Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
มองโลกผ่านหุ้น
•
ติดตาม
9 ก.ค. 2020 เวลา 11:00 • ธุรกิจ
วีซ่า (V) หุ้นที่มีมูลค่าหลักทรัพย์สูงเป็นอันดับที่ 8 ในสหรัฐอเมริกา
ในหลายปีที่ผ่านมาเราเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงของระบบการจ่ายเงินสดเป็นการใช้เงินผ่านบัตรและเราเริ่มเห็นการพัฒนาระบบการทำธุรกรรมทางออนไลน์ในการจ่ายผ่านมือถือ หรือสังคมไม่ใช้เงินสด (Classless Society) กันแพร่หลายมากขึ้น
ในความเป็นจริงแล้วสังคมไม่ใช้เงินสดเป็นเรื่องที่มีมานานแล้ว หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกับสัญลักษณ์ VISA หรือ บริษัท วีซ่า ที่อยู่บนบัตรเดบิตหรือเครดิตการ์ด ซึ่งเป็นบริษัท เชื้อสายอเมริกัน กำเนิดที่ ฟรอสเต้อ ซิตี้ แคลิฟอเนีย (Foster City, California) ที่ได้รับการยอมรับจากธนาคารในเรื่องความปลอดภัยไปทั่วโลก
วีซ่า เป็นการให้บริการด้านไซเบอร์ซอร์สเพย์เม้นต์ (Cyber Source Payment) ที่ให้บริการมากกว่า 190 ประเทศ และรองรับหน่วยเงินตรามากกว่า 50 สกุลเงิน โดยกลุ่มลูกค้าจะเป็น ธนาคาร รัฐบาล และธุรกิจรวมไปถึงลูกค้าผู้ใช้บัตรโดยตรง
อธิบายง่ายๆ คือเป็นเครื่องมือในการเชื่อมต่อระบบการเงินเข้าด้วยกัน ที่สามารถจ่ายเงินผ่านระบบความปลอดภัยสูง
วีซ่า (V) ได้จดทะเบียนในตลาดหุ้นในนิวยอร์กสต็อกเอ็กซ์เชนจ์ (NYSE) และมีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่ 8 ที่มีมูลค่าถึง 367,087 ล้านล้านดอลลาร์
กราฟแสดงรายได้และผลกำไร วีซ่า ปี 2015 - 2019
รายได้ปี 2015 อยู่ที่ 13,880 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,328 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2016 อยู่ที่ 15,082 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 5,991 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2017 อยู่ที่ 18,358 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 6,699 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2018 อยู่ที่ 20,609 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 10,301 ล้านดอลลาร์
รายได้ปี 2019 อยู่ที่ 22,977 ล้านดอลลาร์
คิดเป็นผลกำไร 12,080 ล้านดอลลาร์
สิ่งที่น่าสนใจของบริษัท วีซ่า คือเป็นบริษัทไฟแนนซ์เทคโนโลยี (Fintech) ที่ไม่มีค่าใช้จ่ายในการผลิตสินค้า และควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินการธุรกิจอยู่ในอัตราส่วนเพียงแค่ 10-13%
ถ้าเราได้ศึกษาสถิติกำไร 5 ปีหลัง อาจจะมีกำไรไม่ได้เยอะเหมือนกับบริษัทอื่นแต่มีการเติบโตต่อเนื่องทุกปี
ด้วยลักษณะเฉพาะตัวของธุรกิจทำให้กรณีศึกษาน่าสนใจมากขึ้นถึงการขยายตลาดไปเกือบทุกภาคส่วนโดยเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลัก และเพิ่มบริการเรื่องของข้อมูลมาเป็นส่วนเสริมเพื่อสร้างจุดแข็งในการแข่งขันให้แก่ภาคธุรกิจ
CREDIT: FREEPIK
ในทางตรงกันข้ามปัจจัยที่มีผลกระทบที่จะต้องศึกษาเพิ่มเติม ได้แก่
- ด้วยเรื่องของความปลอดภัยของระบบ (Cyber Security) เปรียบเทียบกับขนาดของตลาดที่ครอบครอง
- การแข่งขันของตลาดเทคโนโลยีภายในแต่ละประเทศที่เติบโตมากขึ้น ทำให้เกิดการแข่งขันในระดับท้องถิ่นมากขึ้น (Local Competitor)
- วีซ่าเป็นบริษัทที่ให้บริการทั่วโลก อาจจะต้องศึกษาเรื่องของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
กรณีศึกษาที่น่าสนใจ คือ การเสนอเป็นหุ้นส่วนเรื่องเป็นทางออกระบบแลกเปลี่ยนการเงินให้แก่ภาครัฐบาล ซึ่งขึ้นอยู่กับนโยบายการลงทุนของภาครัฐในแต่ละประเทศ
แล้วถ้าเรามองกลับมายังประเทศไทยการเติบโตด้านไฟแนนซ์เทคโนโลยี (Fintech) ยังมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องถ้าเรามองถึงปัจจุบัน เราจะเห็นแบ้งก์สีเขียวและสีม่วง ที่มีผู้ใช้แอปพิเคชั่นเป็น 2 อันดับสูงสุด ในเรื่องของวันพรุ่งนี้เรายังไม่รู้ว่าจะเข้ามาครอบครองตลาดรุ่นใหม่ได้มากเท่าไหน แต่ในข่าวร้ายของไวรัสโควิด ก็ทำให้มองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปมากพอสมควร และในวันที่เศรษฐกิจกลับมาเป็นปกติ (ซึ่งไม่รู้เมื่อไหร่) เราอาจจะเห็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดก็เป็นได้
ที่มา
https://www.macrotrends.net/stocks/charts/V/visa/roe
https://www.marketcaphistory.com/visa/
2 บันทึก
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย