15 ก.ค. 2020 เวลา 12:55 • ความคิดเห็น
หัวเว่ยโดนเล่นงานซ้ำซาก
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
https://www.itv.com/news/2020-01-28/robert-peston-how-will-donald-trump-react-to-boris-johnson-blocking-him-over-huawei/
ช่วงนี้ในโซเชียลมีเดียจีนเขียนถึงประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแกเร่งปั่นกระแสความขัดแย้งกับจีนอย่างไม่สนใครหน้าไหนทั้งสิ้น
นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศคำสั่งให้ผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ตและเครือข่ายโทรคมนาคมทุกแห่งในสหราชอาณาจักรจะไม่สามารถซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องจากบริษัทหัวเว่ยได้อีกตั้งแต่ 1 มกราคม 2564 เป็นต้นไป
บอริสประกาศให้บริษัททุกแห่งที่ติดตั้งอุปกรณ์ของหัวเว่ยไปแล้ว ต้องยกเลิกการใช้อุปกรณ์ของหัวเว่ยให้หมดจากเครือข่ายระบบสื่อสารแบบไร้สาย 5G ภายใน 7 ปี หรือภายใน พ.ศ.2570 โดยอ้างเรื่องความมั่นคง แม้ว่าคำสั่งนี้จะทำให้อังกฤษต้องเลื่อนเวลาการสร้างเครือข่าย 5G ช้าไปอีก 1 ปี และกระทบกับผู้ใช้มือถือของอังกฤษทั้งหมดก็ตาม
นายโอลิเวอร์ ดาวเดน รัฐมนตรีดิจิทัลของอังกฤษก็ออกมาอ้อมแอ้ม แถลงว่า นายกฯ จอห์นสันต้องตัดสินใจด้วยความยากลำบาก แต่ก็จำเป็นต้องทำเพื่อปกป้องเศรษฐกิจและความมั่นคงภายในประเทศระยะยาว
เรื่องนี้ แม้แต่ไอ้ปื๊ดลูกเจ้น้องก้นซอยสองก็รู้ครับ ว่ารัฐบาลอังกฤษถูกกดดันอย่างหนักจากทรัมป์ ถึงขนาดต้องเปลี่ยนจุดยืนทางนโยบายกลายเป็น ‘แบน’ หัวเว่ยทั้งหมด
1
นายดาวเดนออกมาพูดได้ไม่กี่ชั่วโมง ทรัมป์ก็ออกมาประกาศชัยชนะว่า อ้า ข้าเองนั่นละที่มีบทบาทสำคัญในเรื่องนี้ ข้าคือคนที่อยู่เบื้องหลังการแบนหัวเว่ยออกจากอังกฤษ ทรัมป์ยังพูดแบบแผ่นเสียงตกร่องว่าหัวเว่ยคือภัยคุกคามความมั่นคง
รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษฟังทรัมป์โม้แล้วก็อึกอักว่า อ้า ทรัมป์ไม่น่าจะมีอิทธิพลต่ออังกฤษขนาดนั้น แต่แค่ใช้หางตาซ้ายชำเลืองก็ปฏิเสธไม่ได้นะครับว่า การแบนหัวเว่ยออกจากอังกฤษคือการเมืองระหว่างสหรัฐที่บีบอังกฤษให้เดินตามเกมของสหรัฐ
ก่อนหน้านั้น ทรัมป์ตอบโต้กฎหมายความมั่นคงของจีนในฮ่องกง โดยลงนามในกฎหมายว่าด้วยการคว่ำบาตรสถาบันการเงินของจีนที่รับทำธุรกรรมหรือร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน และลงนามคำสั่งฝ่ายบริหาร ‘ถอนสิทธิพิเศษ’ การค้าของฮ่องกง (ที่เคยให้มาตั้งแต่ พ.ศ.2540) อย่างเป็นทางการ
นั่นหมายความว่า ตั้งแต่นี้ไปฮ่องกงจะถูกปฏิบัติจากสหรัฐแบบเดียวกับจีนแผ่นดินใหญ่ โดยไม่มีเอกสิทธิหรือเศรษฐกิจพิเศษอีกต่อไป
เท่านั้นยังไม่พอ ทรัมป์กำลังจะสาดน้ำมันเข้ากองไฟให้ยิ่งลุกโชนขึ้น เมื่อนายเดวิด สติลเวลล์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐออกมาบอกว่า มีความเป็นไปได้ที่สหรัฐจะคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนแบบเจาะจงเป็นรายบุคคล และเตรียมขึ้นบัญชีดำทั้งหน่วยงานรัฐและเอกชนที่ใช้อำนาจบาตรใหญ่ต่อประเทศคู่กรณี ในเรื่องที่จีนพยายามขยายอิทธิพลในทะเลจีนใต้
https://www.financialexpress.com/world-news/us-rejects-chinese-claims-in-south-china-sea/2023203/
ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศในยุคของทรัมป์ยังเหน็บบริษัทซึ่งส่วนใหญ่เป็นรัฐวิสาหกิจจีนที่เข้ามามีบทบาทในทะเลจีนใต้ว่า เป็นบริษัทอีสต์อินเดียยุคใหม่ แถมยังมีความกังวลว่าจีนอาจจะไม่ยึดตามแผนปฏิบัติของการเจรจาแนวทางปฏิบัติว่าด้วยทะเลจีนใต้ร่วมกับอาเซียนที่ต้องได้ข้อสรุปภายในปี 2564
สหรัฐพยายามอย่างเต็มที่ที่จะซัดจีนให้ลงให้ได้ นอกจากนั้น ยังพาพวกที่เป็นคอหอยลูกกระเดือกกับสหรัฐลุยจีนอย่างเต็มที่อีกด้วย.
โฆษณา