เทนนิสลูกหนึ่งพุ่งทะยานออกมาด้วยแรงส่งของไม้แร็กเก็ตที่กระแทกมัน อย่างรุนแรง
.
มันแผดเสียงสั้นๆ แต่ดังราวกับว่ามีคนตัวใหญ่
มากระดกลิ้นให้ฟังก็ไม่ปาน
.
“เกร๊าะ!” เมื่อคลื่นความถี่หน่วยเป็นเฮิร์ตนี้ขับขาน มันส่งผ่านอารมณ์มากมายดั่งไฟล์แนบแทรกตัวมา
.
กับนักกีฬา “เทนนิสแห่งชีวิต” ผู้เหวี่ยงแร็กเกตออกไปตรงหน้า เขาหวดลูกบอลด้วยความโกธา อาจด้วยเพราะว่า ไม่สบอารมณ์กับคำพูดคน
.
“ใครแรงมา ข้าแรงกลับ!” เขาถือคติแบบนั้น
“ใครทำให้ช้ำ เขาคนนั้นต้องตกระกำลำบากยิ่งกว่า”
ดั่งการตีลูกเทนนิสที่ลอยหน้าลอยตา
ด้วยแรงของพายุขนาดมหึมา -ในใจ!
.
...............((((🎾
.
ถึงตรงนี้ลูกเทนนิสอาจพุ่งเร็วกว่ากระสุนปืนก็ได้
เพราะมันกำลังมุ่งหน้าตรงไป “ทำร้ายจิตใจ” ของผู้คน
.
ทั้งฝูงชนที่เคยว่าร้ายคุณ /ทั้งผู้คนที่เคยดุด่า /ทั้งเพื่อนร่วมงานที่มักซุบซิบนินทา/ หรือกระทั่งสามีภรรยาที่แสวงหาแต่ข้อผิดพลาดของกันและกัน
.
🎾))))...............
.
หากว่าฝ่ายตรงข้ามนั้นเป็นคนที่เกรี้ยวกราดเหมือนกัน หรือเป็นดั่งบอร์ดปูนที่ยึดโยงกับกฏวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับแรงตกกระทบนั่น (action = reaction)
.
คุณจะต้องหวดลูกเทนนิสได้อีกสักกี่ครั้ง
ถึงจะ ยุติ • เรื่อง • ราว
.
เพราะการตีตอบโต้ด้วย “ขีปนาวุธทางอารมณ์” ที่สูญเปล่า มันจะส่งผลให้กระเบื้องแห่งมิตรภาพแตกร้าว
จนอาจยาก เกิน • เยียว • ยา
.
ซึ่งถึงเวลานั้น คุณทั้งสองฝ่ายอาจจะต้องมีใครสักข้าง “หยุดตี” ด้วยเหตุผลที่ว่า ....
.
ลูกเทนนิสพุ่งเข้าใส่ดวงตา
จนเลือดไหลทะลักออกมาในดวงใจ