20 ก.ค. 2020 เวลา 04:18
ดัสกร ทองเหลา จากเด็กระเบิดสู่กองกลางคลาสสิก
โดย เจดา
เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ดาวรุ่งที่ชื่อ ดัสกร ทองเหลา ถูกจับตามองจากบรรดาแฟนบอลและสื่อมวลชนอย่างมากมาย เพราะด้วยวัยเพียง 17 - 18 ปี เขาได้เข้าร่วมทีม “มังกรไฟ” บีอีซี เทโรศาสน ทีมยักษ์ใหญ่ของไทยยุคก่อนในช่วงปี พ.ศ. 2543 แถมยึดตำแหน่งตัวจริงได้ด้วย เขามีชั้นเชิงที่เหนือเด็กอายุรุ่นราวคราวเดียวกัน จนได้รับฉายา “ไอ้เด็กระเบิด”
ดัสกร ทองเหลา หรือ “โก้” โดดเด่นในตำแหน่งกองกลาง ด้วยฟอร์มที่ดุดัน, การวางบอลที่แม่นยำ, เซนส์บอลที่เหนือชั้น, ฟรีคิกเฉียบขาด ตลอดชีวิตการค้าแข้งเขาจึงถูกเรียกติดทีมชาติไทยในทุกรายการ ทั้ง คิงส์คัพ, ปรี โอลิมปิก, ฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก, เอเซียนคัพ , และ อาเซียน คัพ โดย ดัสกร ทองเหลา ติดทีมชาติไทยไปแล้ว 100 นัด เป็นผู้เล่นที่คว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกมาแล้วถึง 4 สมัย (บีอีซี เทโรฯ 1 สมัย และ เมืองทองฯ ยูไนเต็ด 3 สมัย) ช่วงหนึ่งของชีวิตฟุตบอล ดัสกร ทองเหลา เคยเดินทางไปร่วมฝึกฝนฟุตบอลกับสโมสร ไกเซอร์ สเลาเทิร์น ในบุนเดสลีกกาของเยอรมัน อีกทั้งยังเคยประสบการณ์ลงเล่นกับ ฮองอันห์ยาลาย ในวีลีกของเวียดนาม ช่วงปี พ.ศ. 2550-52 ก่อนที่จะกลับมาร่วมทัพ เมืองทอง ยูไนเต็ด ในปี พ.ศ. 2553
วันนี้เราจะพาย้อนเวลาไปดู 5 ประตูประวัติศาสตร์จาก ดัสกร ทองเหลา ในเกมกับทีมชาติไทย
1. เวียดนาม 0-2 ไทย (อาเซียนคัพ รอบรองชนะเลิศ นัดแรก, 2007)
หลังจากที่ทีมชาติไทยในยุค “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ที่มีขุมกำลังสำคัญอย่าง ศรายุทธ ชัยคำดี, สุเชาว์ นุชนุ่ม, พิพัฒน์ ต้นกันยา รวมถึงกองกลางหัวใจสำคัญอย่าง ดัสกร ทองเหลา คว้าอันดับ 1 ของรอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอ ในการแข่งขันชิงแชมป์อาเซียนปี 2007 รอบสุดท้าย ทำให้เกมรอบรองชนะเลิศถูกจับให้มาเจอกับทีมเวียดนาม ในฐานะอันดับสองของกลุ่มบี
แม้เกมรอบรองฯ จะเป็นการแข่งแบบเหย้า-เยือน แต่เพียงเกมนัดแรกที่กรุงฮานอย กลับเป็นทัพช้างศึกที่บุกไปกำชัยเหนือดาวทองถึงถิ่น 2-0 ซึ่งประตูแรกเกิดจากจอมทัพหมายเลข 7 อย่างดัสกร ที่ในขณะนั้นอยู่ค้าแข้งกับฮอง อัน ยาลาย โดยการยิงที่เป็นเครื่องหมายการค้าของเจ้าตัวอย่างจังหวะฟรีคิกที่เฉียบขาดชนิดที่บอลพุ่งเข้าหากรอบ ก่อนจะกระดอนพื้นหนึ่งจังหวะแถวหน้าปากประตูเข้าไปตุงตาข่าย ซึ่งท้ายสุดไทยมาได้อีก 1 ลูกจากพิพัฒน์ ต้นกันยาพร้อมส่งไทยเข้าชิงชนะเลิศกับสิงคโปร์ในเวลาต่อมา
2. บาห์เรน 1-1 ไทย (ฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่ม 2, 2008)
อาวุธเด็ดอย่างจังหวะยิงไกลของ “โก้” ยังคงได้ผลอีกครั้ง และคราวนี้เกิดขึ้นในเกมนัดที่ 4 ของรายการคัดบอลโลก 2010 โซนเอเชีย กลุ่ม2 ซึ่งในขณะนั้นช้างศึกในยุคปลายที่โค้ชหรั่งคุมทีมตกรอบไปแล้วจากผลงานพ่าย 4 นัดรวดต่อ ญี่ปุ่น 1-4 (เยือน), โอมาน 0-1 (เหย้า) และบาห์เรน 2-3 (เหย้า)
เกมนัดดังกล่าว ไทยมีโปรแกรมบุกเยือนทีมชาติบาห์เรนที่สนามกีฬาแห่งชาติในกรุงริฟฟา และในนาทีที่ 65 ไทยมาได้ทีเด็ดจากจอมทัพหมายเลข 7 ที่ตัดสินใจลองส่องไกลส่งบอลกระดอนพื้นเปลี่ยนทางเข้าประตูไปชนิดที่แข้งบาห์เรน รวมถึงแฟนบอลเจ้าถิ่นช็อคไปตามๆกัน กลายเป็นประตูพาช้างศึกยิงประตูในบ้านบาห์เรนเป็นทีมแรกในเวลานั้นได้อีกด้วย
3. ไทย 6-0 ปากีสถาน (ฟุตบอลชาย เอเชียนเกม รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มเอฟ, 2010)
ไบรอัน ร็อบสัน กุนซือทีมชาติไทยในขณะนั้น ตัดสินใจใส่ชื่อของ ดัสกร เข้ามาเป็นหนึ่งใน 20 แข้งจากทีมชาติชุดใหญ่ในการลงเล่นฟุตบอลชายเอเชียนเกม 2010 ที่เมืองกว่างโจว ประเทศจีน โดยมีโอมาน, มัลดีฟส์ และปากีสถานเป็นคู่แข่งร่วมสายและเพียงเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ ดาวเตะเจ้าของฉายา “เด็กระเบิด” ในฐานะกัปตันทีมโชว์ความเหนือชั้นใส่ปากีสถานทันที โดยเป็นจังหวะที่ไทยได้ลูกเตะมุมทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนที่สตาร์จากเมืองทอง ยูไนเต็ด จะตัดสินใจกึ่งยิงกึ่งผ่านบอลเข้าเสาแรก ทำให้กองหลังและนายประตูคู่แข่งกะจังหวะผิด ปล่อยให้บอลลอยเข้าประตู ก่อนที่ต่อมาโก้ จะมาซัดลูกที่สองของตัวเองในเกมนี้ โดยเป็นจังหวะที่ ธีรศิลป์ แดงดา ไหลบอลในเขตโทษให้ดัสกรวิ่งมาชิพบอลข้ามแนวรับและผู้รักษาประตูไปแบบเหนือชั้น และท้ายสุดเป็นช้างศึกเดินหน้าถล่มยับ 6-0
4. ปาเลสไตน์ 2-2 ไทย (ฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก รอบสอง นัดที่สอง, 2011)
ทีมชาติไทยในยุคที่ วินฟรีด เชเฟอร์ เริ่มเข้ามาคุมทีมอย่างเป็นทางการถูกจับสลากให้มาพบกับทีมชาติปาเลสไตน์ ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสอง โดยมีรูปแบบการแข่งขันเหย้า-เยือน โดยผลการแข่งขันเกมแรกเป็นช้างศึกที่ลงแข่งในไอโมบาย สเตเดียมของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเฉือนชนะไปก่อน 1-0 จากประตูโทนของ จักรพันธ์ แก้วพรม กุมความได้เปรียบตั้งแต่เกมแรก
แม้การลงเตะนัดสอง พลพรรคช้างศึกจะโดนเจ้าบ้านทำประตูไปก่อนตั้งแต่นาทีที่ 5 แต่แล้ว ดัสกร ทองเหลา ที่ยังคงได้รับความไว้วางใจให้เป็นแกนหลักในแดนกลางรับบอลจาก ธีรศิลป์ แดงดา ที่ไหลเข้ามาให้ในกรอบเขตโทษ ก่อนที่แข้งเบอร์ 7 จะบรรจงปั่นด้วยเท้าซ้ายข้างไม่ถนัด บอลลอยโค้งเสียบเสาไกลเข้าไปแบบเหนือชั้น และช่วงทดเจ็บของครึ่งเวลาหลัง เจ้าตัวถูกแนวรับเจ้าถิ่นตัดฟาวล์ในขณะที่กำลังหลุดเดี่ยวเข้าไปก่อนถึงเขตโทษ ก่อนจะลุกมาสังหารด้วยความมั่นใจพร้อมส่งทีมชาติไทยผ่านเข้าสู่รอบแบ่งกลุ่มต่อไปได้สำเร็จ
5. ไทย 2-2 เกาหลีเหนือ (ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์คัพครั้งที่ 42 เกมนัดชิงที่ 3, 2013)
ในวัย 30 ปี ดัสกรยังคงมีชื่อติดทีมชาติไทย ชุดทำการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพครั้งที่ 42 ที่จังหวัดเชียงใหม่ อีกทั้งยังได้รับโอกาสสวมปลอกแขนเป็นกัปตันทีมนำลูกทีมดวลกับฟินแลนด์ในเกมแรก ก่อนจะไม่อาจต้านความแกร่งของทีมจากยุโรปได้ และเป็นฝ่ายพ่ายไป 1-3 ทำให้ต้องมาเจอกับเกาหลีเหนือ (พ่ายการดวลจุดโทษต่อสวีเดน 1-4) ในเกมนัดชิงที่ 3
กัปตันโก้นำลูกทีมช้างศึกลุ้นจบอันดับ 3 ของรายการดังกล่าว ซึ่งเกมนี้ไทยโชคดีได้ประตูนำก่อนจากจุดโทษของ ธีรเทพ วิโนทัย ในนาทีที่ 26 ก่อนที่โสมแดงจะตามตีเสมอจาก โจ ควาง นาทีที่ 58 จากนั้นอีก 3 นาทีถัดมา แฟนบอลไทยในสนามกีฬาสมโภชน์ เชียงใหม่ 700 ปี ได้เฮกันอีกครั้ง เมื่อมิดฟิลด์กิเลนผยองโชว์หลอกยิงฟรีคิก ด้วยการซัดบอลเลียดลอดกำแพงเกาหลีเหนือ จนผู้รักษาประตูถึงกับยืนขาตาย ปล่อยบอลไหลเข้าประตู
แม้วันนี้ ดัสกร ทองเหลา อายุ 36 ปีแล้ว แต่ยังคงโลดแล่นในวงการลูกหนัง โดยเพิ่งต่อสัญญากับทีมอยุธยา ยูไนเต็ด เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ที่ผ่านมา จึงเป็นที่น่าจับตาอย่างยิ่งว่ากองกลางจอมคลาสสิกรายนี้จะใช้ความเก๋าบัญชาเกมให้สโมสรต้นสังกัดได้เยี่ยมยอดเพียงใด
#ดัสกร #ทีมชาติไทย #เล่นเป็นเรื่อง #KhelNowThailand
อัพเดตข่าวสารกีฬาก่อนใคร
พร้อมมีของรางวัลพิเศษให้ร่วมสนุกกันเป็นประจำ
ร่วมไลค์ ร่วมแชร์ Khel Now Thailand
โฆษณา