับร่างของนายหญิงบ้าง มอมคิดแค้นเคืองคนที่มายุ่มย่ามอยู่รอบๆ ตัวนายหญิงของมันและห้ามปรามการกระทำของคนพวกนั้นด้วยเสียงเห่าอันดัง คนที่มารุมร่างนายหญิงขุดดินอยู่พักใหญ่ก็พบร่างของนายหญิงนอนแน่นิ่งอยู่ก้นหลุม ส่วนหนูนั้นยังหลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมอกนายหญิง
ทันทีที่มอมมันเห็นร่างนายหญิงนอนหลับโดยมีหนูอยู่คาอก มันก็กระโจนเข้าขัดขวางผู้คนที่มารายล้อมรอบหลุม ทั้งเห่า ทั้งไล่กัด คนที่พยายามจะเข้ามาใกล้ๆ นายหญิงของมัน มอมมันนึกโกรธและกำลังโทษคนพวกนี้ว่าเป็นตัวการที่ทำให้นายหญิงของมันต้องจากไป รวมทั้งทำให้บ้านของมันมอดไหม้ แต่มันก็ขัดขวางพวกเขาได้ไม่นาน ด้วยพละกำลังที่เหลือน้อยและอีกฝ่ายก็มีเยอะกว่าสุดท้ายมันจึงจำยอมให้พวกเขาพาร่างอันไร้วิญญาณของนายหญิงและหนูขึ้นรถไป ส่วนจะไปไหนนั้นมอมมันก็ไม่รู้เหมือนกัน มันได้แต่รวบรวมพลังสุดท้ายที่เหลือวิ่งตามรถที่มาเอานายหญิงของมันไป
พอหมดแรงวิ่งตามรถมอมมันก็กลับมาบ้าน นอนเฝ้าหลุมที่นายหญิงเคยเข้าไปหลบภัย เฝ้ารอแต่ว่าเมื่อไหร่นายจะกลับมาเสียที ด้วยใจนึกรู้ว่าตัวเองมีความผิดที่ไม่สามารถช่วยดูแลนายหญิงและหนูตามที่นายสั่งเสียไว้ได้ มันปล่อยให้ใครที่ไหนไม่รู้มาเอาตัวนายหญิงและหนูไป มันนอนรอนายอยู่นานจนรอต่อไปไม่ไหว เพราะความหิว มันจึงพาร่างกายที่อ่อนแรงนั้นออกเดินทางสะเปะสะปะไปตามท้องถนน ใช้ชีวิตอย่างสุนัขเร่ร่อนไม่มีเจ้าของ ค่ำไหนนอนนั่น หิวเมื่อไหร่ก็ขุ้ยเขี่ยหาอาหารกินตามกองขยะ จนโชคชะตานำพาให้มันได้มาพบกับคุณแต๋ว
คุณแต๋วเป็นเด็กผู้หญิง อายุประมาณ 10 ขวบ เป็นลูกของคนมีฐานะ มีแต่คนคอยดูแลรับใช้ คอยตามใจ และคุณแต๋วได้กลายมาเป็นนายใหม่ของมอมแล้วนับจากวันที่คุณแต๋วไปเจอมันนอนหมดแรงอยู่ใต้ต้นไม้หน้าประตูบ้านของเธอ เมื่อมาอยู่กับคุณแต๋ว มอมได้ชื่อใหม่ว่าไอ้ดิ๊ก เพียงเวลาไม่นานมอมก็กลับมาเป็นสุนัขเพศผู้ที่งามสง่าอีกครั้ง มันแข็งแรงและมีสุขภาพดีขึ้นทุกวันเพราะอาหารการกินอันสมบูรณ์ที่คุณแต๋วสั่งให้คนหามาให้มิได้ขาด
แม้ร่างกายจะแข็งแรงดีดังเดิมแล้ว แต่มอมมันก็ยังดูหงอยๆ เพราะใจมันยังคงรักและคิดถึงนาย และยังระลึกได้เสมอว่ามันมีชื่อจริงๆ ว่ามอม ลึกๆ แล้วมันยังเฝ้าหวังว่าสักวันมันจะได้เจอกับนายอีกครั้ง ถึงตอนนี้มันจะอยู่กับคุณแต๋วมานาน และสำนึกในบุญคุณของคุณแต๋ว และมันเองก็รักคุณแต๋ว แต่มอมมันยังคิดว่าคุณแต๋วใม่ใช่ชีวิตของมัน ไม่เหมือนกับนาย
โชคชะตาดูเหมือนจะเห็นใจในความรัก ภักดีที่มอมมีให้แก่นายเสมอมา อยู่มาคืนหนึ่งขณะที่มอมมันนอนอยู่หน้าบ้าน ในคืนวันที่คุณแต๋วไปเที่ยวตากอากาศ และคนในบ้านเหลือน้อย มอมมันได้ยินเสียงก๊อกๆ แก๊กๆ อยู่แถวๆ หน้าต่างของตึกชั้นล่าง มันจึงย่องเงียบไปดูว่าใคร กำลังจะทำอะไรกับบ้านเจ้านายของมัน ด้วยความสำนึกในบุญคุณของคุณแต๋ว มันจึงตั้งใจว่าจะจัดการกับคนที่มาเกาะแกะในบ้านให้คุณแต๋วด้วยตัวเอง ยิ่งเข้าไปใกล้มอมมันก็ยิ่งเห็นได้ชัดว่ามีใครคนหนึ่งกำลังออกท่าทางงัดแงะหน้าต่างตึกอยู่ มันจึงจัดแจงหาทำเลที่จะตั้งท่าโจมตีแขกผู้มาเยือนยามวิกาล แต่ยังไม่ทันที่มอมจะได้ทำอะไรต่อไป ลมเย็นๆ ก็พัดผ่านคนผู้นั้นมาวูบหนึ่ง
เท่านั้นเองมอมมันรีบเปลี่ยนท่าทีจากที่คิดจะโจมตี เป็นความรู้สึกคุ้นเคย ต่อกลิ่นที่ลอยมาตามลมวูบนั้น เมื่อมอมมันมั่นใจในสัมผัสที่จับได้ มันก็กระโดดเข้าใส่คนๆ นั้นทันที ทั้งคนทั้งสุนัขล้มลงไปพร้อมกัน แล้วไม่นานเสียงเรียกชื่อว่า “เจ้ามอม” ก็ดังขึ้นมาจากปากคนที่มอมมันทับอยู่ ด้วยความดีใจมอมมันรีบกระดิกหางตอบรับและใช้ลิ้นเลียหน้าเลียตาผู้ชายที่มันนอนทับอยู่ พร้อมส่งเสียงครางในลำคออย่างสุขใจ
นายทำปากจุ๊ๆ เป็นสัญญาณให้มันเงียบก่อนจะวิ่งลัดสนาม และมุดหายไปจากบริเวณบ้านคุณแต๋ว ไม่รอช้าเจ้ามอมรีบมุดรั้วตามนายของมันออกไป นายดีใจใหญ่ทั้งกอดทั้งลูบคลำมัน และบอกว่า หลังออกจากบ้านไปครานั้นนับเป็นเวลายาวนานมาก กลับมาอีกทีก็พบว่าตนเองไม่เหลืออะไรอีกแล้ว ทั้งบ้าน ลูก เมีย งานการที่เคยทำอยู่ก็ต้องเสียให้คนอื่นไป ได้แต่อาศัยลักเล็กขโมยน้อยเพื่อประทังชีวิตให้อยู่รอดไปวันๆ หนึ่งเท่านั้น คงไม่มีปัญญาจะเลี้ยงมันได้อีก และไล่ให้มันกลับเข้าไปอยู่ในบ้านคุณแต๋วเหมือนเดิม
มอมมันได้แต่นิ่งฟังด้วยความดีใจที่ได้พบนายและมันก็ไม่สนใจด้วยว่านายจะพูดว่าอย่างไร จะมีปัญญาเลี้ยงดูมันต่อไปหรือไม่ มันคิดแต่เพียงว่าขอให้ได้กลับมาอยู่ใกล้ๆ นายอีกครั้ง แม้ตอนนี้นายจะมีสภาพไม่ต่างไปจากขอทานตามข้างถนนมันก็หาได้ใส่ใจ มอมมันวิ่งตามนายไปต้อยๆ ไม่ว่านายจะเดินไปทางไหนหรือพยายามไล่ให้มันกลับไปอย่างไร
จนนายเดินไปนั่งที่ริมคูข้างถนน มันก็ยังตามนายของมันไปไม่ให้ห่าง แต่เมื่อมอมเห็นนายมันนั่งนิ่งอย่างหมดอาลัยในชีวิต มันจึงนึกอะไรขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง นั่นคือสิ่งที่มันเคยทำกับนายของมัน ว่าแล้วเจ้ามอมก็วิ่งไปคาบกิ่งไม้แห้งๆ มาได้กิ่งหนึ่ง มาถึงก็วางกิ่งไม้นั้นลงบนตักนาย เท่านั้นแหละนายถึงกับซบหน้าลงบนหัวของมัน ปากก็พร่ำเรียกชื่อมันไม่หยุดหย่อน แล้วมอมมันก็รู้สึกได้ว่ามีหยดน้ำอุ่นๆ หยดแหมะลงมาบนหัวของมันหลายต่อหลายหยด…
เรียบเรียงจาก เรื่อง “มอม” ของ ม.ร.ว. คึกฤทธิ์ ปราโมช
หากจะคิดด้วยหัวใจ เรื่องนี้จบลงอย่างมีความสุข
แต่
เป็นความสุขที่เคลือบไว้ด้วยความหมองเศร้า
หัวใจรักอันเปี่ยมล้นไปด้วยความภักดี ที่มอมมีต่อนาย ช่างน่าเทิดทูน มอมมันไม่เคยแม้แต่จะคิดคดทรยศนายที่ทิ้งมันไป ยังคงซื่อสัตย์ และเฝ้าคอยผู้ที่เป็นยิ่งกว่าชีวิตของมันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ครั้นนายสั่งให้มันช่วยดูแลนายผู้หญิงและหนูตอนที่นายไม่อยู่ มอมก็ทำหน้าที่ของมันเป็นอย่างดี สุดที่สุนัขตัวหนึ่งจะทำได้ แม้แต่ตอนที่นายผู้หญิงสิ้นลมหายใจ เสียงเห่าหอนของมอมก็ยังกลายเป็นสื่อช่วยให้ชาวบ้านได้มาพบศพนายผู้หญิงและหนูที่นอนตายอยู่ก้นหลุม โดยที่มันเองก็คงไม่รู้ตัวว่า มันได้ทำหน้าที่ดูแลนายผู้หญิงและหนูอย่างดีแล้วตามคำสั่งของนาย
ถึงมอมจะต้องทนทุกข์ทรมานจากความหิวในชั่วขณะที่ไม่เหลือใคร จนร่างกายผ่ายผอม ซมซานจนไปเจอกับคุณแต๋ว นายหญิงคนใหม่ที่เอ็นดูรักใคร่เลี้ยงมันมานาน แต่ใจมอมก็ยังคงเป็นของนาย มอมมันไม่เคยทอดทิ้งนายให้ห่างหายไปจากใจ ในขณะเดียวกันก็ยังรักและคิดตอบแทนคุณคุณแต๋วที่เลี้ยงดูมันมา จนกระทั่งโชคชะตาได้ทำให้มันได้พบกับนายอีกครั้ง แม้ครั้งนี้นายของมันจะกลายเป็นคนไร้หลักแหล่ง ร่อนเร่ไปทั่ว ไม่มีทรัพย์สินสิ่งใด แต่มอมมันก็ยังเลือกที่จะไปตกระกำลำบากเอากับนายที่มันทูนไว้เหนือชีวิต มากกว่าจะอยู่สุขสบายกับนายใหม่ที่ช่วยชีวิตมัน
ชะตากรรมอันแสนรันทดระหว่าง นาย กับ มอม ไม่ได้ทำให้มอมและนายคลายความรัก ความผูกพันที่มีต่อกันได้เลย มอมเป็นหมา นายเป็นคน แม้จะต่างสายพันธุ์กันแต่ทั้งสองก็สามารถสื่อสารจิตใจถึงกันได้ ความต่างของทั้งสองกลับไม่ใช่อุปสรรคกั้นขวางความรู้สึกระหว่างใจ แล้วเราซึ่งเป็นมนุษย์ มีสติปัญญา ความคิด ภาษา และวิธีการที่จะใช้ได้ดีกว่ามอมมากมาย จะหวั่นเกรงไปทำไมกับการแสดงออกถึงความรักที่เรามีต่อใครคนหนึ่ง
มอมมันอาจเป็นสุนัขที่ไม่รู้คุณคุณแต๋วที่เก็บมันมาชุบเลี้ยง จนทำให้มันรอดตาย ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง จนถึงวันที่ได้พบกับนาย แต่มอมก็แสดงออกถึงความรักอันมั่นคงที่มันมีต่อนายของมันอย่างไม่เสื่อมคลาย หากเราจะมองความรักความซื่อสัตย์ที่มอมมีต่อนาย ก็คงเปรียบได้กับการคงความรักความซื่อสัตย์ไว้กับคนที่เราเลือกแล้วว่าเขาคือ คู่ชีวิต
ชีวิตคู่ถ้าไม่มีความซื่อสัตย์ในรักต่อคู่ของตนก็จะเกิดแต่ปัญหา ดังจะเห็นได้จากสภาพของครอบครัวไทยในปัจจุบัน รักกัน คบกันมา 7-8 ปี พอแต่งงานกันก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำก็มีปัญหาในชีวิตที่ต้องใช้ร่วมกับใครเสียแล้ว ปัญหาที่ทำให้คู่รักต้องเลิกกันอาจจะมาจากเรื่องราวมากมายรายรอบตัว แต่เรื่องหนึ่งที่ถ้าขาดไปครอบครัวต้องแตกแยกอย่างแน่นอน ก็คือเรื่องของ ความซื่อสัตย์ในกันและกัน
นับตั้งแต่เกิดจนตายคนเราสามารถมีคู่รักได้หลายคน อาจจะเป็นหลัก 10 หลัก 100 ก็แล้วแต่อุปนิสัยอันเป็นส่วนตัว แต่ในบรรดาคู่รักหลากหลายที่ผ่านเข้ามาในชีวิต คงมีเพียง 1 ใน 100 หรือ 1000 เท่านั้น ที่จะกลายมาเป็นคู่ชีวิตของเราได้
เมื่อเราเจอเขาแล้วจงเก็บรักษาเขาไว้กับตัวกับใจเราให้นาน เพราะโอกาสเช่นนี้มีเพียงครั้งเดียวที่พระเจ้าจะประทานมาให้ บนโลกใบใหญ่ที่มีผู้คนหลากหลายให้พระเจ้าคอยดูแล ฉะนั้น ถ้าเราได้ตกลงใช้ใจผูกพันร่วมกันกับใครแล้ว จงใช้จงให้ใจเราไปอย่างเต็มที่ ทุกวินาทีให้มีเขาอยู่ในหัวใจ ไม่แน่ว่าโชคชะตาจะเล่นตลกกับเราในวันไหน จะพรากเขาจากเราไปเมื่อไหร่
ทุกวินาทีที่เรามีอยู่บนโลกใบนี้ล้วนมีความหมาย อย่าปล่อยให้มันสูญค่าไปด้วยการไม่ยอมแสดงออกถึงความรู้สึกของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รับรู้ หรือทำเจ้าชู้ประตูดินใส่ใครอื่นเรื่อยไป เพราะคำว่า “สายเกินไป” มักมาจ่อรอที่ประตูหัวใจอยู่แล้ว ขอเพียงแต่เราเผลอ
เรื่อง/ภาพ : Minyada_A
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย