11 ก.ค. 2020 เวลา 22:40 • หนังสือ
บันทึกคนจน
ภาพประกอบจาก Pixabay
ผมเป็นคนชอบอ่านหนังสือแต่ไม่ค่อยจะมีเวลาอ่านสักเท่าไหร่ วันหนึ่งผมได้ค้นหาหนังสือที่สร้างแรงบันดาลใจให้เราผ่านช่วงเวลาที่ย่ำแย่ไปได้
1
RICH DAD POOR DAD หรือพ่อรวยสอนลูกของ"โรเบิร์ตคิโยซากิ"
3
เป็นหนังสือในตำนานที่หลาย ๆ คนคงรู้จักกันดีและก็คงยังมีอีกหลาย ๆ คนที่แม้แต่ชื่อก็ยังไม่เคยได้ยิน
ผมต้องขอออกตัวก่อนเลยว่าผมก็ยังไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แบบจริงจังและจบเล่มเลยสักที แต่ว่าผมก็จะขอหยิบยกคำสอนและแนวความคิดดี ๆ มาให้ทุก ๆ ท่านได้อ่านและได้ฟังกัน
คุณเคยรู้สึกอยากจะได้สิ่งของอะไรบางอย่างที่มีราคาสูงเกินกว่าที่เราจะมีเงินหรือมีรายได้พอที่จะซื้อไหม
ผมก็เป็นคนนึงที่คิดอยากจะได้ ผมเคยคิดว่าผมคงไม่มีปัญญาซื้อมันหรอกได้แต่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานเก็บเงิน เก็บได้บ้างเก็บไม่ได้บ้าง รายรับพอ ๆ กับรายจ่าย
แต่มาวันนึงความคิดที่อยากจะได้สิ่งของสิ่งนั้นมันก็กลับมาวนเวียนในจิตใต้สำนึกของผม มันทำให้ผมเริ่มคิดว่าผมจะต้องทำอะไรบ้างผมถึงจะซื้อมันได้
รถกลับบ้านมีหลายคนแนะนำผมว่าระหว่างซื้อรถกับซื้อบ้านเราควรจะซื้ออะไรก่อน ซึ่งหลาย ๆ คนก็แนะนำผมว่าควรจะซื้อบ้านก่อน
ซึ่งมันก็สวนทางกับความคิดของผม เพราะส่วนใหญ่คนที่แนะนำผมก็ซื้อรถก่อนที่จะซื้อบ้านกันทั้งนั้น ซื้อรถก็มีแต่ขาดทุนซื้อบ้านสิได้กำไร
ซึ่งถ้าให้ผมคิดแบบชาวบ้าน ๆ อะนะ ผมคงต้องขี่บ้านไปทำงาน ผมเคยคิดว่าบ้านเป็นทรัพย์สินแต่แท้ที่จริงแล้วบ้านคือหนี้สินชิ้นโตที่เราต้องเรียนรู้ที่จะรักษามันไว้
ในคำสอนของพ่อรวยสอนลูกของ
"โรเบิร์ตคิโยซากิ" ได้กล่าวไว้ว่า
คนจนเมื่อเห็นของแพงมักจะคิดว่าฉันคงไม่มีเงินซื้อมันหรอกหรือไม่มีทางทำได้ แต่คนรวยเมื่อเห็นของแพงมักจะคิดว่าฉันจะต้องทำยังไงถึงจะซื้อมันได้
แนวความคิดนี้สอนให้เรารู้ว่า ถ้าเรามีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วเราควรจะหาวิธีการที่จะนำเราไปถึงจุดนั้น อย่ามัวแต่ไปคิดว่าไม่มีทางทำได้ ทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำ
ทำแล้วเจอปัญหาเราจะก็ได้เรียนรู้ในการแก้ปัญหาในจุดนั้นไป กลายเป็นประสบการณ์ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้ นอกจากตัวเราเข้าไปเรียนรู้เอง ผมให้นิยามคำนี้ว่า.!?
"ทำเองเจ็บเองรู้เอง"
หลายคนมองว่าคนรวยมักจะเห็นแก่ตัว แต่ส่วนตัวผมแล้วแบ่งคนรวยออกเป็น 3 แบบ(ส่วนตัวนะครับคนอื่นอาจจะแบ่งได้เยอะกว่าผม)
1.ทำจนรวย คุณคิดว่าคนที่ลงมือทำอย่างมุ่งมั่นทำจนรวยเขาจะมีมุมมองและวิสัยทัศน์แบบไหนมันไม่แปลกหรอกครับที่บางครั้งคนรวยอาจจะเห็นแก่ตัวบ้าง แต่ผมว่ามันยังดีกว่า แก่แล้วค่อยเห็น เห็นว่าคนที่เขาทำจนรวยเขาทำกันแบบไหน
2.โกงจนรวย คุณคิดว่าคนรวยแบบนี้จะเป็นคนแบบไหน ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าคนรวยแบบนี้มีความฉลาดหลักแหลม แต่ใช้ความฉลาดความสามารถไปในทางที่ผิด แต่ก็แปลกมักจะมีหน้าตาทางสังคมเป็นที่นิยมในสังคมชั้นสูงเป็นอย่างดี
3.เสี่ยงจนรวย คุณคิดว่าคนรวยแบบนี้จะเป็นคนแบบไหน ส่วนตัวผมแล้วคิดว่าคนรวยแบบนี้มักจะรักษาความรวยไว้ได้ไม่นาน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับความรู้และความสามารถของแต่ละบุคคลด้วยนะครับ ว่าจะมีการบริหารจัดการเงินกันยังไง
สรุปแล้วคนรวยที่แท้จริงมักจะมีสำนึกให้คืนกลับสังคม แบ่งปันช่วยเหลือหรือแม้กระทั่งสร้างงานสร้างโอกาสให้กับคนอื่นๆอีกมากมาย ผมก็อยากจะเป็นคนรวยกลุ่มนี้จังเลย..เฮ้อ..!
ผมเป็นคนนึงที่ชอบเป็นนายตัวเอง ไม่ชอบทำงานประจำหรือรับราชการ ชอบอาชีพอิสระหรืออะไรที่เราทำด้วยตัวเองแล้วมีความสุข ชอบฟังเพลงชอบงานศิลปะ ชอบฟังไอเดียเจ๋ง ๆ ชอบความต่างที่มีเหตุและผล
ผมเป็นคนที่เชื่ออย่างหนึ่งว่า ขอแค่เราขยันทำมาหากินเราก็ไม่อดตาย ที่ผ่านมาก็ไม่อดตายจริงๆนะครับ แต่โคตรลำบากเพราะอะไรรู้ไหมครับ ". "..ขาดความรู้.."
มีเพื่อนผมคนนึงซึ่งเป็นนักดนตรีเล่นด้วยกันกับผม เอ่อ.!..ขอแนะนำตัวก่อนนะครับ ผมเคยประกอบอาชีพเป็นนักดนตรีอิสระอยู่ช่วงหนึ่ง
เพื่อนผมได้ชวนผมไปเป็นอาจารย์สอนดนตรีโรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้า ผมก็บอกเพื่อนว่า
เฮ้ย.! ผอ.โรงเรียนนายเขาจะให้เราสอนเหรอวะเราไม่มีวุฒิทางด้านดนตรีเลย แล้วเพื่อนผมก็บอกว่า นายน่ะสอนได้ไปลองดู อาจารย์บางคนยังเรียนอยู่เลยประสบการณ์ยังน้อย นายลองไปสมัครดูก่อน
ผมก็เลยไปสมัครดูตามที่เพื่อนแนะนำ แล้วผมก็ถูกเรียกตัวให้เข้าไปสอน แต่ก่อนที่ผมจะเข้าไปสอน ผมได้ทบทวนและหาความรู้เพิ่มเติมอย่างหนัก มันทำให้ผมรู้ว่าผมขาดความรู้พื้นฐานทางด้านดนตรีเป็นอย่างมาก ทั้งที่ตัวผมเล่นดนตรีอาชีพตามผับตามบาร์มาหลายปี
ย้อนกลับไปที่ผมบอกว่าผมไม่ชอบงานประจำหรือรับราชการ แต่พอผมได้เข้ามาสอนดนตรีให้เด็กๆผมก็เริ่มรู้สึกว่า อ้าว.! นี่เรากลายเป็นคุณครูแล้ว
เหรอเนี่ย มันก็แอบภูมิใจเล็ก ๆ แบบว่าเดินเข้าไปในโรงเรียนก็มีแต่คนเรียก อาจารย์อาจารย์ แต่สิ่งที่ผมกลัวก็ได้มาถึง
1
ผอ. เริ่มออกกฎระเบียบต่างๆเยอะขึ้น ต้องทำอย่างนั้น ห้ามทำอย่างนี้ ต้องผูกเนคไทมาทำงานเสื้อต้องเข้าข้างในกางเกง ทรงผมต้องตัดให้เรียบร้อย ห้ามใส่หมวก มีสอนช่วงเช้าสอนเสร็จแล้วห้ามกลับบ้านให้อยู่ถึงโรงเรียนปิดแล้วค่อยตอกบัตรออก ไม่อย่างนั้นก็ต้องถูกหักเงิน
พอจะนึกภาพตามออกไหมครับ ผมเป็นนักดนตรีกลางคืน แล้วทรงผมของผมเปลี่ยนบ่อยมากซึ่ง ณ ตอนนั้นผมตัดทรง.."โมฮอก"..ผมจึงต้องใส่หมวกไปโรงเรียนเพราะไม่อยากให้ผู้ปกครองที่พาลูก ๆ มาเรียนตกใจหรือหมดความเชื่อถือในโรงเรียน
แต่ก็แปลกที่ลูกศิษย์ผมกลับชอบให้ผมถอดหมวกให้ดู มันอาจจะดูเท่และแปลกสำหรับเด็ก ๆ วัยรุ่นแต่ผมก็แนะนำให้ลูกศิษย์ไม่ให้เรียนแบบ มันเป็นอาชีพของครูในช่วงเวลากลางคืน
กลับเข้าเรื่องก่อนนะครับ
ผมรู้สึกว่าผมถูกเอารัดเอาเปรียบไม่ยุติธรรม ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกนะครับที่คิด ผมรู้สึกรักในอาชีพครูหรือผู้ให้ แต่ผมก็ต้องขอลาออกเพราะรู้สึกไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง และรู้สึกไม่เห็นด้วยกับกฎกติกาหลายอย่าง
มีอีกหนึ่งคำสอนในหนังสือพ่อรวยสอนลูกของ
"โรเบิร์ตคิโยซากิ" ได้กล่าวไว้ว่า
คนจนมักจะมองว่าการทำธุรกิจเป็นการเอารัดเอาเปรียบการชิงดีชิงเด่นเหนือคนอื่น ส่วนคนรวยมักจะคิดว่าการทำธุรกิจคือการแก้ปัญหาให้คนอื่น ยิ่งแก้ได้มากก็ยิ่งรวยมาก
2
ผมขอขยายความตรงนี้ในเชิงมุมมองของผมนะครับ ผมทุกวันนี้ก็ยังจนอยู่ ผมได้แบ่งมุมมองของคนจนออกเป็น 2 แบบ คือ
1
1.ถูกนายทุนเอาเปรียบ
2.เอาเปรียบนายทุน
ถึงผมจะยังจนอยู่ ผมก็ไม่ได้เข้าข้างคนจนด้วยกันทุกอย่างนะครับ ผมอยากให้เราหันกลับมามองการทำงานของเรา ว่าเราทำงานเพื่อรอรับเงินเดือนเพียงอย่างเดียว โดยที่เราไม่คิดที่จะเพิ่มความก้าวหน้าให้กับตัวเอง หรือเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองและบริษัทที่เราทำงานอยู่หรือเปล่า
แต่เรากลับเรียกร้องที่จะได้เงินเดือนเพิ่มขึ้นหรือสวัสดิการต่างๆเพิ่มขึ้น เพื่อแลกกับการทำงานแบบเดิมๆหรือทำงานแย่กว่าเดิม สรุปแล้วเราถูกนายทุนเอาเปรียบหรือเราเอาเปรียบนายทุน
แต่ที่แน่ๆถ้าเราเพิ่มมูลค่าให้กับตัวเราเองได้ เราก็ไม่ต้องรู้สึกขาดทุนหรือเสียเปรียบ เพราะอย่างน้อยเราก็ได้ข้ามขีดจำกัดของความจนไปอีก 1 ก้าว
ผมเจออุปสรรคมากมายในการใช้ชีวิต ไม่ใช่แค่ตัวผมคนเดียวเท่านั้น แต่ยังมีภรรยาและลูกๆของผมเข้ามาอยู่ในนี้ด้วย
มันทำให้ผมเมื่อเจออุปสรรคปัญหาต่างๆหรือล้มเหลวในธุรกิจที่ทำ ผมจะ up level หนีมันขึ้นไปทุกครั้ง พูดง่ายๆก็คือ เพิ่มมูลค่าให้กับตัวเองหาความรู้เพิ่ม ทำทุกอย่างเพื่อให้เราข้ามผ่านมันไปได้
เราจะต้องเจอกับความล้มเหลวความผิดหวังไปตลอดชีวิตแน่ ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่จะแก้ปัญหา ผมมั่นใจว่าผมจะกำจัดมันได้ในไม่ช้า "อย่าปล่อยให้ความจนมันอยู่กับเรานาน"
มีลูกมากจะยากจนคำกล่าวนี้ไม่ได้ผิดแต่ก็ไม่ได้ถูก ที่เราจนเพราะมัวแต่ไปคิดว่าเราหาเงินมาได้แค่นี้ก็ไปหมดกับการดูแลเลี้ยงดูลูก ๆ ทำให้เราไม่มีเงินเก็บ ทำให้เกิดความท้อแท้เบื่อหน่ายในการทำงานและการดำเนินชีวิต
ทำไมเราไม่ลองคิดกลับกันดูบ้างล่ะว่า ก็เพราะเรามีลูกเยอะนี่แหละเราจึงต้องหาเงินให้ได้มากกว่าเดิม แต่จะต้องทำยังไงถึงจะหาได้มากกว่าเดิมล่ะ
จากคำสอนในหนังสือพ่อรวยสอนลูกของ
"โรเบิร์ตคิโยซากิ" ได้กล่าวไว้ว่า
คนจนมักจะมองว่ารายได้นั้นสำคัญกว่ารายจ่ายซึ่งตัวผมในสมัยก่อนก็เป็นแบบนั้น โฟกัสที่การหารายได้ไม่ได้โฟกัสในการจ่ายออกไป เหลือจากการใช้จ่ายค่อยเก็บ ซึ่งก็เหลือบ้างไม่เหลือบ้าง
แต่พอเรามาเปลี่ยนไปโฟกัสที่รายจ่าย หรือคิดแบบคนที่เขารวยบ้างก็รู้สึกว่า มันก็เป็นความจริงอย่างที่ในหนังสือได้กล่าวไว้
พอเรามาเริ่มโฟกัสที่รายจ่าย เราจะมองเห็นเลยว่าอะไรที่เราจ่ายออกไปทำให้เรายากจน ทำให้เราประสบปัญหา ทำให้เราไม่มีสภาพคล่องทางการเงิน เราก็ควรจะตัดมันออกไป
ทุกวันนี้ผมได้แต่สอนลูกๆว่าให้ตั้งใจเรียน ให้สนุกกับการเรียน หนังสือการ์ตูนผมให้อ่าน เกมผมให้เล่น ไม่ปิดกั้นจินตนาการของลูก ๆ ให้เขาสนุกกับการทำกิจกรรมอื่น ๆ ให้เขาเรียนรู้และแก้ปัญหาด้วยตัวเอง คอยเป็นที่ปรึกษารับฟังปัญหาของลูก ทุกเรื่องทุกอย่าง
1
ผมอยากให้เขาค้นพบในสิ่งที่เขาอยากจะทำ แล้วเปลี่ยนมันเป็นธุรกิจในอนาคต ผมอาจจะขาดตกบกพร่องบ้าง ในเรื่องของการเงิน แต่สิ่งที่ผมไม่เคยขาดเลย คือ ความรักความอบอุ่นและความเข้าใจในครอบครัว เป็นได้ทั้งพ่อ,ทั้งพี่,ทั้งเพื่อน
ผมเปิดใจคุยกับลูก ๆ ทุกเรื่องและรับฟังปัญหาของลูก ๆ ทุกอย่าง ถึงทุกวันนี้ผมก็ยังเป็นพ่อที่จนอยู่ แต่ผมไม่เคยจนความคิด เพราะว่าผมมีลูก ๆผมจำเป็นที่จะต้องรวยในวันข้างหน้า แต่สิ่งที่ผมทำได้ในตอนนี้คือ ผมต้องสะสมความรู้เพื่อที่จะรวยความคิดแล้วพิชิตความร่ำรวยในอนาคต
เงินมันก็สำคัญ แต่มันก็ไม่สำคัญที่สุด ผมมองว่าเวลาต่างหากที่มีความสำคัญ ทุกคนบนโลกใบนี้มีจนมีรวยไม่เท่ากัน แต่มีสิ่งที่ทุกคนมีเท่ากันก็คือ "เวลา" ต้นทุนเวลาของคนเรานั้นมีเท่ากัน แต่ทุกคนใช้มันออกไปต่างกัน
ใครที่กำลังกลัวใครที่กำลังมีปัญหา ไม่กล้าลงทุนกับตัวเอง ไม่กล้าแม้กระทั่งที่จะเปลี่ยนแนวความคิด
"เฮ้ย" เราอย่าไปเสี่ยงเลยว่ะอย่าไปลงทุนเลยอยู่เฉยๆปลอดภัยกว่า ถึงผมจะยังไม่สำเร็จยังไม่ success แต่ผมบอกได้เลยว่า คนที่มีความเสี่ยงจะยากจนคือคนที่ไม่กล้าลงทุน
#ก็ไม่มีความรู้อะไรเลยแล้วจะให้ไปลงทุนได้ยังไง
แบบนี้คงจะเป็นความคิดของใครหลายๆคนอยู่ใช่ไหมครับ
1
เราก็ไปหาความรู้เพิ่มก่อนที่จะลงทุนเรียนรู้วิธีการบริหารจัดการความเสี่ยงให้มันเหลือน้อยที่สุด
สุดท้ายนี้ จนแต่ไม่เป็นหนี้และยังพอมีรายได้ดูแลชีวิตและครอบครัวให้มีความสุขได้ ไม่ก่อหนี้เพิ่มหนี้ ผมว่าชีวิตแบบนี้ต่อให้จนก็ยังคงมีความ success แบบพอเพียง ถ้าความสุขของเราคือการใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากจะเป็น
แต่ถ้าเป้าหมายของคุณคือความร่ำรวย ความ success แบบเศรษฐี คุณก็ควรจะลงมือทำอย่างจริงจัง อย่ากลัวความล้มเหลวขอแค่เพียงคุณไม่ล้มเลิก อย่ามัวแต่คิดแล้วไม่ลงมือทำ แล้วความร่ำรวยก็จะเข้าใกล้คุณอย่างแน่นอน
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆท่านที่กำลังเจอปัญหาและตัวผมด้วย ผมหวังอย่างยิ่งว่าบันทึกบทนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ใครหลายๆคนที่ท้อแท้ได้กลับมาสู้อีกครั้ง "อย่าปล่อยให้ความจนมันอยู่กับเรานาน"
#ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะครับ
#นั่งเขียน
โฆษณา