Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Hudlenklong
•
ติดตาม
1 ต.ค. 2020 เวลา 02:00 • ถ่ายภาพ
สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาเล่าถึงกล้องฟิล์มทรง RF หรือ RangeFinder สัญชาติญี่ปุ่นชื่อว่า Yashica Electro 35 GTN ผลิตในช่วงปี 1973 เป็นกล้องฟิล์มที่มีระบบวัดแสงในตัว ปรับค่า SpeedShutter ไม่ได้กล้องจัดการให้เราเองเสร็จสรรพ กล้องตัวนี้เป็นของลุงผมซื้อมาตั้งแต่สมัยออกใหม่ๆ ตกทอดมาจนถึงมือพี่ชาย และผมก็ยืมมาลองตามประสาคนขี้สงสัย วันเวลาผ่านไปก็มีระบบวัดแสงรวนบ้างแต่ผ่านการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว เรามาเข้าเรื่องกันครับ
ปล.ชื่อกระทู้พิมพ์ผิดแก้ไขไม่ได้แล้ว เยา ไม่มี ว์ ขออภัยด้วยนะครับ
เยาว์แปลว่า อายุน้อย
เยา แปลว่า เบา ,ราคาถูก
ขอขอบคุณน้าหนุ่ม กระโทก ครับ
การเขียนเล่าเรื่องนี้อิงจากประสบการณ์การได้ใช้งานของผมเอง หากผิดพลาดประการใดขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ
ก่อนที่ผมจะเข้าเรื่องขอเล่าประวัติของกล้องสักนิดหน่อยครับ พอมีที่มาที่ไป
ก่อนหน้านี้ผมเคยเขียนเรื่องของ Yashica ไว้บ้างคร่าวๆในกระทู้นี้
เลนส์เก่า เล่าใหม่ #12 Yashica ML 50mm 1.4 C/Y แฝดเทียม Planar ราคายุวชน
https://pantip.com/topic/37503665
2g.pantip.com
Pantip - Learn, Share & Fun
1958 Yashica ในสาขาที่ New York City ก็เติบโตขึ้นมากและ กลุ่ม Yashima ได้เปลี่ยนชื่อเป็น Yashica Company, Ltd ซึ่ง ณ เวลานั้น Yashica ได้ซื้อกิจการ Nicca Camera Company, Ltd ซึ่งองค์ความรู้ของบริษัทนี้เอง ได้ถูกนำมาพัฒนาเป็นกล้อง RF [Rangefinder] 35mm ของ Yashica
ก่อนที่ผมจะเล่าประวัติกล้องผมจะขอพูดถึงชิ้นส่วนสองประเภทนี้ นั่นก็คือ Hot Shoe หรือ Cold Shoe ซึ่งจะสามารถนำขยายความในส่วนประวัติได้ไม่สับสน กล้องฟิล์มในยุคแรกๆนั้นจะใช้ Cold Shoe หรือ Accessory Shoe สังเกตุง่ายๆคือไม่มีจุดเชื่อมต่อไฟฟ้า ส่วน Hot Shoe คือมีจุดเชื่อมไฟฟ้า ใช้งานกับแฟลชอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งกล้องหลากหลายแบรนก็ใช้ทั้งสองแบบนี้ตามแต่เทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
1.หน้าตา Cold Shoe หรือ Accessory Shoe
กล้องที่มี Cold Shoe หรือ Accessory Shoe
2.หน้าตา Hot Shoe
กล้องที่มี Hot Shoe มีให้เห็นทั่วไปในกล้องดิจิตอลในยุคปัจจุบัน
กล้อง Yashica Electro35 มีออกมาหลายรุ่นย่อยมาก ผมพอจะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ๆคือ
1. กล้องที่ติดเลนส์ 45mm 1.7 ออกมา มี 7 รุ่น
2. กล้องที่ติดเลนส์ระยะอื่นๆซึ่งจะ Wide กว่า 45mm มี 6 รุ่น
มาลองดูรุ่นที่ติดเลนส์ 45mm กันก่อนนะครับ ผมจะลงรายละเอียดไว้คร่าวๆ ถ้าต้องการสเปคจริงๆก็ค้นหาเพิ่มเอานะครับ
1.Yashica Electro 35 [1965-1966] สีเงิน ASA 12-400
- cold shoe
2.Yashica Electro 35 Pro [1966] สีดำ ASA 12-400
- cold shoe
3.Yashica Electro 35 G [1968] สีเงิน ASA 12-500
- cold shoe
4.Yashica Electro 35 GT [1969] สีดำ ASA 12-500
- * อะไหล่บางชิ้นผลิตในจีน
- cold shoe
- มีสองรุ่นย่อยคือรุ่นที่เขียนว่า Yashinon DX กับ Color-Yashinon
- ลือว่ารุ่น Color Yashinon ทาง Yashica ไม่ได้ผลิตเลนส์เองข้างบริษัทอื่นผลิต แต่คุณภาพไม่ต่างกัน [ซึ่งไม่รู้ว่าบริษัทอะไร]
Color-Yashinon
Yashinon DX
5.Yashica Electro 35 GS [1970] สีเงิน ASA 25-1000
- * อะไหล่บางชิ้นผลิตในจีน
- cold shoe
6.Yashica Electro 35 GTN [1973] สีดำ ASA 25-1000
- hotshoe
7.Yashica Electro 35 GSN [1973] สีเงิน ASA 25-1000
- hotshoe
มาดูรุ่นที่ติดเลนส์ระยะอื่นๆซึ่งจะ Wide กว่า 45mm มี 6 รุ่น ดังนี้
1.Yashica Electro 35 CC [1970]
2.Yashica Electro 35 MC [1972] มีทั้งสีเงินและสีดำ
3.Yashica Electro 35 FC [1973]
4.Yashica Electro 35 GL [1973]
5.Yashica Electro 35 GX [1975] มีทั้งสีเงินและสีดำ
6.Yashica Electro 35 MG-1 [1975] มีทั้งสีเงินและสีดำ
กลับมากล้องตัวที่ผมจะเล่า
ใช้ฝาหน้าหรือฟิลเตอร์อยู่ที่ 55mm
ระยะเข้าใกล้แบบมากที่สุดหรือ Close Focus อยู่ที่ 0.8m [เมตร] หรือ 2.6ft [ฟุต]
หัวกรอฟิล์มและใช้เปิดห้องฟิล์ม , Hotshoe , ไฟวัดแสงบอก Over[สว่าง] Under[มืด], วงแหวนปรับค่า ISO หรือ ASA พื้นฐานตั้งตามฟิล์มที่ใส่, ปุ่มชัตเตอร์ และสวิตเลื่อนมาที่ L จะไม่สามารถกดปุ่มชัตเตอร์ได้ หรือปุ่ม Lock Shutter นั่นเอง , ก้านขึ้นฟิล์ม , ตัวเลขนับฟิล์ม [เรียงลำดับจากซ้ายไปขวา]
ช่องมองภาพ , ปุ่มเช็คสถานะ กดเพื่อเช็คแบตเตอร์รี่ว่ายังมีไฟอยู่หรือเปล่า ใช้ได้เมื่อใส่แบต
ในช่องมองภาพผมพยายามถ่ายแล้ว ไม่สำเร็จเอาภาพจากคู่มือมาให้ดู เวลาโฟกัส เราต้องเลื่อนให้ภาพทั้งสองอันมาซ้อนทับกันพอดีถึงจะโฟกัสเข้า
ข้างใต้กล้อง ฝาเปิดใส่แบตเตอรรี่,รูเสียบกับขาตั้งกล้อง,ปุ่มกดก่อนกรอฟิล์มเข้ากลัก [ใช้เมื่อถ่ายภาพครบ36ใบแล้ว กดก่อนกรอ]
เปิดด้วยเหรียญ 1 บาทพอดีที่สุด
แบตตรงรุ่นไม่มีขายแล้ว ต้องแปลงโดยใช้แบต CR123A กับ LR44H สองก่อนซ้อนกัน เอาหัวชนหัว หัวชนหัวใส่ใช้งานถ่ายได้ ไม่มีปัญหาอะไร
พอใส่ถ่านแล้ว ลองกดปุ่มเช็คสถานะแบตหลังกล้องสีแดงๆ ถ้ายังมีไฟจะมีแสงสว่างขึ้นที่ช่องนับฟิล์ม
รูสำหรับเสียบ Sync แฟลช อยู่ข้างๆ
ตอนออกมาใหม่ๆโฆษณาว่า ถ่ายได้ในสภาพแสงน้อย แค่แสงเทียนก็ถ่ายได้ [แต่ได้ภาพหรือเปล่าอีกเรื่องนึง]
ลองดูภาพตัวอย่างกันครับ ผมใช้ฟิล์ม Agfa Photo Vista Plus 200
youtube.com
รีวิวแหลก #17 กล้องฟิล์ม Yashica Electro 35 GTN กล้อง RF ราคาเยา
รีวิวแหลก #17 กล้องฟิล์ม Yashica Electro 35 GTN กล้อง RF ราคาเยา https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=takkub&month=05-2019&date=27&group=9&gblog=17 ====...
ข้อดี
- กล้องมีระบบ Lock Shutter ซึ่งดีมากครับ เหมาะกับคนที่อาจจะเผลอขึ้นฟิล์มเอาไว้แล้วยังไม่พร้อมถ่าย หรือลืม การล็อคแบบนี้ทำให้ชัตเตอร์ไม่สามารถกดลงไปได้ ส่วนตัวชอบระบบแบบนี้ในกล้องมาก
- กล้องตัวนี้ ถ้าไม่ขึ้นฟิล์ม จะวัดแสงไม่ได้ ซึ่งเป็นเหมือนระบบที่สอดคล้องกับข้อบน ถ้าเรากำลังจะถ่ายลองกดปุ่มวัดแสงดูก่อน ถ้าวัดได้ไฟขึ้นแสดงว่าเราขึ้นฟิล์มไว้แล้ว ป้องกันการลืมได้เป็นอย่างดี
- ระบบวัดแสงมีบอกที่บอดี้ด้านบนด้วย [ในช่องมองภาพก็มี] กรณีว่าเราจะแอบถ่ายภาพยกกล้องในระดับเอว สมมุติโฟกัสปรับ F ไว้เรียบร้อยแล้ว เราสามารถวัดแสงแล้วมองเห็นจากภายนอกได้เลย ปรับ F นิดหน่อยแล้วกดถ่ายได้เลย โดยที่ไม่ต้องยกกล้องขึ้นมามองให้ตัวแบบรู้ตัว
- ระบบชัตเตอร์เป็นแบบ LeafShutter ซึ่งระบบแบบนี้จะให้ภาพที่ถ่ายมาค่อนข้างนิ่งและกล้องสั่นน้อยกว่าชัตเตอร์แบบปกติ ที่สำคัญเนื่องจากว่ามันนิ่ง เวลาที่เราถ่ายภาพในที่แสงน้อยแล้วกล้องวัดแสงใช้ Speed Shutter ต่ำๆ ก็มีโอกาสที่มือเราจะสั่นน้อยลง
[แต่ถ้า SpeedShutter ที่กล้องเลือกให้น้อย และแบบขยับตัวเร็วก็จบเช่นกัน]
- ถ้าเปรียบเทียบกับกล้อง SLR กล้องมีน้ำหนักไม่มาก และมีขนาดไม่ใหญ่ พกพาได้ค่อนข้างง่าย [ยิ่งตัวรุ่นหลังๆที่เลนส์ไม่ใช่ 45mm ตัวยิ่งเล็กลงไปอีกแทบจะใส่กระเป๋ากางเกงได้]
ข้อเสีย
- แบตเตอรรี่ตรงรุ่นเลิกผลิตแล้ว แต่แปลงได้จากด้านบนที่ผมบอก
- มันปรับ Speed Shutter เองไม่ได้ กล้องจะทำงานกึ่งๆ Mode A กับ Mode P กล้องจะปรับ Speed ที่มันคิดว่าพอดีให้เรา ซึ่งเวลาเราใช้กล้องดิจิตอลหรือแอพ เราจะรู้ว่าเราสามารถปรับเองได้มากกว่านั้น เช่น สมมุติว่ากล้องวัดแสงว่าเราต้องใช้ Speed 1/30 นะ แต่เราปรับเป็น 1/60 อาจจะ Under นิดหน่อยแต่ก็ยังถ่ายได้ภาพถ้าเราปรับ Speed Shutter ได้ สรุปคือต้องเชื่อกล้อง 100% แม้จะแก้ได้ด้วยการปรับ F แต่ผมในบางทีผมชอบที่จะปรับ Speed เองได้มากกว่า
เช่นตัวอย่างภาพนี้ ถ้าเราปรับ Speed ได้เองภาพแบบนี้คงมีโอกาสเกิดน้อยมาก
- กล้องทรง RF ทุกตัวเวลาถ่าย มีโอกาสเจอ Parallax หรือโอกาสที่ภาพจะเคลื่อนไปจากที่เรามองเห็นในช่องมองภาพ วิธีแก้ไม่มีครับ ต้องถ่ายบ่อยๆแล้วจะจับจุดมันได้เอง ซึ่งที่ผมลองก็เจอ และผมคิดว่าผมชอบกล้องทรง SLR Split Image มากกว่าใช้ง่ายกว่าเยอะ [ความเห็นส่วนตัว]
สรุป กล้อง Yashica Electro35 เป็นกล้องที่พกง่าย ถ่ายง่าย อาจจะต้องใช้การปรับตัวกับการใช้ RF ในการช่วยโฟกัส เหมาะสำหรับถ่ายในพื้นที่ ที่แสงพอมากๆ เป็นกล้องที่อยากแนะนำให้คนที่อยากลองเล่นกล้องทรง RF หามาลองก่อนเพราะมีราคาที่ไม่แพง ลองเล่นน่าจะได้คำตอบในใจตัวเองว่า เราชอบการใช้งานกล้องทรง RF จริงๆหรือเปล่า หรือ ถนัดกับกล้องทรง SLR มากกว่า ก่อนจะพุ่งหา Leica ลองหา RF มาลองให้แน่ใจก่อน พอได้คำตอบของคำถามในใจจะหากล้อง RF มาใช้ทีหลังก็ไม่เสียหาย กล้อง RF เป็นกล้องที่ดีแต่อาจจะไม่ได้เหมาะกับทุกๆคน Yashica Electro35 ฝรั่งให้ฉายาว่า "Poor Man Leica" หรือ Leica คนจน เพราะว่าเลนส์ให้ภาพคมมาก จนสู้กับ Leica ได้สบาย [แต่แพ้!!] ณ เวลาปัจจุบันมีราคามือสองที่ไม่แรงมากนัก จึงเป็นกล้อง RF ที่มีราคาเยา ตัวนึงครับ
หากว่าใครกำลังสนใจกล้อง Yashica Electro35 GTN อยู่ลองเอาข้อมูลส่วนนี้ไปพิจารณาประกอบการตัดสินใจได้ครับ
Suppot me on Patreon :
https://www.patreon.com/takkub
SUBSCRIBE :
https://www.youtube.com/user/takkub21
FACEBOOK PAGE :
https://www.facebook.com/Hudlenklong/
PANTIP :
https://pantip.com/profile/520932#topics
Bloggang :
https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=takkub
Blockdit :
https://www.blockdit.com/takkub
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย