10 ก.ค. 2020 เวลา 15:34 • การตลาด
Experiential Marketing หรือ Engagement Marketing คืออะไรน้ะ ?
การตลาดอะไรน้า ที่มันจะสามารถเข้าถึงความรู้สึก หรือประสบการณ์ที่ลุกค้าจะได้จากการใช้ผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา ?
พูดมาขนาดนี้แล้วก็ต้องวิธี Experiential Marketing นะสิ
เพราะในปัจจุบันนี้การโปรโมทด้วย SEO, Social media หรือ testimonial review ต่างๆ ก็มีประสิทธิภาพ แต่ว่าๆๆ อะไรมันจะทำให้ได้ดีมากไปกว่า พวกเค้าได้มาลิ้มรสเองนะสิเนอะ
Experiential Marketing คืออออ ?
- หรืออีกชื่อนึงคือ Engagement Marketing
- ก็คือตรงตามชื่อเลย การทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของเรา
- สิ่งที่สำคัญคือสร้างความ memorable ของแบรนด์เราให้กับลูกค้าาา
- การสร้าง personal interaction ที่เป็นส่วนสำคัญของการตลาดแบบนี้
- บริษัทที่เน้นการตลาดแบบนี้ จะทำให้พวกเค้ามีความแตกต่างทาง brand position และ CMO ส่วนใหญ่เลือกที่จะลงทุนในด้านการตลาดส่วนนี้ ราวๆ 21-50% ของงบการตลาดเลยน้ะ !
- โดยที่ 77% ของนักการตลาดมีความเชื่อว่า วิธีการตลาดแบบ Experiential Marketing สามารถทำให้แบรนด์มีการโปรโมทได้ดียิ่งขึ้น และส่งเสริมเรื่องของ Viral marketing
แล้วทำไม Experiential Marketing จึงสำคัญในยุคนี้ ?
- เนื่องจากวิธีการนี้ทำให้เราสามารถมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าได้ง่ายและดีที่สุด จึงทำให้เราสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้ดีและเยอะนั้นเองงงง
- เป็นอีก 1 วิธีที่ดีมากที่สุดในการเสริม social media marketing โดย Forbes พบว่า เกือบ 49% ชอบถ่ายวีดีโอในประสบการณ์แปลกๆที่ตัวเองได้เจอ และ 39% มักจะชอบแชร์ใน Twitter หรือ IG story
- การทำ CSR อย่างง่ายๆก็ทำได้ด้วยวิธีนี้นะ เช่น บริษัท Salesforce ร่วมมือกับ RED โดยใน event ประจำปีชื่อว่า Dreamforces ได้มีการเชิญบุคคลที่มีชื่อเสียงในด้าน non-profit โดยได้รับความร่วมมือจาก RED และการทำการคตลาดแบบนี้ อาจจะคล้ายๆกับ event marketing ซะหน่อย แต่ในมุมเดียวกันเค้าก็ได้ทำ CSR โดยการถ่ายทอดความรู้ในเรื่องของการช่วยเหลือสังคม ในมุมของกูรูเลยละ
ทุกอย่างก็เพื่อ Customer Want !
Experiential Marketing trend สำหรับปี 2020 ?
1. Story living - make this feel personal
- ลูกค้าในสมัยนี้มีความต้องการที่จะเยอะสักหน่อย เพราะเดี๋ยวนี้ การ design สินค้าจะออกมาหลากหลายมากขึ้น
- เพราะงั้นการที่เราสามารถทำให้ลูกค้ามีความรู้สึก ร่วม อิน หรือ มีความเฉพาะกับตัวเค้าได้ ด้วย Experiential Marketing ที่ทำให้การเล่าเรื่อง ไม่ใช่แค่การบอกเล่า แต่ให้ลูกค้ามีส่วนร่วมด้วยนั้นเอง
2. Say it with a show
- สมัยนี้การให้ลูกค้าเข้าถึงแบรนด์เราได้เนี่ย ถือว่ายากนะ เราต้องทำให้เค้ารู้สึกเป็นส่วนร่วม
- ตัวอย่างเช่น ผู้คนทั่วไปเวลา ดูละครเวที เราก็จะทำได้แค่มองจากมุมไกลๆ แล้วเห็นนักแสดงเล่นตามฉากเนอะ แต่วิธีที่จะทำให้ลูกค้ามีส่วนร่วมเนี่ย คือการที่เราเปิด Stage ให้ลูกค้าสามารถมรับชมฉากละคร หรือทำเป็น นิทรรศการได้ ก็จะทำให้ลูกค้าอินขึ้นเยอะเลย
3. CSR
- อย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปด้านบนเนอะ CSR อาจเป็นเรื่องที่น่าเบื่อหรือไกลตัวสำหรับลูกค้าหลายๆคน การที่เราสามารถนำ Experiential Marketing เข้ามาเพื่อทำให้ลูกค้าเข้าใจในสิ่งที่เราช่วยเหลือสังคม หรือเค้าเป็นส่วนหนึ่งเนี่ย..... เจ๋งไม่น้อยเลยยยละ !
ตัวอย่างที่ดีของ Experiential Marketing มีอะไรบ้างน้ะ ?
1. IKEA - Shoppable Image
- ตัวอย่างที่ดีเลย เพราะในช่วง Covid ที่ผ่านมาลูกค้าต้องช้อปออนไลน์
- สิ่งที่ทำให้เค้าเห็นภาพได้มากทีสุดคือ วิธี Shoppable Image โดยลูกค้าดูจากภาพไม่ว่าจะเป็น 3D หรือห้องจริงๆ แล้วสามารถดูที่ของตกแต่งชิ้นนั้นพร้อมราคาได้ง่ายๆ โดยขยับเม้าส์
- IKEA สาขาUAE เค้าได้มีการทำห้องจำลองจากหนังเรื่อง Simpson, Stranger thing แล้วนำมาทำเป็นเฟอร์นิเจอร์ในการขายอีกด้วย (ขายด้วยภาพนี้ละ)
2. Janet Jackson - Interactive Video
- ในระหว่างที่เค้าสอนการทำค้อกเทลสูตรต่างๆ ภายในวีดีโอระหว่างการสอนก็จมะีรายชื่อุปกรณ์ หรือส่วนผสมต่างๆมาขายแบบ interactive ด้วยจ้าาาาา
- แบบนี้ก็สร้างประสบการณ์ใหม่ดีนะ
3. Sephora - Surprise & Delight
- Sephora ได้มีการเปิดตัว monthly subscription ชื่อว่า Play! โดยเค้าจะมีการสุ่มจัด beauty box ประจำเดือนและจะส่งให้กับ members เป็นเซต Trial
- ที่เข้าถึงลุกค้าไปมากกว่านั้นคือ เค้ามีการให้เมมเบอร์ได้พูดคุย interaction ใน Live กับ expert ด้วย
4. Google - "Building a Better Bay Area"
- อีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีของ Google ในทาง CSR คือ ในปี 2012-2014 ทาง Google ได้มีโปรเจคที่เป็นเชิง Non-profit vote ว่าถ้าเค้าจะมีการ donate เงินจำนวน 5.5 ล้านดอลล่า ผู้คนใน Bay Area ใน U.S อยากให้พวกเค้าเอาไปลงทุนเพื่อสังคมในแง่ใดมากที่สุด
- โดยการใช้มือกดโหวตได้เลยยย (แต่อาจจะใช้ไม่ได้ในช่วงนี้น้าจ้ะ)
- โดยผลสรุปจาก Campaign นี่คือ 72% ของผู้พบเห็นและมีส่วนร่วม มีความรู้สึกดีด้วยกับแบรนด์นี้
5. Coca-Cola: FIFA World Cup VR Experience
- ใน FIFA World cup ที่เมือง Zurich ในปี 2016, Coca Cola ได้มีการใช้ Experiential Marketing โดยการนำ VR Technology ที่ในสมัยนั้นเนี่ย ยังไม่ได้ popular เพราะราคาสูง และยังไม่ได้แพร่หลาย
- นำมาเพื่อให้ผู้เข้ามาชม ได้ร่วมสนุกไปกับการเล่นฟุตบอลแบบ virtual พร้อม นักฟุตบอลที่มาเป็นในรูปแบบ virtual มาสอนให้คุณได้เดาะบอล และปิดท้ายด้วย free kick นั้นเองงงง
- และเหตุที่ทำให้ Coke ได้ทำ campaign นี้ก็เพราะว่า เค้าเป็น Sponsor หลักของ FIFA ในปีนั้น และนี้เองทำให้เค้าถูกจดจำไปได้มากเลยละะะ
จบแล้วจ้าาาา เป็นไงบ้างเพื่อนๆ ?
จริงๆอันนี้เป็นวิธีที่ไม่ได้ใหม่มากในเชิงการตลาดนะ แต่บางทีหยิบเค้ามาปัดฝุ่นหน่อย ก็ไม่เลวววว ^^
โฆษณา