18 ก.ค. 2020 เวลา 03:40 • ไลฟ์สไตล์
อยากสบายเลยเลิกโง่
ฉันมีเพื่อนอยู่หลายกลุ่ม ซึ่งแบ่งเป็นกลุ่มเพื่อนสมัยประถม มัธยมและเรื่อยมาจนเป็นกลุ่มที่คบหากันในแต่ละช่วงของชีวิต กลุ่มประถมค่อนข้างจะเหนียวแน่นที่สุด เพราะบ้านอยู่ระแวกเดียวกัน
ย้อนกลับไปช่วงสอบเลือกห้องตอนมัธยมฉันบ่นต่อว่าเพื่อนชายเมื่อผลสอบเลือกห้องออกมา "เราอยู่ห้องเดียวกันได้ไงวะ ข้าว่าข้าเลือกห้องถูกแล้วนะ เอ็งยังจะตามมาจองเวรข้าอีกนะ"
"ข้าลงเลือกห้องช่าง ห้องรองห้องเดียวกะเอ็งแต่สอบช่างไม่ผ่าน ต้องมาติดแหงกอยู่กะเอ็งเนี่ย"เพื่อนชายตอบแบบเซ็งๆ ฉันนี่อ้าปากเหวอเลย "ห้องนี้ใครๆก็ว่าสอบเข้ายาก อ่านหนังสือไม่ค่อยออกการบ้านไม่เคยส่งอย่างเอ็งเนี่ยนะดันเข้ามาได้" ฉันบ่นกระปอดกระแปดต่อ
"ก่อนเอ็งจะว่าข้า เอ็งคิดว่าข้าจะเซ็งกว่ามั้ย? ห้องที่3ข้าเลือกเกษตรไว้ ขอเค้าลงแล้วแต่เค้าไม่ให้" สรุปเพื่อนชายได้เข้าห้องนี้มาแบบงงๆกาคำตอบไปแบบมั่วๆเพราะไม่ได้อ่านอะไรเลย
ฉันค่อนข้างเบื่อตั้งแต่ประถมกับการต้องคอยส่งการบ้านให้เพื่อนชายคนนี้ลอก ไม่ให้เจ้าเพื่อนตัวแสบก็ขโมยเอาไปลอกอยู่ดี แม้แต่ตอนสอบทุกภาคเทอมก็ต้องนั่งติดกัน เจ้าตัวแสบเนี่ยเตะขาโต๊ะเสียจนฉันกาคำตอบแทบไม่ได้ จนต้องยอมส่งคำตอบให้ทางยางลบ
กิจวัตรหลังพักเที่ยงคือฉันไล่เตะก้นเจ้าตัวแสบ ที่มักแกล้งมาผลักยั่วให้โกรธ พอโดนไล่เตะก็ชอบอกชอบใจเขาล่ะ ฉันจับทางได้คิดว่าจะสั่งสอนให้เข็ดหลาบ ด้วยการให้สักหนึ่งแผลตรงบริเวณศีรษะหรือใบหน้า
เป็นการประจานเจ้าตัวแสบไปในตัว เมื่อวางแผนไว้ในใจดังนั้นแล้ว ฉันจึงเดินเข้าห้องเรียนเจาะจงนั่งด้านหลังห้อง ซึ่งเป็นที่เก็บไม้พลองลูกเสือเนตรนารี ตามคาดเจ้าตัวแสบเดินตรงรี่มาทางฉัน ฉันเบี่ยงหลบลุกขึ้นคว้าไม้พลองลูกเสือที่เล็งไว้ก่อนแล้ว
กระหน่ำฟาดทั้งแขนทั้งขาแต่ไม่สามารถตีเข้าหน้าได้เสียที เจ้าตัวแสบยิ้มยิงฟันพร้อมเอ่ยยั่วยวน"เมินเสียเถอะน้อง ถ้าจะตีหน้าพี่" รู้ทันไปอีก!แต่ไม่ยักเอาไปฉลาดตอนเรียน แม้กระนั้นฉันก็ฝากรอยเขียวช้ำไว้เป็นที่ระลึกไว้แทบทั้งตัว จนแม่เจ้าตัวแสบต้องมาพบครูเพื่อหาสาเหตุที่โรงเรียน แต่พอเจอฉันเป็นคู่กรณีก็หัวร่องอหาย สมน้ำหน้าเจ้าตัวแสบซ้ำไปอีก
ที่แกหัวเราะเช่นนั้นเพราะรู้นิสัยลูกชายตัวแสบตนเองดี แต่กลัวว่าจะเป็นการถูกครูลงโทษเกินกว่าเหตุ แล้วลูกไม่กล้าเล่าความจริงจึงเดินทางมาหาคำตอบด้วยตัวเอง "เอามันแรงๆเลยนะหนู มันบอกแม่อยู่เหมือนกันว่าหนูคอยช่วยมันตลอด แต่มันชอบไปแกล้งหนูเอง" ฉันได้ใบเบิกทางจากแม่เจ้าตัวแสบเรียบร้อย แต่มันยังคงทำหน้าทะเล้นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาเลยสักนิด
พอจบมัธยมต้นเพื่อนชายตัวแสบขอไม่เรียนต่อ แต่ตามเพื่อนที่ทางบ้านยากจนไม่สามารถต่อชั้นมัธยมได้ไปทำงานรับจ้างตามเพื่อน ทั้งที่บ้านตนเองมีฐานะพอสมควร "ข้าเรียนไปก็เท่านั้น ขอตามพวกนั้นไปทำงานน่าสนุกกว่าเยอะ" ช่างเป็นเหตุผลที่น่าสรรเสริญเสียจริง!
ผ่านไป9ปีหลังจากนั้น เราเริ่มมีการนัดพบปะรวมตัวกันเดือนละครั้ง โดยมีเจ้าตัวแสบเป็นตัวตั้งตัวตี จัดขึ้นที่บ้านมันเองโดยมีแม่ผู้อารีของมันให้ความสนับสนุนเต็มที่ เราจึงถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติกันเรื่อยมา แต่โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนชาย เพราะเพื่อนผู้หญิงนิยมเข้าไปเรียนและใช้ชีวิตที่กรุงเทพฯกัน
จึงเหลือเพียงผู้หญิง4คนกับเหล่าทโมนเกือบ20คน ฉันสังเกตได้ถึงความผิดปกติของเจ้าคู่กัด จึงเอ่ยถามความเป็นไป "ข้าทำงานได้หนึ่งปี เหนื่อยฉิบ!เลยเปลี่ยนใจกลับไปเรียนปวช.แล้วมาต่อปวส.การไฟฟ้า" ฉันอึ้งกับคำตอบของคู่กัด เพราะรู้ๆกันอยู่ว่ามันเรียนได้แย่มาก แต่เดาะไปเรียนไฟฟ้า มันโม้เกินตัวไปกระมัง
เจ้าคู่กัดรู้ทันความคิดจึงเอ่ยต่อไปว่า"ข้าไม่อยากลำบากทำงานตากแดดอีกแล้ว เลยตั้งใจเรียน ข้ายังไม่คิดเลยว่าตัวเองจะทำได้" เสียงหนึ่งในเพื่อนเอ่ยสนับสนุนว่า"จริงนะเว้ย ข้าช่วยติวมันเองเพราะข้าเรียนก่อนปีนึง มันจบปวส.ด้วยเกียรตินิยมอันดับ2เชียวนาเอ็ง"
เอิ่ม...ความลำบากสร้างคนของจริงสินะ ถ้าไม่ใช่คู่กัดรู้ไส้รู้พุงกันฉันคงไม่เชื่อเด็ดขาด ท่าทางบุคลิกก็ดูเรียบร้อยราวคนละคนกับสมัยเด็ก และตอนนี้บรรจุเข้าทำงานการไฟฟ้าประจำจังหวัดเรียบร้อยแล้ว
แต่พอฉันเอ่ยถามถึงการเรียนต่อ พ่อตัวแสบรีบโบกไม้โบกมือ ทำนองว่าไม่เอาทันที "เอ็งรู้มั้ยข้าตั้งใจเรียนมาเยอะแล้ว ขอข้านั่งสั่งคนอื่นสบายๆบ้างเหอะ" ช่างเป็นคำตอบที่เป็นตัวเองที่สุดของพ่อตัวดีในค่ำคืนพบปะเพื่อนฝูง
เราผลัดเปลี่ยนกันซักถามชีวิตที่ผ่านมาของเพื่อนแต่ละคนจนครบ สรุปแล้วบรรดาเพื่อนชายทั้งหมด พ่อคู่กัดตัวแสบของฉันนั้นได้งานทำก่อนเพื่อนและเป็นงานที่มั่นคงเสียด้วย เพื่อนชายที่เรียนเก่งกว่าเรียบร้อยกว่ากลับต้องออกกลางคันเสียส่วนใหญ่
เพราะไปมั่วสุมจนเสียการเรียน แล้วก็มีลูกมีเมียกันเรียบร้อย คนที่เรียนจบก็มุ่งหน้าเข้าโรงงานแต่ก็บ่นว่าไม่รู้จะทำได้นานเพียงใด สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหาร เราจึงรอดูกันต่อไปว่าใครจะประสบความสำเร็จ ในการใช้ชีวิตได้ดีกว่าเพื่อน
ที่กล่าวเช่นนี้เราทุกคนไม่ใส่ใจความสำเร็จจากเงินทอง แต่เราลงความเห็นร่วมกันว่า ความสุขสบายใจคือที่สุดแห่งความสำเร็จ ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ คงต้องเล่นเกมส์นี้กันเรื่อยไป
เกมส์นี้ใครตายก่อนถูกปรับแพ้ทันที!
โฆษณา