Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มองโลกผ่านหุ้น
•
ติดตาม
7 ก.ค. 2020 เวลา 05:11 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วันนี้มองโลกผ่านหุ้นจะพาไปรู้จัก “หุ้น 10 อันดับที่ใหญ่ที่สุดในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกา”
สามารถแบ่งออกเป็นดัชนีต่างๆ ดังนี้
1. นิวยอร์กสต็อกเอ็กซ์เชนจ์ (NYSE)
2. เอส แอนด์ พี 500 (S&P500)
3. แนสแด็ก (NASDAQ)
4. ดาวโจนส์ (DOW JONES)
การแบ่งหุ้นตามดัชนีในต่างสหรัฐอเมริกาคล้ายกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (Thailand Stock Exchange) เพื่อให้ผู้ลงทุนสามารถเข้าถึงข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจได้สะดวกมากขึ้น
--
ซึ่งวันนี้หุ้น 10 อันดับที่มีมูลค่าหลักทรัพย์การตลาดที่ใหญ่ที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 2 กรกฎาคม 2563) ของเราได้แก่
อันดับที่ 10 Walmart (WMT)
วอลมาร์ต (WMT) เป็นบริษัทค้าปลีกในประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มก่อตั้งในปี 1950 โดย มิสเตอร์ แซม วอลตั้น (Sam Walton) วอลมาร์ตได้เข้าการตลาดหุ้นในนิวยอร์ก ในปี 1972 และขึ้นมาเป็นธุรกิจค้าปลีกอันดับหนึ่งในปี 1990 ที่มีสาขาถึง 11,500 สาขา ภายใต้ 56 แบรนด์ ใน 27 ประเทศ
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 485,651 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 16,363 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 482,130 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 14,694 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 485,873 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 13,643 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 500,343 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 9,862 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 514,405 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,670 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 09 - Johnson & Johnson (JNJ)
จอห์นสันแอนด์จอห์นสันต้นกำเนินอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา และได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์กสต็อกเอ็กซ์เชนจ์ (NYSE) อยู่ในหมวดหมู่อุตสาหกรรมยาและเครื่องมือแพทย์ (Healthcare Industry) ซึ่งมีสาขามากกว่า 250 สาขา ใน 60 ประเทศ และมีการกระจายขายสินค้าภายใต้แบรนด์มากกว่า 270 ประเทศ
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 70,074 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 15,409 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 71,890 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 16,540 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 76,450 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 1,300 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 81,581 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 15,297 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 82,059 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 15,119 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 08 - วีซ่า (V)
บริษัทอยู่ในตลาดหุ้นในนิวยอร์กสต็อกเอ็กซ์เชนจ์ (NYSE) ที่ให้บริการด้านไซเบอร์ซอร์สเพย์เม้นต์ (Cyber Source Payment) ที่ให้บริการมากกว่า 190 ประเทศ และรองรับหน่วยเงินตรามากกว่า 50 สกุลเงิน โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็น ธนาคาร รัฐบาล และธุรกิจรวมไปถึงลูกค้าผู้ใช้บัตรโดยตรง
อธิบายง่ายๆ คือเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อระบบการเงินเข้าด้วยกัน ที่สามารถจ่ายเงินผ่านระบบความปลอดภัยสูง
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 13,880 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,328 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 15,082 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 5,991 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 18,358 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,699 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 20,609 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 10,301 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 22,977 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 12,080 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 07 - Berkshire Hathaway (BRK)
ผู้ก่อตั้งบริษัทคือ "วอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett)" เป็นธุรกิจที่มีรายได้จากการลงทุนในบริษัทอื่นเป็นหลักหรือรู้จักกันในหุ้นประเภทโฮลดิ้ง
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 210,943.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 24,083 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 223,418.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 24,074 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 242,061.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 44,940 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 225,382.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 4,021 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 327,223.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 81,417 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 06 - Alibaba (BABA)
บริษัทเทคโนโลยีในประเทศจีนก่อตั้งโดย แจ๊กหม่า ที่ทำธุรกิจระบบดิจิทัล ขับเคลื่อนในประเทศและต่างประเทศ โดยแยกการให้บริการออกเป็น 9 ธุรกิจย่อยแบ่งเป็น ระบบการซื้อขายมาเก็ตเพลส ระบบคราวน์คอมพิวติ้ง ระบบการทำธุรกรรมทางออนไลน์
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 12,301 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 3,898 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 15,909 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 11,240 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 23,531 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,493 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 37,825 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 9,670 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 56,163 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 13,055 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 05 - Facebook (FB)
แพลตฟอร์มโซเชี่ยวมีเดียและให้บริการอื่นๆอีก เช่น อินสตาแกรม ว๊อทแอพ แมสเซนเจ้อ (Facebook, Instagram, WhatApp, Messenger) รายได้หลักของเฟสบุ๊คมาจากการขายค่าโฆษณาในการทำการตลาด บนข้อมูลผู้ใช้งาน (ก็คือคนที่มีสินค้าเฟสบุ๊คนั่นแหละ) ซึ่งสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายในการทำโฆษณาได้อย่างชัดเจน
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 17,928 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 3,669 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 27,638 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 10,188 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 40,653 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 15,920 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 55,838 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 22,111 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 70,697 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 18,485 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 04 - Google (GOOGL)
กูเกิ้ลรู้จักกันในชื่อของ แอลฟาเบต (Alphabet) ที่เป็นมากกว่าคำว่าเสิร์ซเอนจิน (Google Search) แต่เป็นบริษัทที่ให้บริการเทคโนโลยีที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตและธุรกิจ กูเกิ้ลมีความเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งคือ เรื่องนวัตกรรมและการส่งเสริมความสำเร็จโดยให้ความรู้แก่ผู้ใช้งานและสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดสิ่งใหม่ๆ
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 74,989 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 15,826 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 90,272 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 19,478 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 110,855 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 12,662 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 136,819 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 30,736 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 161,857 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 34,343 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 03 - Amazon (AMZN)
บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ที่ให้บริการเกี่ยวกับระบบการซื้อขายมาเก็ตเพลส ระบบคราวน์คอมพิวติ้ง สื่อบันเทิง (เพลง, ทีวี, หนังสือ) รวมไปถึงอุปกรณ์อัจฉริยะ (เอ็กโค่ อเล็กซ่า)
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 107,006 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 596 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 135,987 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 2,371 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 177,866 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 3,033 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 232,887 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 10,073 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 280,522 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 11,588 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 02 - Microsoft (MSFT)
บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยีให้ขายสินค้าและบริการ ที่เป็นฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ที่เราใช้ในปัจจุบันรวมไปถึงโครงสร้างคราวน์คอมพิวติ้งและระบบวินโดว์
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 93,580 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 12,193 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 91,154 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 20,539 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 96,571 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 25,489 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 110,360 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 16,571 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 125,843 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 39,240 ล้านดอลลาร์
อันดับที่ 01 - Apple (APPL)
บริษัทในกลุ่มเทคโนโลยี ที่จายสินค้าและบริการ ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เช่น โทรศัพท์มือถือ ไอแพท แลปท๊อป และอุปกรณ์ต่างๆ
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 233,715.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 53,394.00 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 215,639.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 45,687.00 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 229,234.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 48,351.00 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 265,595.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 59,531.00 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 260,174.00 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 55,256.00 ล้านดอลลาร์
2 บันทึก
2
6
2
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย