Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
โกโก้นารายณ์
•
ติดตาม
10 ก.ค. 2020 เวลา 10:28 • การเกษตร
ประวัติและความสำคัญของโกโก้
โกโก้มีแหล่งกำเนิดอยู่บริเวณเขตร้อนชื้นของทวีปอเมริกาโดยเฉพาะแถบลุ่มน้ำอเมซอนและบางส่วนในทวีปอเมริกากลาง ซึ่งพบว่าชาว indian เป็นพวกแรกที่ทำการปลูกโกโก้และนำเมล็ดมาทำเครื่องดื่ม
ส่วนชาวสเปนเป็นชาติแรกที่เริ่มทำเครื่องดื่มจากเมล็ดโกโก้เหล่านี้มาผสมกับน้ำตาลจากอ้อยทำเป็นเครื่องดื่มซึ่งต่อมาเป็นที่นิยมมากในแถบยุโรป จนสิ้นศตวรรษที่ 16 ชาวสเปนได้ดำเนินการให้มีการเพาะปลูกโกโก้อย่างจริงจังขึ้นในแถบร้อนชื้นของทวีปอเมริกา ได้แก่ประเทศโคลัมเบีย เวเนซุเอลา เม็กซิโก ทรินิแดด และอีเควดอร์ แล้วต่อมาได้มีการนำโกโก้เข้าไปปลูกตามแหล่งปลุกต่างๆในอาณานิคมของสเปน,ดัตซ์และโปรตุเกสตามทวีปต่างๆ
1
สำหรับแถบเอเชียชาวดัตช์กับชาวสเปนได้นำโกโก้เข้ามาปลูกในอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์
กล่าวว่าโกโก้ถูกนำเข้ามาครั้งแรกที่รัฐปีคศ 1985
จากนั้นปีคศ 1950 ได้เริ่มนำสายพันธุ์ Amelonado
จากศูนย์วิจัยโกโก้ประเทศกานาเข้ามาปลูกและพบว่าสามารถขึ้นได้ดีและให้ผลผลิตในปีที่ 2 หลังจากการปลูกส่วนเชิงการค้าเริ่มครั้งแรกในปีค.ศ 1956
รายงานว่าโก้เคยนำมาปลูกในประเทศไทยครั้งแรกเมื่อปี 2446 แต่ก็ถูกละเลยเนื่องจากไม่ทราบถึงการนำมาใช้ประโยชน์ ต่อมาในปี 2495 กรมกสิกรรมได้นำพันธุ์โกโก้มาจากต่างประเทศปลูกที่สถานีกสิกรรม 4 แห่ง แต่ก็ไม่ได้มีความนิยมแพร่หลายสำหรับการเริ่มต้น
การค้นคว้าวิจัยพืชโกโก้อย่างจริงจังเริ่มปี 2515 โดยกองการยางกรมกสิกรรม แนะนำเมล็ดโกโก้ลูกผสมรวมของ upper amazon จากรัฐซาบาห์ประเทศมาเลเซีย มาปลูกทดลองในจังหวัดกระบี่ และปี 2523 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้นำพันธุ์โกโก้จากมาเลเซียซึ่งเป็นลูกผสมทำการค้ามาปลูกทดลอง ที่สวนสวี จังหวัดชุมพร รวมทั้งมีการนำเข้าสายพันธุ์แท้ในปี 2525 ได้นำกิ่งพันธุ์โกโก้จำนวน 18 สายพันธุ์เข้ามาทดลองปลูก และปี 2535 ได้นำเข้ากิ่งพันธุ์โกโก้ 10 สายพันธุ์ จากประเทศอังกฤษ มารวมปลูกไว้ที่ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร จังหวัดชุมพร ซึ่งการวิจัยแนะนำโกโก้มาปลูกแซมในสวนมะพร้าวซึ่งระหว่างนั้นปลูกเพื่อศึกษาแนวทางในการช่วยเหลือชาวสวนมะพร้าวให้มีรายได้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากผลผลิตมะพร้าวในขณะนั้นมีราคาตกต่ำซึ่งเป็นหลักในการพัฒนาโกโก้ที่ได้เริ่มขึ้นและขยายพื้นที่ปลุกเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ปี 2563 ก็นับเป็นเวลา 117 ปีแล้ว
ความสำคัญของโกโก้
1.อุตสาหกรรมผลิตช็อกโกแลตหวานและช็อกโกแลตนม อุตสาหกรรมประเภทนี้ใช้ chocolate liquid กับน้ำตาลเนยโกโก้และส่วนผสมอื่นผสมกันในอัตราส่วนตามสูตรการผลิตของแต่ละแห่งที่ผลิตช็อกโกแลต
2.อุตสาหกรรมลูกอมและลูกกวาด โดยการใช้ผงโกโก้และช็อกโกแลตลิควิดในการปรุงแต่งรสและกลิ่นของลูกอมและลูกกวาด
3.อุตสาหกรรมเครื่องดื่มรสช็อกโกแลต อุตสาหกรรมประเภทนี้จะใช้ผงโกโก้ผสมกับนมน้ำตาลและสารปรุงแต่งอื่นๆเช่นสารให้ความหวานสารปรุงรสมาผสมกันเป็นเครื่องดื่มรสช็อกโกแลต
4.อุตสาหกรรมเบเกอรี่ เพื่อปรุงแต่งรสผลิตภัณฑ์เช่น โดนัท,คุกกี้ ฯลฯ
5.อุตสาหกรรมยา โกโก้ที่ใช้จะเป็นรูปลักษณะของน้ำเชื่อมโกโก้ ซึ่งเป็นสารผสมเพื่อให้รสชาติ ทั้งยาเม็ดยาน้ำ และใช้เคลือบยาเม็ด เป็นการลบความขม เช่นยาควินิน
6.อุตสาหกรรมยาสูบ โดยใช้โกโก้เป็นส่วนผสมในยาสูบ เนื่องจากโกโก้มีกลิ่นหอมกลมกลืนกับกลิ่นใบยา และขณะเกิดการเผาไหม้โกโก้จะรวมกับน้ำตาล ทำให้กินหอมชวนสูบมากขึ้น
7.อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง นิยมใช้ cocoa บัตเตอร์
ในการทำลิปสติก เพราะโกโก้บัตเตอร์ มีคุณสมบัติละลายได้เมื่ออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงที่ 37 องศาเซนติเกรด แต่คงสภาพอยู่ได้ไม่ละลายในสภาพอุณหภูมิปกติ
คุณค่าทางอาหาร
โกโก้เป็นพืชที่มีคุณประโยชน์ทางอาหารสูง โดยโกโก้ผง 100 กรัมประกอบไปด้วย
โปรตีน 20.4 กรัม
ไขมัน 25.6 กรัม
คาร์โบไฮเดรต 35 กรัม
พลังงาน 452 แคลอรี่
โซเดียม 650 mg
โพแทสเซียม 534 มิลลิกรัม
แคลเซียม 51.2 มิลลิกรัม
แมกนีเซียม 192 mg
เหล็ก 14.30 mg
ทองแดง 3.4 mg
ฟอสฟอรัส 385 mg
กำมะถัน 160 mg
คลอรีน 199 มิลลิกรัม
เครดิต : ดร.ผานิต
การพัฒนาโกโก้ในประเทศไทย
กรมวิชาการเกษตร
ศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร
สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7
บันทึก
2
6
2
6
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย