18 ก.ค. 2020 เวลา 09:30 • ไลฟ์สไตล์
จัดการกับความรู้สึกผิดอย่างไร ในวันที่เราพลาดเอง
It’s OK, to not be OK.
สวัสดีค่ะ มาพบกับตอนแรก กับประโยคสุดฮิตในช่วงนี้ คือ It’s OK, to not be OK.
เชื่อว่าหลายคนคงกำลังนึกถึงซีรีส์เกาหลีที่กำลังดังอยู่ตอนนี้ แต่จริง ๆ แล้วประโยคนี้ เหมาะกับชีวิตจริงมากเลยนะคะ
เป็นธรรมดาที่เวลาเราทำงาน หรือทำอะไรก็ตาม ก็อาจจะมีพลาดพลั้งบ้าง และความผิดพลาดของเราก็อาจจะเป็นต้นเหตุที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน อาจจะด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือว่าเราประมาท พลาดพลั้งเอง หรือเราตั้งใจ แต่ผลมันกลับแย่กว่าที่เราคิดไปอีก
ถึงตอนนี้เราก็มักจะรู้สึกผิด ทั้งโกรธตัวเอง โกรธโชคชะตา เสียใจ เศร้า หลายอารมณ์ปนกันไป
แล้วจะทำยังไงให้เรายัง move on ต่อไปได้ วันนี้เรามีเรื่องนี้มาฝากค่ะ
ให้อภัยตัวเอง
อันดับแรกเลย เราขอให้เพื่อน ๆ ของเราต้องให้อภัยตัวเองก่อนค่ะ
ในชีวิตเรา เราขอโทษคนอื่น และเราให้อภัยคนอื่นได้มากมาย
แต่เราก็มักจะไม่เคยพูดกับตัวเองว่า “ไม่เป็นไรนะ เราให้อภัยเธอ ใคร ๆ ก็ผิดพลาดกันได้ทั้งนั้นแหละ”
ตบบ่าตัวเอง และให้อภัยตัวเอง เหมือนกับที่เราให้อภัยคนที่เรารักได้เสมอ นั่นแหละค่ะ
แก้ไขสถานการณ์
แน่นอนว่าความผิดของเราก็คงทำให้คนอื่นเสียหายอยู่เหมือนกัน (ไม่อย่างงั้นเราคงไม่รู้สึกผิดขนาดนั้นหรอก)
ก็อย่าลืมขอโทษของโพยคนอื่นให้เรียบร้อย และอะไรที่เราแก้ไขได้ เราก็รีบจัดการให้เรียบร้อย
เพราะว่าถ้าคนรอบตัวของเรายังคงวนเวียนกับความผิดพลาดของเราอยู่
มันก็อาจจะเป็นการตอกย้ำให้เรายังรู้สึกแย่ซ้ำ ๆ ไปเรื่อย ๆ ได้
เราก็จะไปต่อไม่ได้ซักทีนะคะ
ถอดบทเรียน
หลายครั้งที่เรื่องจบไปแล้ว แต่เราเองก็ยังคงมีความรู้สึกแย่ ๆ เหล่านั้นกลับมา
ส่วนใหญ่เป็นเพราะว่าลึก ๆ แล้วเรายังรู้สึกกังวลกับตัวเอง ว่าจะเกิดอะไรแบบนั้นอีกมั๊ย
ขอให้เราหาเวลาว่าง ในที่ ๆ สงบพอที่เราจะใช้ความคิด และถามว่า ถ้าย้อนเวลาไปได้ เราจะกลับไปแก้ไขอะไรดี
หรือเราจะทำอะไรเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้มันเกิดขึ้นอีกได้มั๊ย
ถ้าคิดไม่ออก เราก็อาจจะหาคนที่มีประสบการณ์กว่าเรา และหวังดีกับเรา ลองปรึกษาเขาดู
นอกจากการคิดแบบนี้จะช่วยให้เราสบายใจขึ้นแล้ว ว่าเรามีมาตรการป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอยแล้ว และเราก็ยังได้ฝึกพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยนะคะ
สุดท้ายแล้ว It’s OK, to not be OK. ค่ะ ไม่มีใครสมบูรณ์แบบและไม่เคยพลาดพลั้งนะคะ
แต่เราควรที่จะสามารถให้อภัยตัวเอง จัดการกับความรู้สึกแย่ ๆ และ move on กลับมาเป็นเราคนเดิมที่มั่นใจ และเก่งขึ้นได้อีกครั้งค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะคะ
ถ้าใครชอบบทความนี้ จะรบกวนกด like เป็นกำลังใจกันนะคะ
ครั้งหน้าเราจะมาพูดถึงเรื่อง “ระบายอารมณ์อย่างไรแบบ healthy” ถ้าสนใจอย่าลืมกด follow ติดตามกันนะคะ
วันนี้ขอบคุณที่ติดตามอ่านจนจบนะคะ ขอให้เป็นวันที่ทุกคนยิ้มได้นะคะ สวัสดีค่ะ
......น้ำดอกไม้......
โฆษณา