15 ก.ค. 2020 เวลา 03:05 • สุขภาพ
ครูครับ...อ้วกผมจะแตกแล้ว !!!
1ในคำถาม....ที่ผมเจอบ่อยมากๆเกี่ยวกับการฝึกโยคะก็คือ..
ถ้าเราทานอาหารไปแล้ว อีกกี่ชั่วโมงถึงจะฝึกโยคะได้
บางครั้ง...
ก็เป็นที่ถกเถียงกัน....ของบรรดาลูกศิษย์
ถึงขนาด.....เปิดหนังสือตำหรับตำราที่ซื้อมา
เปิดอ้างอิงกันเลยทีเดียว
แต่เจ้ากรรม...
หนังสือบางเล่ม...ดันเขียนไม่ตรงกัน....ซะงั้น
บางเล่ม บอก2ชั่วโมง บ้างก็3 บ้างก็4
บางเล่มก็อธิบายได้ทีเดียว
บางเล่มก็ทิ้ง...ปริศนาธรรมไว้ให้งงงวย
สุดท้าย
.
.
ลูกศิษย์: "ครูนินขาาา......ตกลงมันกี่ชั่วโมงกันแน่คะ???"
ครูนิน : พึมพำ "น่านไง....งานงอกตรูแล้ว"
ลูกศิษย์: "เมื่อกี้พูดอะไรคะ...หนูได้ยินไม่ชัด"
ครูนิน : เฉไฉ "ปล่าวครับปล่าว เดี๋ยวผมจะอธิบายให้ฟังนะครับ"
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะ....ฟันธงโชะๆไม่ได้นะครับ
มันมีปัจจัย.....ที่เป็นองค์ประกอบ...หลายอย่างรวมๆกัน
1. ลักษณะของอาหารที่เราทาน
ถ้าเป็นอาหารที่มีลักษณะเหลวหรือย่อยง่าย
เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม น้ำผลไม้ ถั่วแดงเหลว
ก็ใช้เวลาไม่นานนัก บางที..อาจจะไม่ถึง1ชั่วโมง
เราก็สามารถฝึกได้แล้ว
แต่ถ้าเป็นอาหารประเภทเนื้อสัตว์...บางชนิด
ย่อยยากมาก เช่น สเต๊ก หมูแดดเดียว อีกอื่นๆอีกมากมาย
บางทีมันก็อาจจะกินเวลาหลายชั่วโมง
2. ปริมาณอาหารที่เราทาน
ถ้าทานเพียงนิดเดียว(นิดเดียวจริงๆนะ)ต่อให้เป็นอาหารที่ย่อยค่อนข้างยาก เช่นหมูแดดเดียว เท่าข้อนิ้วก้อย ก็คงไม่ต้องหลายชั่วโมงหรอกครับ
แต่ถ้าทานโจ๊ก ไป5ชามใหญ่( ไม่รู้ไปหิวโซมาจากไหน!!) 3ชั่วโมงยังไม่รู้ว่าพอฝึกได้เลยหรือปล่าว
ถ้าไปร้านบุฟเฟ่ต์นี่...จบกัน
ครึงวันอาจจะไม่พอซะด้วยซ้ำ(เอาให้คุ้ม)
3. ระบบย่อยพื้นฐานของตัวเราเอง
บางคนทานอะไรนิดเดียวก็อิ่มแปล้...แถมอิ่มนานอีก
แต่บางคนทานได้เป็นกาละมัง...
อีก2ชั่วโมงหิวอีกแล้ว!!! (เกิดมาเพื่อทำลายร้านบุฟเฟต์ชัดๆ !!)
เรื่องนี้เราต้องสังเกตตัวเองครับ
4. สภาพร่างกายและจิตใจโดยรวมในช่วงนั้น
บางคนพักผ่อนน้อย อดหลับอดนอน
รีบปั่นงาน ปิดงบ คิดโครงการ ปั่นเลเวล แชตจนตาโหล
บางคนเครียด เศร้าทะเลาะกับแฟน ไฝ้วกับเพื่อนร่วมงาน
ระบบทุกอย่างในร่างกายก็อ่อนแอเป็นเงาตามตัว
แม้กระทั่งระบบย่อยก็ไม่ละเว้น
5. ลักษณะของการทานอาหาร
วันไหนอาหารเคี้ยวละเอียดดี มันก็ย่อยง่าย
บางวันต้องรีบเร่งมากจนต้อง...
ทานแบบงูเหลือม(กลืนอย่างเดียวไม่เคี้ยวเลย)
ต่อให้..เป็นอาหารประเภทเดียวกัน ปริมาณเท่ากันด้วย
การย่อยมันก็ต่างกันอยู่ดี
สรุปง่ายๆ
ไม่ควรเน้นเอาตัวเลขสเกล....
มาเป็นตัวตัดสินเรื่องนี้เลยครับ
ให้ใช้จิตใจสังเกต สำเนียกฟังนาฬิกาในร่างกายเราดีกว่าครับ
มันจะบอกเราเสมอ เพียงแต่เราจะสังเกตมันหรือปล่าว
ความรู้สึกที่เหมาะในการฝึกอาสนะ(ว่าด้วยอาหาร)
ควรรู้สึกว่า ไม่อิ่ม ไม่จุก ไม่อึดอัด
ท้องโล่งว่าง(ถึงความเป็นจริงมันจะไม่ว่างก็เถอะนะ)
ถ้าอิ่มจัด....จะขี้เกียจ โดดเรียนสักวันก็ได้ครับ(ครูนินใจดีไม่ดุหรอก
^_^ )
แต่ถ้ายังไงก็จะฝึกให้ได้(แบบว่ากลัวเส้นยึดจัด)
ได้ทำเบาๆ ระวังพิเศษในท่าบิดตัว ท่ากลับศีรษะ และท่าที่ท้องกดลงพื้น
มิฉะนั้น....อาจทำโจ๊กในคลาสเรียนได้!!! (เคยเจอมาแล้ว)
ไม่ควรรู้สึกว่า โหย หิว อดโซ อันตรายมาก!!!!นะครับ
อาจจะวูบเป็นลมหมดสติ กลางอากาศได้เลยครับ
เรื่องราวก็เป็นเยี่ยงนี้แล.....
ขอให้สุขภาพดีจงสถิตย์แก่ท่าน
ครูนินสกายวอล์กเกอร์
ปล.
เพื่อนๆ..ที่มีเรื่องสงสัยหรืออยากรู้
เกี่ยวกับเรื่องโยคะ อยากให้ผมเขียนบทความ
เม้นท์มาพูดคุยกันได้ครับ😄😄😄
โฆษณา