วิธีการดูแลตัวเองเบื้องต้นเมื่อมีอาการเจ็บคอ
1.ดื่มน้ำอุ่น
การดื่มน้ำอุ่นเป็นวิธีพื้นฐานที่หลายคนมักปฏิบัติเมื่อเกิดอาการเจ็บคอ โดยงานวิจัยเกี่ยวกับน้ำอุ่นที่ส่งผลต่ออาการหวัดจากมหาวิทยาลัย Cardiff สหราชอาณาจักรที่ตีพิมพ์ในวารสาร Rinology ระบุว่า การดื่มน้ำอุ่นช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยจากไข้หวัดต่าง ๆ เช่น อาการเจ็บคอ หนาวสั่น และอ่อนเพลีย นอกจากนี้การดื่มน้ำอุ่นยังช่วยให้รู้สึกสบายคอและช่วยละลายเสมหะได้อีกด้วย
2.เลี่ยงการใช้เสียง
เมื่อมีอาการเจ็บคอ ระคายเคืองคอ ควรจะจำกัดการใช้เสียง เนื่องจากจะก่อให้เกิดอาการอักเสบบริเวณลำคอมากขึ้นและทำให้เกิดอาการคอแห้งได้ง่ายกว่าปกติ หากการเจ็บคอเกิดจากการติดเชื้อควรจะสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่ผู้อื่น และจำกัดการใช้เสียงอีกด้วย
3.กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ
น้ำเกลือสามารถลดอาการบวมในคอได้โดยดึงน้ำออกจากเนื้อเยื่อในคอ เกลือยังทำหน้าที่เป็นตัวช่วยต้านแบคทีเรีย จึงสามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย เราสามารถกลั้วคอด้วยน้ำเกลือได้โดยผสมเกลือป่น 1 ช้อนชาในน้ำอุ่น 1 แก้ว วันละ 2-3 ครั้ง
4.เลี่ยงอาหารทอด อาหารรสจัด ร้อนจัด
เนื่องจากบริเวณลำคอกำลังเกิดการอักเสบ จึงไม่ควรรับประทานอาหารที่ทำให้เกิดการระคายเคืองหรืออักเสบเพิ่มขึ้น เช่น อาหารทอด อาหารร้อนจัด ซึ่งนอกจากจะทำให้หายช้าแล้ว ยังมักทำให้เกิดอาการไอ เพราะระคายเคืองอีกด้วย ดังนั้นควรจะรับประทานอาหารที่กลืนง่าย เคี้ยวง่าย และไม่ร้อนจัดจนเกินไป
5.พักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนพักเยอะๆ ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยเพิ่มปฏิกิริยาภูมิคุ้มกัน ควรพยายามนอนให้ได้ 8 ชั่วโมงตอนกลางคืน โดยเฉพาะเวลาป่วย
6.ทานน้ำผึ้ง
น้ำผึ้งถือเป็นเพื่อนแท้ของใครหลายคนในยามเจ็บคอ เพราะน้ำผึ้งมีสรรพคุณในการต้านแบคทีเรีย แก้อักเสบ จึงช่วยบรรเทาอาการเจ็บคอที่เกิดจากแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ยังช่วยให้รู้สึกชุ่มคอ โดยอาจเลือกผสมกับน้ำอุ่นหรือชาแล้วรับประทาน
7.บรรเทาด้วยสมุนไพรเอ็กไคนาเซีย
เอ็กไคนาเซีย (Echinacea) เป็นสมุนไพรที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในทวีปอเมริกาและยุโรป เพื่อรักษาอาการหวัด โดยสามารถลดระยะเวลาและความรุนแรงในการเป็นหวัด และสามารถบรรเทาอาการเริ่มเจ็บคอที่มีสาหตุมาจากเชื้อไวรัสได้ เพราะเอ็กไคนาเซียมีสารที่กระตุ้นให้ภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานดีขึ้น ช่วยให้เม็ดเลือดขาวแข็งแรงและทำงานได้ดีขึ้นเพื่อต่อสู่กับเชื้อโรค แบคทีเรีย และเชื้อไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพิ่มการเคลื่อนที่เข้าหาเชื้อโรคละทำลายเชื้อโรคได้ดี และยังช่วยให้ร่างกายการผลิตเม็ดเลือดขาวออกมาเพิ่ม จึงสามารถรักษาอาการเจ็บคอจากการติดเชื้อ ที่สำคัญเป็นเอ็กไคนาเซียเป็นสมุนไพรที่มีความปลอดภัย ช่วยลดโอกาสในการใช้ยาปฏิชีวนะหรือยาฆ่าเชื้อ ทำให้โอกาสในการเกิดภาวะดื้อยาลดลง และผลข้างเคียงจาการใช้ยาอีกด้วย ขนาดในการรับประทาน ครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง จนกว่าอาการจะดีขึ้นและสามารถหยุดรับประทานได้ทันที
8.ฉีดพ่นด้วยสเปรย์สเปรย์จากธรรมชาติ
ในปัจจุบันสเปรย์พ่นคอเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่สะดวก ใช้ได้บ่อยครั้ง เพราะสามารถพกพาและหยิบขึ้นมาฉีดพ่นได้ทันทีเมื่อมีอาการ หลักสำคัญในการเลือกใช้สเปรย์พ่นคอ ควรพิจารณาในรูปแบบที่มีส่วนประกอบจากสมุนไพร 100% ไม่มีส่วนผสมของสารเคมี เช่น ยาแก้ปวด ยาชา เพราะนั่นหมายความว่า ต้องระมัดระวังในการใช้ อีกทั้งเลือกในรูปแบบที่ไม่มีแอลกอฮอล์ จะยิ่งให้ความปลอดภัยมากขึ้น นอกจากนี้ยังการไม่มีส่วนผสมของสารเคมีใด ๆ จะยังทำให้รสชาติดี ไม่บาดคอ
การเลือกใช้สเปรย์พ่นคอ เป็นการบรรเทาอาการได้อย่างตรงจุด แต่จะมีประสิทธิภาพและเห็นผลเร็วนั้นควรจะมีส่วนผสมของสมุนไพรที่คัดสรรพิเศษ เพื่อช่วยบรรเทาอาการได้อย่างครอบคลุม ได้แก่
สารสกัดจากดอกคาโมมายล์ ช่วยฆ่าเชื้อไวรัสและแบคทีเรียในช่องปากและลำคอ ลดอาการอักเสบบวมแดงของลำคอ
โพรโพลิส ลดอาการอักเสบและบวมแดงในลำคอ ฆ่าเชื้อไวรัส แบคทีเรีย และเชื้อราได้
น้ำผึ้ง มีฤทธิ์ในการต้านเชื้อแบคทีเรีย ลดอาการอักเสบและให้ความชุ่มชื้นแก่ลำคอ
สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ลดอาการอักเสบ บวมแดง และช่วยอาการเจ็บคอจากแผลใน ช่องคอ
สารสกัดจากรากชะเอมเทศ ลดอาการไอและระคายคอที่เกิดจากการแพ้ ลดการอักเสบ และช่วยให้ชุ่มคอ
เมนทอล บรรเทาอาการไอ ระคายคอ และละลายเสมหะ
ยูคาลิปตัส ต้านการอักเสบและฆ่าเชื้อ ช่วยละลายเสมหะและลดอาการระคายคอ