ทำไมเราเรียนภาษาอังกฤษมาตั้งหลายปี แต่เอาไปใช้จริงไม่ได้ซักที
การเรียนภาษาอังกฤษ เป็นเรื่องปกติของคนไทยเรา เพราะเราเองเรียนภาษาอังกฤษมาแทบจะพร้อมๆ กับภาษาไทยเลยก็แทบจะว่าได้ พ่อแม่ของเราเองก็คงสอนเราให้เรียน ก-ฮ พร้อมๆกับการท่องและอ่านตัวอักษรภาษาอังกฤษอย่าง A-Z ใช่ไหมครับ ผมเองก็เช่นกัน
ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่เป็นภาษากลางใช้กันทั่วโลก เพื่อใช้เป็นสื่อกลางระหว่างคนที่ต่างเชื้อชาติต่างภาษาสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ หากเราไม่รู้ภาษาอังกฤษแล้วการทำงานกับชางต่างชาติ (ไม่ใช้แค่ชาวยุโรปนะครับ คนจีน คนญี่ปุ่นก็ต้องเรียนเหมืือนกันกับเรา)
ส่ิงสำคัญคือเราต้องไม่มองว่าการใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดๆ เป็นเรื่องน่าอาย เพราะความผิดพลาดเกิดขึ้นได้เสมอ แม้แต่เจ้าของภาษาเองก็ยังใช้ภาษาอังกฤษไม่ถูกไวยกรณ์ได้เหมือนกัน เหมือนที่เราคนไทย ก็ยังคงใช้ภาษาไทยได้ไม่ถูกต้อง 100% เช่นกัน
ทำอย่างไรเราถึงจะพูดภาษาอังกฤษได้เหมือนเจ้าของภาษา?
คำถามนี้จะว่าง่ายก็ง่ายจะว่ายากก็ยาก เพราะการเรียนรู้ภาษามันเป็นลักษณะของแต่ละบุคคล บางคนอาจเรียนรู้ได้เร็ว บางคนก็อาจเรียนรู้ได้ช้ากว่า แต่สิ่งที่ทุกคนต้องทำเหมือนกันเพื่อให้เก่งขึ้น คือการฝึกฝนยังไงละครับ เพราะไม่มีืทางทีคุณจะเก่งขึ้นได้เลยโดยไม่มีการฝึกฝน เรื่องของภาษาไม่ว่าจะเป็นภาษาอะไรก็ตาม ต้องใช้เวลาในการฝึกฝนหมดทั้งนั้น
แล้วเราจะศึกษาจากที่ไหน ฝรั่งแถวบ้านไม่มีสักคน
อันนี้เรื่องจริงที่เราไม่สามารถหาเพื่อนฝรั่งมาคุยกับเราเพื่อฝึกฝนได้ทุกวัน บางคนก็บอกว่ามีผัวฝรั่งสักคนก็เรียนภาษาอังกฤษได้เอง อันนี้ก็จริงแถมได้สามีพ่วงมาอีกคน(ฮา) แต่ผมบอกเลยว่ายุคสมัยนี้เปลี่ยนไปมาก ยุคสมัยผม(คนแก่เล่เรื่องเก่าอีกแล้ว) การเรียนภาษาอังกฤษทำได้แค่เรียนจากคุณครูที่โรงเรียนเท่านั้นครับ แถมครูที่โรงเรียนเองก็ไม่ได้มีผัวฝรั่งเสียด้วย(ฮา)การออกเสียงก็สำเนียงไทย ไม่มีกระเดาะออกแนวฝรั่งจริงๆเลย ถ้าอยากเก่งขึ้นแล้วละก็ต้องไปหาเรียนพิเศษเอา จากติวเตอร์ภายนอก
แถมบ้านผมบ้านนอกมากไม่มีติวเตอร์ฝรั่งที่มาจากต่างประเทศ เจอก็แต่อาจารย์คนเดิมมาหาลำไพ่พิเศษ(ฮา) แต่ยุคนี้พวกคุณมีอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ส่งตรงเข้ามือถือของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คุณสามารถเรียนผ่าน youtube , facebook และเว็บไซต์ต่างๆ ได้ง่ายมาก หนังสือภาษาอังกฤษก็มีมาก มีQR code สำหรับlink เข้าเว็บได้เลย ผมนี้ตะก่อนต้องมีเครื่องเล่นCD หรือฟังเอาจากTape (มีใครรู้จักเทปกันอยู่ใช่ไหม)
ทั้งหมดทั้งมวลนี้เค้าแทบเอามาเสริฟท์ให้พวกคุณถึงบ้าน แต่สิ่งเดียวที่ทำให้คุณไม่เก่งภาษาอังกฤษคือ... ความหลงไหลในภาษาอังกฤษไงละครับ อะๆ ผมไม่ได้หมายความว่า บ้าเรียนภาษาอังกฤษนะครับ แต่ผมหมายถึงคุณต้องมีอะไรซักอย่างที่เป็นแรงจูงใจในการเรียนภาษาอังกฤษ หรือภาษาอื่นๆ ยกตัวอย่างอย่างตัวผมเองสมัยก่อนเป็นนักเรียนก็เรียนไม่เก่ง ภาษาอังกฤษได้แค่เกรด 2 ทั้งๆ ที่แม่ผมเองเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ
เพราะผมเองโดนแม่บังคับให้มานั่งเรีึยนภาษาอังกฤษตั้งแต่เด็ก ทำให้ผมเกลียดภาษาอังกฤษเข้าใส้ ไม่ยอมเรียนไม่ยอมอ่าน คือต้องบังคับกันนั้นเอง ผมมาชอบภาษาอังกฤษก็ตอนเรียนมหาลัยแล้วนี้เหลาะ เพราะตอนนี้มันเริ่มมี youtube ไงครับ และผมก็เป็นพวกชอบดูหนังต่างประเทศ และในยูทูปเมื่อก่อนคนไทยก็ไม่ค่อยชอบทำ มีแต่พวกฝรั่งมันทำกันเต็มไปหมด แล้วผมก็อยากรู้ว่ามันพูดว่าอะไร จะรอพี่ไทยทำsubtitleให้ก็รอไม่ไหว บางที่ก็ไม่ยากอ่านsubtitle เพราะทำให้พลาดบางฉากไปเพราะมัวแต่อ่าน
ก็เลยเร่ิมต้นเรียนภาษาอังกฤษจริงๆ จังๆตั้งแต่ตอนนั้น มันเลยเป็นpassion หรือความชอบ ขึ้นมาเอง พวกคุณเองก็ลองหาดูสิครับว่าเรามีความชอบเกี่ยวกับภาษาอังกฤษตรงไหนบ้าง ชอบดาราไหม ชอบดูหนัง ชอบนิยาย การ์ตูน อะไรก็ได้ครับ แล้วเราจะมีกำลังใจในการเรียนภาษา ไม่ว่าภาษาอะไร เมื่อเราเรียนไปจนถึงจุดๆหนึ่งมันจะมีการแพงของความท้อแท้ขึ้นมา การจะข้ามกำแพงนี้แล้วไปต่อ ต้องอาศัยตัวนี้เหลาะครับ ความหลงไหล หรือpassion หวังว่าจะหากันเจอนะครับ ถ้าหายังไม่เจอก็มาหาในเว็บไซต์นี้ดูก็ได้ครับ สวัสดี..
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
