20 ก.ค. 2020 เวลา 03:11 • หนังสือ
“อ่านเรื่องนี้ซะ”
นี่คือคำสั่งที่ภรรยาข้าพเจ้าบัญชามา นางสั่งให้ข้าพเจ้าอ่านนิยายเรื่อง “ปรมาจารย์ลัทธิมาร” ยอมรักว่าคราวแรกข้าพเจ้าก็ย่นจมูกใส่หลายครั้ง พาลนึกถึงหนังหน้าของ ป๋อจ้าน ที่สาวๆ แทบทั้งเอเชียทุ่มเทหัวใจให้ แล้วก็นึกกระอักกระอ่วนพาลอยากอาเจียนขึ้นมา
“นึกไงให้อ่านนิยายชวนขนลุกแบบนี้?” ข้าพเจ้าแสยะปาก
“นี่คือนิยายสมัยใหม่ มันเป็นวรรณกรรมชั้นดี แล้วเลิกอ่านนิยายแก่ๆ เก่าๆ ได้แล้ว มันหมดสมัย!”
สามีที่ดีต้องเชื่อฟังภรรยา ไหนๆ ข้าพเจ้าก็ปวารณาตนว่าจะฝึกปรือตนเองให้เก่งกาจขึ้น ขั้นตอนการฝึกตนในทางการเอาดีเป็นนักเขียนนั้นมันขาดไม่ได้เลยที่จะอ่านนิยายแนวที่ตัวเองไม่เคยอ่าน เพื่อเพิ่มหูตาทางวรรณกรรมของตัวเอง
แล้วข้าพเจ้าก็ใช้เวลาราวๆ 2 อาทิตย์ก็อ่านปรมาจารย์ลัทธิมารเล่ม 1-2 จบครบถ้วนอย่างตั้งใจเป็นสำเร็จ
อ่านจบแล้ว หากอธิบายคร่าวๆ นิยายเรื่องนี้ของโม่เซียงถงซิ่วเหมือนภาพวาดทิวทัศน์ ใช้พู่กันแต้มสีอย่างบรรจงทีละน้อยๆ เสริมแต่งกิ่งไม้ทีละอันอย่างบรรจง ตวัดเส้นวาดทิวเขา วาดลำธาร ทีละอันๆ จนเป็นภาพใหญ่หนึ่งเดียวทั้งภาพ จดจ้องไปส่วนไหนก็เห็นแต่ความเพลินตา พอออกมายืนห่างๆ ก็เป็นภาพที่ต้องอุทานว่า ....คนทำนี่เก่งชิบหาย
โม่เซี่ยงถงซิ่วนี่โคตรเก่งในการสร้างนิยายเรื่องนี้ขึ้นมา เก่งมากๆ
นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายที่มีรายละเอียดเยอะ มีองค์ประกอบมากมาย แต่นางมีวิธีการเล่าเรื่องที่ไม่ทำให้คนอ่านเบื่อ มันไม่มีส่วนไหนของนิยายนางที่ผมอ่านแล้วผมตั้งคำถามว่า “มึงจะเขียนตรงนี้ขึ้นมาทำไมวะ?!” ทุกสิ่งที่นางเรียงร้อยออกมามันทำให้เราลุ้นไปกับการดำเนินเรื่องแทบทุกหน้าเลยทีเดียว
แต่พร้อมๆ กัน โม่เซี่ยงถงซิ่วก็สามารถสอดแทรกอารมณ์ขันลงไปในนิยายของตัวเองได้อย่างเหมาะเจาะ มีหลายบรรทัดที่ผมอ่านด้วยความตื่นเต้น แต่หลุดขำออกมาคนเดียวเพราะมุกตลกที่นางใส่เข้าไปอย่างถูกจังหวะ
สิ่งที่ผมประทับใจอย่างนึงในการสร้างคาแรกเตอร์ตัวละครของนางก็คือ นางทำให้คนอ่านเชื่อได้สนิทใจ ว่าหลานจ้านคือคนที่รักเว่ยอิงได้ตั้งแต่หน้าแรกๆ ของนิยายไปจนถึงหน้าสุดท้าย
ตลอดเวลาที่ผมอ่านนิยายเรื่องนี้ ผมรู้สึกได้อย่างนึง หลานจ้านแม่งโคตรรักเว่ยอิง เป็นความรักที่หนักแน่นและไม่สั่นคลอน เป็นความรักที่แน่วแน่พุ่งถลาไปข้างหน้าเหมือนหนึ่งธนูที่พุ่งออกจากแหล่ง
โดยที่หลานจ้านทั้งเรื่องพูดอยู่ไม่กี่ประโยคเท่านั้น
ผมไม่ใช่คนอ่านหนังสือที่รักตัวละคร แต่เวลาเจอคาแรกเตอร์ดีๆ สิ่งที่ผมอดทึ่งไม่ได้คือความสามารถุของผู้ประพันธ์
ผมคงไม่จำเป็นต้องเล่าเรื่อง หรือยกส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือมา
อ่านเรื่องนี้แค่เล่ม 1-2 แล้ว พูดได้คำเดียว นี่คือเพชรน้ำเอกของวรรณกรรมสมัยใหม่ของเอเชียที่ควรค่าแก่การอ่าน
และที่ลืมไม่ได้ คือสำนวนแปลของคุณอลิส แปลได้หมดจดใสกระจ่างและงดงาม อ่านไม่มีสะดุดแม้เพียงสักนิดเลย
โฆษณา