8 ก.ค. 2020 เวลา 04:49
" อยู่รอดในที่ทำงาน "
ในปัจจุบันเป็นยุคที่เดิมพันด้วยความเร่งรีบ และการแข่งขัน แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะประคับประคองตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย โดยเฉพาะกับมนุษย์เงินเดือนที่ทำงานออฟฟิศอย่างเราๆ ในทุกๆวัน ต้องสู้กับสภาพการจราจร โดยเฉพาะหากอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง กรุงเทพมหานคร ชั่วโมงเร่งด่วนที่รถแทบไม่ขยับ ต้องใช่ความอดทนเป็นพิเศษ แต่ก็ต้องดิ้นรนให้ทันเวลาเข้างาน
สำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องง่าย แล้วไม่ใช่ทุกคนที่จะได้ทำงาน หลายคนอยู่ในสถานการณ์ของการสมัครงาน มองหางาน กว่าจะได้ทำงานในองค์กรหนึ่ง ต้องผ่านบททดสอบหลายอย่าง
เชื่อเถอะว่า คนที่มีงานทำอยู่แล้วจงยินดีกับตัวเอง เพราะยังมีอีกหลายๆคนที่อยากได้โอกาสแบบคุณ
เมื่อคุณได้กลายเป็นหนึ่งในนักสู้ขององค์กรใดองค์กรหนึ่งแล้ว ต่อจากนั้นคือชีวิตจริงที่ต้องเจอและรับมือ กับบุคลในองค์กร เพื่อนร่วมงาน หัวหน้าและงานที่ได้รับมอบหมาย มันจะเป็นอีกหนึ่งบททดสอบ เพื่อให้คุณได้ศึกษาว่าจะผ่านมันไปได้หรือไม่
ในบทความนี้ก็ได้รวบรวมแนวทางในการวางตัวในที่ทำงาน ให้เพื่อนร่วมงานและเจ้านายรัก รวมถึงคนเป็นเจ้านายต้องวางตัวอย่างไรให้คนเคารพ และเต็มใจที่จะร่วมงานด้วย
1.สำหรับพนักงานใหม่แล้ว การเรียนรู้กฎ กระบวนการทำงานขององค์กร และปรับตัวให้คุ้นเคยโดยเร็วเป็นสิ่งที่ดีที่สุด ถึงแม้กฎบางอย่างจะต้องขัดแย้งกับเราก็ควรปรับตัวให้ได้ เพราะเมื่อเรามีโอกาสอยู่ไปนานๆ เราจะเรียนรู้เทคนิคยืดหยุ่นได้เอง
2.รับผิดชอบต่อคำพูดและการกระทำ เป็นสิ่งสำคัญมากๆ ต้องเข้าใจก่อนว่าทุกคนย่อมทำสิ่งผิดพลาดได้ แต่ตัวชี้วัดหลังจากที่เราทำผิดพลาดนั้น เราจะปฏิบัติต่อมันยังไง ซึ่งถ้าเรายืดอกยอมรับแทนที่จะหาทางปกปิด เชื่อเถอะว่าหัวหน้าที่ดีย่อมเข้าใจและให้อภัยได้ ซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย มันจะเป็นแค่เพียงช่วงสั้นๆ แต่ต่อจากนั้นความซื่อสัตย์จะเป็นเกราะป้องกันความเสื่อมเสียชื่อเสียงในระยะยาว
3.การขอคำแนะนำจากผู้ใหญ่เป็นทางออกที่ดีที่สุด เมื่อเกิดปัญหาต่างๆ ถ้าหากปัญหานั้นใหญ่เกินความสามารถของเรา อย่าพยายามรั้น ให้รีบขอคำแนะนำจากหัวหน้างาน ในฐานะที่หัวหน้ามีประสบการณ์และพลังในการตัดสินใจที่มากกว่า ก่อนเรื่องจะบานปลาย
4.ทำงานแบบมืออาชีพ ข้อนี้เป้นสิ่งสำคัญที่จะชี้วัด ประเมินผลการเลื่อนตำแหน่งของเรา เพราะการทำงานแบบมืออาชีพ แม้ว่าจะหงุดหงิดมากจากไหนก็ต้องปฏิบัติหน้าที่ให้ดีที่สุด และระวังการระบายอารมณ์ด้วยการบ่น หรือนินทาคนอื่นเพราะอาจจะสร้างความขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานได้
5.เรื่องส่วนตัวไม่ควรเอามาเกี่ยวข้องกับงาน เพราะการไม่เอาเรื่องส่วนตัวมาเกี่ยวข้องกับงานรวมไปถึง การไม่คุยโทรศัพท์ด้วยเรื่องส่วนตัวในระหว่างการทำงาน มันบ่งบอกถึงการทำงานแบบมืออาชีพ โดยสิ่งที่พึงระวังคือการเล่าเรื่องปัญหาทางบ้านหรือปัญหาชีวิตของตัวเองให้คนอื่นฟัง เพราะคนเหล่านั้นแค่อยากรู้เรื่องของเรา ไม่ได้อยากช่วยจริงๆหรอก
6.เรื่องชู้สาวในที่ทำงาน ถ้าความรักของคุณในที่ทำงานไปทำให้เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ รู้สึกอึดอัดกับพฤติกรรมของคุณและคู่รักที่แสดงออกไป อาจะทำให้คุณเสื่อมเสียและถูกนินทาลับหลัง
7.การประณีประณอม ความมั่นใจและยึดมั่นในความคิดของตัวเองเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้ายึดมั่นในทุกๆเรื่อง อาจะทำให้เราดูไม่เป็นมืออาชีพ จะตามมาซึ่งความขัดแย้งโดยไม่จำเป็น การลองเปิดใจรับฟัง เพิ่มความยืดหยุ่นเป้นสิ่งที่ดีที่สุด
8.เรียนรู้ที่จะเป็นผู้นำ ไม่ใช่เจ้านาย ก่อนจะมาเป็นหัวหน้า คุณก็ต้องเคยผ่านการเป็นลูกน้องมาก่อน บทเรียนนี้เป็นสิ่งที่สอนคุณได้ดี หากลองมองย้อนกลับไปถึงหัวหน้าคนเก่าๆของคุณ ว่าพฤติกรรมแบบใดที่ทำแล้วลูกน้องอย่างคุณรู้สึกแย่ นั่นเป็นสิ่งสำคัญที่คุณไม่ควรนำมาทำ เมื่อคุณเป็นหัวหน้า ง่ายๆก็คือ ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าเอาสิ่งนั้นไปทำกับคนอื่น
7.รู้ขอบเขต และเป้าหมายงาน การขึ้นมารับตำแหน่งใดๆ ต้องศึกษาให้ชัดเจนว่าหน้าที่ของตนคืออะไร ขอบเขตการทำงานอยู่ตรงไหน สิ่งที่ดีที่สุดคือการคุยกับผู้บริหารโดยตรง สอบถามให้ชัดเจนถึงขอบเขต หน้าที่ และเป้าหมาย หากขอบเขต หน้าที่ และเป้าหมายของคุณชัดเจน คุณจะเห็นภาพชัดขึ้นว่าต้องทำอะไร (วางแผนได้ง่ายขึ้น)
ท้ายที่สุดตนเป็นที่พึ่งแห่งตน ไม่มีใครช่วยเหลือคุณได้ดีที่สุด มีแต่ตัวคุณที่ต้องเดินทางไปให้ถึงจุดหมาย ระหว่างทางอาจถูกขวากหนาม มันก็จะเป็นประสบการณ์ สอนตัวคุณให้ระวัง
จะได้ไม่ถูกหนามตำอีก และระหว่างทาง อย่ามัวแต่ก้มหน้าก้มตาเดิน อย่ามัวมองแต่เป้าหมายหรือจุดหมายปลายทาง ให้มองคนระหว่างทางบ้าง อาจจะเป็นคนที่เขายินดีช่วยคุณให้ถึงจุดหมายเร็วขึ้นก็ได้ และเมื่อเหน็ดเหนื่อยก็จงหยุดคิด วางแผน ดูทางใหม่ว่าทางที่เราเดินนั้นใช่ทางที่นำพาไปถึงจุดหมายหรือป่าว ถ้าเกิดเดินทางผิดไป คุณอาจจะต้องเดินกลับมาเริ่มที่จุดเริ่มต้นใหม่ก็ได้
ขอขอบคุณทุกคนที่อ่านบทความและคอมเมนต์ใก้กำลังใจกัน
#แอดกล่้วยหอมจอมซน
โฆษณา