แคชเมียร์ สวิตเซอร์แลนด์แห่งเอเชีย เป็นรัฐที่ตั้งอยู่เหนือสุดของประเทศอินเดีย เป็นดินแดนที่งดงามมากอยู่ท่ามกลางหุบเขาหิมาลัย มีดินแดนติดต่อกับประเทศปากีสถาน เป็นจุดมุ่งหมายของนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมทั้งหลายท่านอาจได้เห็นความสวยงามของที่นี่ผ่านละคร ภาพยนตร์ไทย และต่างประเทศหลายๆ เรื่องที่ผ่านมา ศรีนาคา และแคชเมียร์ มีมนต์ขลังและมีความสวยงามที่ไม่ได้กล่าวเกินจริง ด้วยความสวยงามของที่นี่ แม้ถ้าเราเป็นตากล้องมือใหม่ ก็ยังได้ภาพสวยงามออกมาสมใจ ด้วยองค์ประกอบที่ลงตัว วันนี้จึงขอบอกเล่าสู่กันฟังดังนี้นะคะ
1. สวนโมกุล (Moghal Gardens หรือ Nishat Bagh) อยู่ในดินแดนศรีนาคา ถือเป็นสวนสวรรค์แห่งดอกไม้ แนะนำว่าควรมาท่องเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคมถึงเมษายน จะมีการจัดงานเทศกาลดอกทิวลิปอินทิรา คานธี เป็นเทศกาลดอกทิวลิปที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และยังมีดอกไม้เมืองหนาวออกดอกชูช่ออย่างสวยงาม สวนโมกุล ได้แบ่งออกเป็นส่วนๆ 3 ส่วน ซึ่งภายในสวนมีการประดับตกแต่งในแบบสไตล์สวนเปอร์เซีย ซึ่งประกอบไปด้วย สระน้ำ ลำธารและแปลงไม้ดอก มีอากาศเย็นตลอดปี ลมแรงบ้างเป็นบางครั้ง จึงควรศึกษาฤดูกาลและการเตรียมตัวในช่วงเดือนที่ท่านจะเดินทางด้วยนะคะ
2. สวนชาลิมาร์ (Shalimar Garden) อยู่ห่างไปจากสวนโมกุลเล็กน้อย ประมาณไม่เกิน 5 กิโลเมตร เป็นสวนแห่งความรักที่สร้างขึ้นโดยกษัตริย์ชาห์ฮังกีร์ ในปี ค.ศ. 1619 ทรงสร้างสวนนี้เป็นของขวัญมอบแด่พระนางนูร์จาฮาล มเหสีผู้เป็นที่รัก ภายในมีความงดงามเต็มไปด้วยไม้ดอกและไม้ประดับตามริมสองข้างทาง มีศาลาขนาดเล็กทั้งสองฝั่ง ตรงกลางมีธารน้ำและมีน้ำพุตั้งเป็นแถวเรียงลำดับกันลงมา ถ่ายภาพกับน้ำพุได้ความรู้สึกที่ตระการตาไปอีกแบบนะคะ
3. ล่องเรือซิคารา นอนบ้านเรือในทะเลสาบดาล (Dal Lake) จุดที่ 3 ยังอยู่ในศรีนาคา ที่ทะเลสาบดาล เป็นทะเลสาบที่ใหญ่ที่สุดในแคชเมียร์ ช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการล่องเรือและไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง เพราะยามเย็นจะมีความสวยงามของประกายจากสายน้ำและแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้า โรแมนติกสุดๆ ช่วงเช้าจะกลายเป็นตลาดน้ำย่อมๆ ชาวบ้านจะเอาผัก ผลไม้ ดอกไม้ รวมทั้งของที่ระลึกพายเรือขาย ซื้อหากันอย่างเพลิดเพลิน โดยประสบการณ์สำคัญของที่นี่อีกอย่าง คือ การนอนพักที่โรงแรมบ้านเรือ (House Boats) โดยในบ้านเรือจะประกอบด้วยระเบียง ห้องรับแขก ห้องอาหารและเตรียมอาหาร ส่วนห้องนอนแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว ลำหนึ่งจะมี 2 ถึง 4 ห้อง ด้านบนหลังคาเรือจะทำเป็นดาดฟ้าให้ขึ้นไปชมวิวทะเลสาบและถ่ายภาพสวยงามอย่างจุใจ เพียงแต่การมาพักที่บ้านเรือ ท่านต้องระวังกระเป๋าเดินทางพังกันหน่อย เพราะจุดที่จอดรถกับบ้านเรือไกลกันพอสมควร แรกๆ จะมีคนยกกระเป๋าให้ แต่ไปไม่สุด เราต้องยกหรือลากกระเป๋าซึ่งพื้นเป็นดิน ล้อกระเป๋าที่ไม่แข็งแรงก็จะเสียหายได้ รวมทั้งการนอนที่บ้านเรือไม่มีแอร์ แต่อากาศจะหนาวเย็นสุดๆ (ต้องห่มผ้า 3 ชั้น) เพื่อความปลอดภัย จึงควรเตรียมชุดกันหนาวแบบจัดเต็มทุกส่วนของร่างกายมากันเลยนะคะ แถมอีกนิด คือ ควรเตรียมผ้าปูไปปูทับที่นอนด้วยจะดีมาก และให้ทำใจว่าด้วยความหนาวเย็น เครื่องทำน้ำอุ่นในเรือแทบจะไม่ช่วยอะไรนัก ตอนที่มาคือเดือนเมษายนก็ยังหนาวสุดๆ แต่ข้อดีคือ เมื่อไปเจอความหนาวเย็นที่ประเทศอื่น จะสบายขึ้น กลัวน้อยลง เพราะมีประสบการณ์จากที่นี่มาแล้ว เล่ามาขนาดนี้อาจทำให้ท่านไม่อยากไปนอนบ้านเรือ แต่แนะนำว่าควรไปให้สุด เพราะแม้จะมีสิ่งไม่สะดวกบ้าง แต่ประสบการณ์ที่ได้รับนั้นคุ้มค่า แถมท่านจะได้พบสุดยอดของการขายตรงของชาวอินเดีย คือ จะลงมาจัดร้านให้ถึงในห้องโถงเรือของเรา โดยที่เราไม่รู้ตัว พอเดินมาทานอาหารและเข้าไปในห้องโถงจะพบว่ามีร้านค้าและผู้ขายมานั่งพร้อมขายให้เราถึงที่ ซึ่งก็อาจตกใจเล็กน้อย แต่ด้วยสินค้ามีความน่าสนใจหลายอย่างและต่อรองกันสนุก โดยผู้ขายมักจะบอกราคาเผื่อไว้ค่อนข้างสูง ให้ใช้เทคนิคต่อรองลงไป 60 - 70% และควรใจเย็นๆ ไม่รีบร้อน ไม่ทำท่าอยากได้ จะได้ของที่ระลึกที่ทั้งถูกเงินและถูกใจ ทั้งเครื่องหัตถกรรม พรม ผ้าพัชมีนา (Pashmina) ซึ่งเป็นผ้าแคชเมียร์อันลือชื่อ พลอย ไพลิน นิล มรกต รวมทั้งพวงกุญแจ ขัน และระฆังของทิเบตที่ถูกที่สุดและมีคุณภาพดีมากด้วยนะคะ
4. โซนามาร์ค (Sonamarg) อยู่นอกเมืองศรีนาคา ไปทางแคชเมียร์ เป็นหุบเขาที่อยู่ในอ้อมกอดของหิมาลัย ได้รับฉายาว่า “ดินแดนทุ่งหญ้าแห่งทองคำ” ด้วยความงดงามของวิวทิวทัศน์สุดอลังการ ทุ่งหญ้ากว้าง ที่มีวิวเทือกเขาหิมาลัยเป็นฉากหลัง ไม่ว่าจะมองจากมุมไหนเราก็จะเห็นภูเขาลูกใหญ่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวแปลกตา และมีธารน้ำแข็งปกคลุมอยู่ตามไหล่เขา โปรแกรมนี้ส่วนใหญ่นิยมขี่ม้าชมความสวยงามไปเรื่อยๆ แล้วไปหยุดที่เนินเขาในธารหิมะ และจบด้วยการรับประทานอาหารพื้นเมือง (ที่อร่อยด้วยน้ำจิ้มไก่และน้ำปลาของประเทศไทย)
5. กุลมาร์ค (Gulmarg) ถือเป็นจุดไฮไลท์ของการมาท่องเที่ยวแคชเมียร์ เป็นจุดที่อยู่ห่างจากเมืองศรีนาคาไปประมาณ 58 กิโลเมตร รถจะวิ่งได้ช้าต้องใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง ดังนั้นโปรแกรมนี้ควรให้เวลาไปเลย 1 วัน กุลมาร์คเป็นภูเขาหิมะที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก เป็นที่ตั้งของสกีรีสอร์ทที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก การมาเที่ยวกุลมาร์ค จะต้องนั่งกระเช้ากอนโดลาขึ้นสู่ลานสกีและจุดชมวิวแบบพาโนรามาบนยอดเขา การมาเที่ยวกุลมาร์คมาได้ตลอดปีแม้ในฤดูร้อนหิมะจะละลายลงบ้าง แต่เราจะได้ดื่มด่ำความงดงามของธรรมชาติในมุมที่ต่างไปเล็กน้อย ที่ลานสกีกุลมาร์คก็จะเปลี่ยนเป็นทุ่งหญ้าที่เต็มไปด้วยดอกไม้และป่าสนสีเขียว ชวนให้เพลิดเพลินไม่แพ้กันเลยนะคะ