9 ก.ค. 2020 เวลา 11:21 • การเมือง
หญิงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน ว่าที่ผู้ท้าชิงตำแหน่ง “รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ”
การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ใกล้เข้ามาทุกที
หลายคนคาดเดากันไปต่างๆ นานาว่าใครจะได้ครองตำแหน่งนี้ไป
ระหว่างนายดอนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนปัจจุบัน
และนายโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคคู่แข่งอย่างเดโมแครต
แม้ว่าตัวผู้สมัคร ชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจะสำคัญแค่ไหน
แต่อีกบุคคลสำคัญที่มองข้ามไม่ได้เลยก็คือ “รองประธานาธิบดี”
ทรัมป์มีนาย “ไมก์ เพนซ์” เป็นรองประธานาธิบดีคู่ใจ
แล้ว โจ ไบเดน มีใครที่จะลงสนามนี้ไปกับเขาหรือยัง?
ท่ามกลางความสงสัยมากมาย
หลายคนพุ่งไปเป้าที่ คุณ “ลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ”
หญิงสาว ลูกครึ่ง ไทย-อเมริกัน
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร?
แล้วประวัติของเธอน่าสนใจอย่างไร?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
คุณลัดดา แทมมี ดักเวิร์ธ เกิดที่กรุงเทพฯ
แม่ของเธอเป็นคนไทย ส่วนพ่อของเธอเป็นนาวิกโยธินชาวอเมริกัน
หลังจากที่ พ่อของคุณดักเวิร์ธ ปลดประจำการแล้ว
เขาก็ได้ย้ายไปทำงานที่ โครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ หรือ UNDP
ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานของ UN ที่จะเข้าไปช่วยเหลือประเทศต่างๆ ที่กำลังมีปัญหา
เรื่องนี้ทำให้พ่อของคุณดักเวิร์ธ ต้องเดินทางไปทำงานในหลายประเทศ
ซึ่งคุณดักเวิร์ธต้องติดตามพ่อเธอไปตั้งแต่ยังเด็กๆ
ตอนที่เธออายุเพียง 8 ขวบ เธอได้ผ่านประสบการณ์ที่อยู่ท่ามกลางเสียงระเบิด ในประเทศกัมพูชา
และต่อมา เธอก็ได้ย้ายไปอยู่ที่สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย
ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้มีช่วงชีวิตที่แสนสนุกเหมือนกับเด็กคนอื่นๆ
ซึ่งเราอาจจะคิดว่าชีวิตของเธอน่าสงสารมากพอแล้ว
แต่ความยากลำบากนี้แค่เพิ่งเริ่มขึ้น..
เมื่อครอบครัวดักเวิร์ธ ตัดสินใจกลับไปอยู่ที่สหรัฐฯ
ผู้เป็นพ่อ ก็เจอเข้ากับปัญหาใหญ่ เพราะเขาตกงาน และหางานใหม่ไม่ได้
ทั้งครอบครัว จึงต้องอาศัยเงินช่วยเหลือจากรัฐ และบางวันแทบจะไม่ได้กินอาหาร
พวกเขาหาเงินจากเหรียญที่เหลืออยู่ในช่องทอนเงินของตู้โทรศัพท์สาธารณะ
โดยมีเพียงคุณแทมมี ดักเวิร์ธ เพียงคนเดียว ที่สามารถหางานทำได้
1
แม้ว่าในภายหลัง พ่อของเธอจะได้งานทำที่โรงงาน
แต่รายได้ก็ยังไม่พอกับค่าใช้จ่ายอยู่ดี
สุดท้าย คุณแทมมี ดักเวิร์ธ ก็ต้องทำงานพิเศษ และกู้เงินเพื่อนำมาใช้เรียนจนจบมหาวิทยาลัย
พอเรียนจบ เธอก็ไปสมัครเป็นทหาร
ซึ่งแม้ว่างานนี้จะเป็นงานที่เธอรักมากแค่ไหน
แต่มันกลับกำลังจะพาเธอไปเจอจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญ..
เมื่อสหรัฐฯ เริ่มทำสงครามกับอิรัก เธอเป็นหนึ่งในคนที่อาสาไปร่วมรบในครั้งนี้
ด้วยตำแหน่ง “นักบินเฮลิคอปเตอร์”
ในขณะที่เธอกำลังขับเฮลิคอปเตอร์ เธอก็ถูกทหารฝ่ายตรงข้ามยิงจรวดใส่
เธอหมดสติไปในบางช่วง และเห็นภาพขาที่ไร้ความรู้สึก ห้อยไปห้อยมา
โชคดีที่เพื่อนนักบินที่ไปพร้อมกัน พยายามนำเครื่องลงจอด จนพาเธอไปรักษาตัวได้สำเร็จ
แต่เรื่องน่าเศร้าก็คือ เธอต้องสูญเสียขาทั้งสองข้าง..
แม้ว่าชีวิตของเธอ ดูเหมือนจะเจอคลื่นที่กระหน่ำถาโถมใส่แบบไม่ได้หยุดพัก
แต่นี่ไม่ได้ทำให้เธอยอมแพ้ต่อโชคชะตาสักนิด
หลังจากนั้นไม่นาน เธอก็หันเข้าสู่แวดวงการเมือง
ตามคำแนะนำของ ส.ว.ท่านหนึ่งจากพรรคเดโมแครต
เพียง 2 ปี หลังจากที่เธอต้องเสียขา
เธอก็เริ่มลงสมัครชิงตำแหน่ง ส.ส. ครั้งแรกในปี 2006
ผลลัพธ์ก็คือ คุณแทมมี ดักเวิร์ธ แพ้การเลือกตั้ง..
แน่นอนว่าเธอไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ
โดยในปี 2012 เธอกลับมาลงสมัคร ส.ส.อีกครั้ง และครั้งนี้ชัยชนะก็ได้ตกเป็นของเธอ
เรื่องน่ายินดียังเกิดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเธอได้ดำรงตำแหน่ง ส.ส.รัฐอิลลินอยส์ถึง 2 สมัย
ต่อมาในปี 2016 เธอก็เปลี่ยนไปลงสมัคร ส.ว. และเธอก็ได้รับเลือกอีกเช่นกัน
ดูเหมือนว่า เส้นทางในการเมืองของเธอดูจะสดใสไม่น้อยเลยทีเดียว
ที่สำคัญ ตอนนี้คุณแทมมี ดักเวิร์ธ ก็กำลังถูกจับตาอีกครั้ง
เนื่องจากหลายคนมองว่าเธอเป็นผู้ที่เหมาะสม
ที่จะลงสมัครชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คู่กับโจ ไบเดน
สาเหตุที่ทำให้ใครหลายคนมองว่าโจ ไบเดน ควรเลือกเธอลงมาสมัครคู่กัน
ก็เป็นเพราะสังคมของชาวอเมริกัน เป็นสังคมที่เกิดจากคนหลากหลายเชื้อชาติ
ดังนั้น การที่คุณแทมมี ดักเวิร์ธ ซึ่งเติบโตมาท่ามกลางความหลากหลายทางวัฒนธรรม จากการต้องย้ายไปอยู่หลายประเทศในวัยเด็ก น่าจะทำให้เธอเข้าใจความแตกต่างของแต่ละเชื้อชาติได้ดี
ประกอบกับบทบาทที่เธอเป็นทั้งทหาร นักการเมือง
และยังเคยเป็นที่ปรึกษาด้านกิจการทหารผ่านศึกของรัฐบาล ในสมัยประธานาธิบดีโอบามา
ด้วยบทบาทที่หลากหลายนี้ ก็น่าจะทำให้เธอเข้าถึงผู้คนได้หลายกลุ่ม
ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังเคยมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก
และไม่ได้โตมาจากครอบครัวที่ร่ำรวยเหมือนกับนักการเมืองหลายๆ คน
ซึ่งนี่อาจทำให้เธอเข้าใจหัวอกของประชาชนที่กำลังลำบากได้ดี
แม้ว่าชีวิตของเธอเหมือนจะเต็มไปด้วยอุปสรรค
แต่เธอได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า มันไม่สามารถฉุดเธอให้ตกต่ำลงได้
สิ่งที่เธอทำ คือ การพยายามต่อไปเรื่อยๆ ไม่ยอมแพ้
และเก็บทุกอุปสรรคมาเป็นแรงผลักดันในชีวิต
ซึ่งไม่ว่าในอนาคต เธอจะได้รับเลือกให้ลงชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีหรือไม่
มันคงไม่ได้เป็นเครื่องตัดสินความสำเร็จในชีวิตของเธอ
เพราะจากเรื่องราวทั้งหมดนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่า
แม้เธอจะไม่ได้มีตำแหน่งใหญ่โต
แต่เธอก็ถือเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง ที่มีหัวใจแข็งแกร่งไม่แพ้ใคร..
โฆษณา