12 ก.ค. 2020 เวลา 03:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ
7 เดือนสำหรับ Covid-19 หลายอาชีพเสี่ยงตกงาน หายนะในทุกมิติของเศรษฐกิจไทย
industrytoday.com
เป็นเวลากว่า 7 เดือนแล้ว ที่มีประกาศว่ามีการตรวจพบผู้ติดเชื้อไวรัสฯคนแรกในประเทศจีน และเชื้อไวรัสได้แพร่กระจายไปทั่วทุกมุมโลก ทำให้มนุษยชาติต้องเผชิญหน้ากับโรคระบาดครั้งใหม่ที่รุนแรงอีกครั้ง
ไวรัสชนิดนี้คือ SARS-CoV-2 หรือที่เรารู้จักกันในนาม COVID-19
ซึ่งในขณะนี้ ( 12 ก.ค. ) มีผู้ติดเชื้อทั่วโลกแล้วกว่า 12.5 ล้านคน
รักษาหายแล้ว 6.89 ล้านคน และ มีผู้เสียชีวิต 5.6 แสนคน
CNBC indonesia
ส่งผลให้รัฐบาลต้องใช้มาตรการที่เข้มข้นเพื่อควบคุมการระบาด โดยได้เริ่มจากการใช้มาตรการล็อกดาวน์ในวันที่ 26 มีนาคม
และ ปัจจุบันนั้นยังไม่มีทีท่าที่หายนะครั้งนี้จะยุติลง
เพราะมีตัวอย่างที่ประเทศจีน ที่ไวรัสนั้นได้กลับมาระบาดอีกครั้ง
หลังจากมีประกาศว่าสามารถควบคุมโรคฯ ได้แล้ว
เนื่องจาก ไวรัสนั้นได้มีวิวัฒนาการ ทำให้ผู้ติดเชื้อไม่แสดงอาการ ตรวจพบได้ยากขึ้นและสามารถแพร่กระจายเชื้อฯ ได้ทางอากาศ
ส่งผล ทำให้เศรษฐกิจหยุดชะงัก ซึ่งมาตรการต่างๆ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตของเราแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ การผลิต ส่งออก ฯลฯ และรวมไปถึงเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทยอีกด้วย
สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้ผู้บริหารและผู้ประกอบการต้องปรับตัวอย่างรวดเร็ว และต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ในช่วงระยะเวลาอันสั้น
นอกจากนี้อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจในระยะยาวในลักษณะที่เรายังไม่อาจคาดคะเนได้
Grobal Trad Analysis Project (GTAP), Krungsri Research
สถาบันวิจัยกรุงศรีฯ ได้ประเมินผลกระทบของโรคระบาดไวรัสโควิด-19 ว่าจะทำให้เศรษฐกิจโลกหดตัว 3.2% และเศรษฐกิจอาเซียนจะลดลงราว 2.1-5.4% และหากมีการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไป ตัวเลขนี้อาจเพิ่มขึ้นอีกเป็นเท่าตัว
โดยประเทศไทยจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในบรรดาประเทศสมาชิกอาเซียน จากการที่นักท่องเที่ยวคาดว่าจะลดลง 60% จากปีที่แล้ว การขาดตอนของห่วงโซ่การผลิตทั้งในและต่างประเทศ และผลของตัวทวีคูณ ทำให้การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในปีนี้อาจหดตัว 5.4% จากกรณีที่ไม่มีโรคระบาด
Grobal Trad Analysis Project (GTAP), Krungsri Research
ธุรกิจร้านอาหาร ธุรกิจสายการบิน และธุรกิจโรงแรม จะอยู่ในภาวะที่ยากลำบาก
ในขณะเดียวกัน ธนาคารพาณิชย์จะมีโอกาสได้รับผลกระทบรุนแรงเช่นกัน แต่เนื่องจากยังมีสภาพคล่องสูง จึงยังคงดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่อง
MOC, Krungsri Research
จังหวัดที่อาจมีปัญหาสภาพคล่องเพิ่มขึ้น
ได้แก่ สมุทรสาคร จันทบุรี และชลบุรี
เพราะเป็นแหล่งอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวที่สำคัญ
สำหรับในกรุงเทพฯ จำนวนบริษัทที่อาจมีปัญหาสภาพคล่องเพิ่มขึ้น 20.6%
ซึ่งอาจส่งผลให้โอกาสที่บริษัทจะผิดนัดชำระหนี้เพิ่มขึ้นได้
ทั้งนี้ยังอาจก่อให้เกิดผลกระทบทางลบเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ต่อเศรษฐกิจในพื้นที่เนื่องจากการลดการจ้างงาน และ รายได้ที่ลดลง
efinancethai.com
การแพร่ระบาดของ ไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบไปทั่วโลก
โดยเฉพาะ “ประชาชน” และพวกมนุษย์เงินเดือน ที่ได้รับผลกระทบจากที่บริษัทขาดรายได้ ทำให้บริษัทหาทางออกด้วยการลดต้นทุน เช่น ลดเงินเดือน ลดค่าใช้จ่ายด้านต่างๆ หรืออาจเลิกจ้าง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เปิดเผยภาวะสังคมไตรมาส 1/63 ว่า
ประเทศไทยมีแรงงานราว 37.4 ล้านคน
เนื่องจากผลกระทบของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 คาดว่าแรงงานไทย มีความเสี่ยงการถูกเลิกจ้างงานในไทยราว 8.4 ล้านคน
bangkokbiznews.com
โดยกลุ่มที่เสี่ยงถูกเลิกจ้าง ประกอบด้วย
- ภาคการท่องเที่ยว
คาดว่าจะได้รับผลกระทบ 2.5 ล้านคน
จากแรงงานรวมที่มีอยู่ 3.9 ล้านคน
- ภาคอุตสาหกรรม
คาดว่าจะได้รับผลกระทบ 1.5 ล้านคน
จากแรงงานทั้งหมด 5.9 ล้านคน
- ภาคบริการอื่นที่ไม่ใช่ท่องเที่ยว
เช่น สถานศึกษา โรงเรียนกวดวิชา ตลาดสด ห้างสรรพสินค้า
คาดว่าได้รับผลกระทบ 4.8 ล้านคน
จากแรงงานทั้งหมด 10.3 ล้านคน
- ภาคเกษตร
คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากภัยแล้งรวม 6 ล้านคน
แบ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดภัยแล้ง 3.9 ล้านคน และ พื้นที่อื่นๆ 2.1 ล้านคน
stkc.go.th
จะเห็นว่าสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส Covid-19
ไม่ได้ส่งผลกระทบเพียง ภาคธุรกิจเท่านั้น แต่สะเทือนถึงประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พวกมนุษย์เงินเดือน หรือแม้กระทั่ง เจ้าของกิจการ
และนี่อาจจะเป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้น ถ้าหากสถานการณ์ยังคงต่อเนื่อง และ ยาวนาน ปัญหาคนตกงาน ปัญหาปากท้อง และ ความยากจน ก็จะมีเพิ่มมากขึ้น เป็นทวีคูน
หากสถานการณ์ทุกอย่าง สามารถกลับเข้าสู่สภาวะปกติได้ภายในครึ่งปีหลัง คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะมีการฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปในลักษณะ U-Shape
ภาคธุรกิจจะทยอยฟื้นตัว แต่อาจใช้ระยะเวลาฟื้นตัวและกลับมาดำเนินการที่แตกต่างกัน
คาดว่าจะมีธุรกิจจำนวนไม่น้อย ที่จำเป็นต้องปิดกิจการไป เนื่องจากเป็นธุรกิจขนาดเล็ก และมีสภาพคล่องไม่เพียงพอ ที่จะหล่อเลี้ยงพนักงานและธุรกิจ
ในช่วงที่มีปัญหาติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง เป็นเวลานานหลายเดือนบางธุรกิจที่ยังคงเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ยาก รวมถึงอาจไม่ค่อยได้รับการสนับสนุนความช่วยเหลือจากรัฐบาลเท่าที่ควร
อาจส่งผลให้พวกเขาไม่สามารถก้าวผ่านวิกฤติในครั้งนี้ไปได้
asiatime.com
ข้อคิดจาก Covid-19
ส่งผลให้ภาคธุรกิจ ต้องตระหนักถึงความพร้อม เพื่อรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเช่น
- ไม่ควรหวังพึ่งพารายได้จากต่างประเทศ ประเทศใดประเทศหนึ่ง มากจนเกินไป
- ควรมีการสำรองเงินทุนให้เพียงพออย่างน้อย 6 เดือน
เพื่อเป็นทุนสำรองไว้รักษาสภาพคล่องในยามฉุกเฉิน
- ไม่ควรมีภาระหนี้สินที่มากจนเกินไป
- สัดส่วนของรายได้ควรจะกระจายกลุ่มลูกค้า เพื่อลดความเสี่ยงให้กับกิจการ
ในระยะยาว ภาคธุรกิจควรต้องเตรียมปรับตัวเพื่อรองรับ สำหรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในโลกของธุรกิจ
ที่ทำให้บางธุรกิจนั้นถูกพลิกโฉมไปตลอดกาล.
โฆษณา