14 ก.ค. 2020 เวลา 22:08 • บันเทิง
ก็เคยสำคัญ
พวกเรามาประท้วง ขอความสำคัญ ขอความใส่ใจ เรียกร้องสิทธิเสมอภาค
กองทัพข้าวของเครื่องใช้ นำโดย ...โทรทัศน์ มีพรรคพวกสนับสนุนเป็น ...เจ้าวิทยุ
...เจ้าเครื่องเล่นดีวีดี
...คุณเพลย์สเตชั่น
...นายเครื่องคิดเลข
...คุณหญิงไฟฉาย
...และสารพัดเครื่องใช้
ก็ล้วนเป็นสมาชิกในห้องนี้ ยกพวกมาล้อม พี่เมย์ เจ้าของห้อง ที่นั่งอยู่บนเตียง
ก่อนหน้านี้ " พี่เมย์ " เธอเป็นคนพาพวกเรามาที่ห้องนี้ ข้าวของทุกชิ้นถูกจัดวางอย่างดี ทีวีมีโต๊ะวางโดยเฉพาะอย่างลงตัว มีเจ้าเครื่องเล่นดีวีดี อยู่ชั้นล่าง และมีคุณเพลย์สเตชั่นอยู่ข้างๆ
ของชิ้นอื่นๆก็ได้รับการปฎิบัติอย่างใส่ใจ พี่เมย์จะทำความสะอาดพวกเราอย่างน้อย อาทิตย์ละ 1 ครั้ง
คอยเปลี่ยนถ่านอยู่เสมอ เมื่อพวกเราเสีย พี่เมย์ก็จะพาไปหาช่าง ทำให้พวกเราหายป่วย พวกเราอยู่กันอย่างมีความสุข
จนกระทั่ง...พี่เมย์พาสมาชิกใหม่เข้ามาในห้องของพวกเรา มันมีขนาดแค่ฝ่ามือ ไม่มีปุ่มกด มีแต่จอ มันชื่อ สมาร์ทโฟน
นับแต่นั้นพวกเราก็เริ่มหมดความสำคัญ พี่เมย์เคยเปิดทีวีทุกวัน ตอนนี้แทบจะไม่เคยเปิดเลย
สถานการณ์เดียวกับ
...เจ้าวิทยุ
...เจ้าเครื่องเล่นดีวีดี
...เจ้าเครื่องเล่นเกมส์เพลย์สเตชั่น
...และอื่นๆอีกมากมาย
ซึ่งแทบไม่ได้รับการเหลียวแล มีเพียงข้าวของไม่กี่ชิ้นเท่านั้นที่พี่เมย์ยังหยิบจับใช้บ่อยๆ เช่น คุณนายตู้เย็น คุณหม้อหุงข้าว หรือ คุณพัดลม ซึ่งทั้งหมด เจ้าสมาร์ทโฟนทำงานแทนไม่ได้ แต่พวกคุณๆเหล่านี้ก็แอบหวาดหวั่นในใจ
เพราะเมื่อไรที่ เจ้าสมาร์ทโฟน มันสามารถ เป่าแทนพัดลม แช่น้ำได้แทนตู้เย็น หรือ มันสามารถหุงข้าวได้ พวกเธอเหล่านี้ก็จะตกอยู่ในสถานการณ์แบบเดียวกับที่พวกเจ้าทีวีกำลังเผชิญอยู่
วันนี้เราข้าวของในห้องประชุมกัน เราจะไม่ยอมต่อไป เราจะประท้วงขอความเห็นใจ ขอทวงคืนความสุข พี่เมย์ต้องคืนความสุขให้พวกเรา ( ประชาชนในห้อง ) พี่เมย์จะต้องให้ความสำคัญกับพวกเรา ไม่ใช่ใส่ใจแต่เจ้าสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว
พวกเราจะไม่ทน ให้ตัวเองอยู่ให้ฝุ่นเกาะ อยู่แบบไร้แบตเตอรี่แล้วพี่เมย์ก็ไม่เคยเปลี่ยน
ให้วีไอพี กับข้าวของเพียงชิ้นเดียว แล้วทำให้ข้าวของทั้งห้องไร้ความสำคัญ
เมื่อพี่เมย์กลับมาถึงห้อง พวกเราทั้งหมด ยกเว้นเจ้าสมาร์ทโฟน ยกพวกมาล้อมพี่เมย์ที่กำลังนั่งอยู่บนเตียง
"พวกเธอมีอะไร" พี่เมย์ถามขึ้น
"พี่เมย์ครับ ทำไมช่วงนี้ไม่ค่อยสนใจพวกเราเลย" โทรทัศน์ถามขึ้น
"พี่ก็เปิดทีวีอยู่บ้างนี่นา" พี่เมย์ตอบ
"แต่มันไม่เหมือนก่อน ทุกวันนี้ พี่เมย์สนใจแต่เจ้าสมาร์ทโฟนชิ้นเดียว" ทีวีพูดขึ้น
"พี่เมย์ไม่ได้เปลี่ยยถ่านให้เจ้านาฬิกามานานแล้วนะ" เจ้าเครื่องเล่นดีวีดีพูดบ้าง
"ฝุ่นเกาะวิทยุหมดแล้วพี่" คุณไฟฉายออกเสียง
"เจ้าเพลย์สเตชั่น มันยังทำงานได้รึเปล่าก็ไม่รู้" เจ้านาฬิกาปลุกเสริม
"ตกลงพวกเธอกำลังอิจฉา เจ้าสมาร์ทโฟนใช่ไหม?" พี่เมย์พูดแบบมีอารมณ์
"พวกเราไม่ได้อิจฉา แต่อยากให้พี่เมย์ให้ความสำคัญกับประชาชนในห้องอย่างพวกเราบ้าง" ทีวีพูดเสียงดัง
"ไม่ ไม่ ทีวี พวกเธอกำลังอิจฉา" พี่เมย์พูดอย่างโมโห
" พี่เมย์ อะไรๆก็เจ้าสมาร์ทโฟน ปลั๊กมีกี่รูกี่ช่องก็มีแต่สมาร์ทโฟน กับพวกของมัน รูนั้นก็พาวเวอร์แบงค์ตัวใหญ่ รูนี้ก็พาวเวอร์แบงค์ตัวเล็ก พวกเราแทบไม่มีใครได้กินไฟจนอิ่มเลยนะ" เจ้าวิทยุเอ่ยขึ้นแบบน้อยใจ
"พวกเธอเงียบ" พี่เมย์ตวาด
"พวกเรา กลับกันเถอะ พี่เมย์คงเครียด" คุณนายตู้เย็นพูดขึ้น
" ไม่ พี่เมย์ไม่ยุติํธรรม พี่เมย์ต้องรักเราอย่างเดิม อย่างเดิมตอนที่ยังไม่มีเจ้าพวกสมาร์ทโฟน " ทีวียังคงเสียงดัง
" พวกเธอฟังไว้ ฉันใช้สมาร์ทโฟนแทนพวกเธอได้แทบทั้งหมด ฉันดูดาราที่ชอบจากในนี้ได้ง่ายและเร็วกว่าเธอ เจ้าทีวี "พี่เมย์พูดพร้อมชี้ไปทางจอทีวี
"สมาร์ทโฟนเครื่องเล็กกว่า และมีเพลงที่ฉันชอบมากกว่าเธอ เจ้าวิทยุ " พี่เมย์มองเจ้าวิทยุ
"ฉันไม่เคยต้องมาหมุนเข็มเพื่อตั้งเวลา สมาร์ทโฟนบอกเวลาตรงเสมอ แถมเสียงปลุกฉันจะเปลี่ยนกี่ครั้ง จะเอาเสียงดาราคนไหน หรือเสียงไก่ขันก็ได้ " แล้วพี่เมย์ก็เหลือบมองเจ้านาฬิกาปลุกตัวอ้วนๆ
" จอเล็กๆนี่ ฉันดูหนังฟรี และมีเกมส์เล่นฟรี แต่ถ้าจะใช้พวกเธอ ต้องเสียเงินซื้อแผ่นดีวีดี " พี่เมย์ชี้ไปทางเครื่องเล่นดีวีดี และ เพลย์สเตชั่น
" และพวกเธอ อย่าคิดว่า แช่น้ำให้ฉัน หุงข้าวให้ฉัน แล้วฉันจะง้อนะ สมาร์ทโฟนสั่งอาหารให้ฉัน ส่งได้ยันห้อง จะเอาอร่อยแค่ไหนก็ได้" คราวนี้พี่เมย์มองไปทางตู้เย็นกับหม้อหุงข้าว
ส่วนเจ้าสมาร์ทโฟนหลบตัวลีบอยู่ในกระเป๋าถือ พร้อมพรรคพวก มีเจ้าพาวเวอร์แบงค์ สายชาร์จ และหุฟัง เป็นเพื่อน
"พวกเรากลับเถอะ พี่เมย์เหนื่อยๆจะได้พัก" คุณหม้อหุงข้าวพูดบ้าง
" ฉันไม่เหนื่อย และฉันยังมีแรงไปตามคนมาขนพวกเธอออกไปจากห้องฉัน" พี่เมย์พูดอย่างโมโห
แล้วก็เปิดประตู เดินลงส้นเท้าออกจากห้องไป
" สงสัยเจ้าสมาร์ทโฟนจะให้พี่เมย์ดูรายการของคุณลุงอะไรนั่นบ่อยแน่ๆ ถึงได้อารมณ์เสียง่ายเหมือนกันแบบนี้" ทีวีพูดขึ้น
"ถ้าพี่เมย์โมโหแบบนี้จะไม่น่ารักหรือเปล่า?" เจ้าวิทยุเสริม
ทันใดนั้นพี่เมย์ก็เปิดประตูห้องเข้ามาพร้อม คุณยามสองคน
"ลุงยามคะ ช่วยย้ายพวกไม่รู้จักพัฒนาตัวเอง คอยแต่เรียกร้องความรัก ความใส่ใจ ออกไปที คุณลุงเห็นใคร ให้ความรัก ความใส่ใจได้อย่างที่พวกนี้ขอ ลุงก็ให้เค้าไปเลยนะ" พี่เมย์พูด
แล้วชี้ไปทาง ...เจ้าทีวี ...เจ้าวิทยุ...เจ้าเครื่องเล่นดีวีดี...เจ้านาฬิกา...เจ้าเพลย์สเตชั่น...เจ้าไฟฉาย...เจ้าเครื่องคิดเลข
ลุงยามก็จัดการยกตามคำสั่ง
"พี่เมย์ผมขอโทษ อย่าเอาผมไปไหนเลย" เจ้าเครื่องเล่นดีวีดีร้องขึ้น
ส่วนชิ้นอื่นก็ส่งเสียงกันจ้าละหวั่น ไม่นึกว่าจะมีการใช้กฎอัยการศึกแบบฉับพลัน
พี่เมย์มองไปทาง หม้อหุงข้าว พัดลม และตู้เย็น
"พวกเราอยู่เฉยๆ พวกเราจะไม่เรียกร้องอะไร" ตู้เย็นบอกพี่เมย์แล้วทำตัวสงบเสงี่ยม
"อยู่เฉยๆนะ ไม่งั้นฉันจะเป็นลูกค้าประจำของ แกรป กับ แพนด้า" พี่เมย์บอกอย่างเด็ดขาด
แล้วพี่เมย์ก็ไปอาบน้ำ พร้อมเปิดเพลงในสมาร์ทโฟน ให้ผ่อนคลายอารมณ์ลง
หม้อหุงข้าว และ ตู้เย็น มองหน้ากัน
" แสดงว่าเรายังสำคัญเนอะ" ตู้เย็นพูดเบาๆกับหม้อหุงข้าว
"เราอาจสำคัญตัวผิดคิดว่าตัวสำคัญก็ได้ ตู้เย็น " หม้อหุงข้าวพูดปิดท้าย
โฆษณา