21 ก.ค. 2020 เวลา 06:05 • เกม
......เด็กติดเกม....ก็มีชีวิตที่ดีได้นะ
วันนี้(20 ก.ค.63) ช่วงกลางวัน...
งานสอนงดพอดี.....งดพอดี...
เลยถือโอกาสไปหลั่นล้า...แถวๆบางกะปิ
เพื่อไปทวนความรู้สึกเก่าๆ(ตามประสาคนแก่)
ฝั่งตรงข้ามเดอะมอลล์บางกะปิ
จะมีร้านเกมร้านนึง....
ที่สมัยก่อน(ตั้งแต่อายุ22)
ผมมักจะ..ไปเล่นเป็นประจำ
ชื่อร้าน Gundam
ไหนๆก็มาแล้ว...ไปเยี่ยมสักหน่อยดีกว่า
พอเปิดประตูเข้าร้าน...
พี่เอกกับพี่บุ๋ม(เจ้าของร้าน) จำผมได้..ก็รีบออกมาต้อนรับ
พี่บุ๋ม “ครูนินนน....ไม่ได้ๆๆแบบนี้..ต้องถ่ายรูป”
พี่เอก “ผมดูในเฟสตลอด..ชีวิตครูดีขึ้นเรื่อยๆ..ดีใจด้วยนะครับ”
ครูนิน “ขอบคุณครับพี่”
หลังจากนั้นก็เม้าท์มอยกัน
เกี่ยวกับชีวิต...และสุขภาพ
พี่บุ๋มกับพี่เอก...ชอบดูlive เกี่ยว ปราณายามะ(ฝึกลมหายใจ)
แล้วเอาไปฝึก...สุขภาพก็ดีขึ้นแบบเห็นได้ชัด
พี่บุ๋ม “ไม่น่าเชื่อเลยว่า...ลมหายใจมันจะดีแบบนี้”
ครูนิน ***รีบโม้ต่อสิคร้าบบบ..รออัลรัยยย🤣🤣😂***
หลังจากเม้าท์กันอย่างเมามันพอแล้ว..ผมก็ขอตัวไปสอนต่อ
.
สำหรับความคิด(ส่วนตั๊วส่วนตัว)ของผม
เกม...ไม่เคยทำร้ายใคร(แถมมีประโยชน์ด้วย)....ถ้าเราเล่นแบบมีสติ
แต่ถ้าเราหมกหมุ่นไร้สติ....เกมจะเล่น(งาน)คุณ 😂😆😅
พอเกิดเรื่องอะไรขึ้น...ส่วนใหญ่ก็โยนให้เกมส์...เป็นแพะรับบาป
บางที....มันก็ไม่ใช่เน้อ
ผมติดเกม(ติดๆเลิกๆ)หลายรอบ...ตั้งแต่เด็กๆ
จำได้ว่า...เล่นเกมครั้งแรกตั้งแต่..7ขวบ
เป็นเกมต่อยมวย..ที่ติดมากับเครื่องคิดเลข casio
เล่นมันทั้งวัน...การบ้านไม่ต้องได้ทำกัน
ใครหน้าไหน...มาจับเกมออกจากมือนี่..เป็นเรื่อง
ตอน8 ขวบ...เลิกติดเกม...ครั้งแรก
เพราะบ้านไฟไหม้(ไม่เหลือซาก)
แม่เลยให้ผมไปอาศัยอยู่กับ”ตาช้อย”กับ”ยายศรี”
ที่ค่าย สุรนารี จ.โคราช
ต้องตื่นตี4 มาเก็บไข่ไก่ในเล้า...ที่อยู่ชั้นใต้ที่นอน(นอนที่เดียวกับไก่นี่แหล่ะ)
และต้องช่วยกวาดบ้าน..ถูบ้าน..ฯลฯฯฯฯ (แบบนี้...ใครมันจะได้เล่นเกม)
ไปอยู่ได้ประมาณ1 ปี
ก็กลับมาอยู่กลับกรุงเทพ...และช่วยที่บ้านทำมาหากินตลอด
ช่วยแม่ขายขนม..กลับถึงบ้าน 5ทุ่ม
ตอนนั้นก็ได้เล่นเกมบ้าง..นิดๆหน่อยๆ(ตังค์น้อย)
ในวันเสาร์-อาทิตย์....
ที่ร้านขายของชำ..เป็นเกมกด..หยอด1บาท
มีเกม คาวบอย กังฟู เรือดำน้ำ
มาติดเกมส์รอบ 2 ก็ตอนขึ้น ม.ต้น
เพราะมีแก๊งเล่นเกม...อยู่หลายคน
หลังเลิกเรียน...ทุกวัน....
ทุกคนในแก๊ง....จะรีบไปขึ้น รถเมล์สาย76
เพื่อไปร้านเกมร้านประจำให้ทัน (ร้านนี้ ลูกสาวเจ้าของร้านโคตรน่ารัก)
ก่อนที่จะมีแก๊งอื่นมาเสียบแทน
ติดเกมส์รอบนี้..น้อยหน่อย
เพราะเกมที่เล่น..มันต้องเล่นในจอเดียวกัน4-5คน
เล่นคนเดียวไม่สนุก
มาเป็นแก๊ง..ก็ต้องกลับเป็นแก๊ง
วันหยุดก็ได้อ่านหนังสือ...สอบออกมาเกรดก็ดูดี
เกมที่ชอบเล่นตอนนั้นก็ คุนิโอะ เวอร์ชั่นต่างๆ
.
มาเลิกติดเกมอีกที...ก็ตอนขึ้นม.ปลาย
แก๊ง...ที่เล่นเกมด้วยกัน...
มันไปเรียนช่างกลกับพาณิชย์กันหมด 😭😭😭
เพื่อนใหม่ๆมันก็มีแฟน..ติดหญิงกันซะมากกว่า
วันๆพวกมันก็....ตีสนุ๊ก...
คุยเรื่องจีบหญิง..เรื่องประสบการณ์xxx
เอาหนังสือปลุกใจเสือป่า..มาแลกกันอ่าน
วันหยุดก็ไปสิง...อยู่แต่บ้านเพื่อน
ชีวิตผมช่วงนี้...ก็จึงห่างจากเกม...
ไปติดอย่างอื่นแทน...จนเกรดร่วงระนาว
.
ทำให้...ผมเริ่มเข้าใจลึกซึ้ง...กับพุทธพจน์..ที่ว่า
นตฺถิ ราคสโม อคฺคิ “ไฟใด...ที่เสมอด้วยราคะ....ไม่มี”
ปกติ...ตอนไปสอบแข่งตอบปัญหาธรรมะ..ระดับประเทศ
ก็ท่องได้....แต่ไม่เคยอินเลย..จนมาเจอกับตัวนี่แหล่ะ
(เอาจริงๆนะ...รู้สึกว่า...ติดเกมดีกว่าเยอะะะะะะะ)
1ในหนังสือที่เพื่อนๆชอบเอามาดูกันในห้องเรียน..และเพื่อนผู้หญิงก็แย่งเอาไปดู😂😭
....ตอนอยู่ ม.เชียงใหม่
ชีวิตก็ไม่ได้วุ่นวายกับเกม...มากนัก
เพราะเรียนหนัก ตังค์น้อย
และทำกิจกรรมค่ายอาสา(อยากทำตัวให้มีค่ากับสังคมบ้าง)
จะมีได้เล่นบ้างนิดๆหน่อยๆ...ตอนวันที่ว่างจริงๆ
หรือสอบเสร็จ
เป็นเกมที่ต้องเล่นกับเพื่อนๆ..
ถึงจะมีอรรถรส(เล่นคนเดียวไม่มัน)
เป็นเกม...คอมพิวเตอร์(คอมเริ่มมีบทบาทในสังคม)
เกมที่ฮิตๆ ก็จะมี สตาร์คราฟ red alert
ไปกันที6-8 คน นั่งแยกเครื่องแต่...มาแข่งกันเอง
(เป็นสายแลนด์ในร้าน.....ไม่ใช่อินเตอร์เนต)
ด้านบนคือred alert ด้านล่างคือสตาร์คราฟ
มาเริ่มติดเกมส์อีกที..ก็ตอนเป็นครูโยคะใหม่ๆนี่แหล่ะ
ช่วงนั้นงานไม่เยอะนัก...
พอสอน...หรือซ้อมโยคะ...เสร็จ
ก็ว่างๆเหงาๆ...ก็เลยไปเล่นเกมที่ร้านพี่เอกบ่อยๆ
ตอนนั้นเกมส์ king of kings (เกมส์ออนไลน์ยุคบุกเบิก)
กำลังดังเลย...เล่นตั้งแต่เกมเพิ่งเปิด....จนมันเจ๊ง(เพราะมีเกมใหม่กว่า)
king of kings เปิดออนไลน์ที่เหลือแต่ตำนาน
เล่นทีนึงก็หลายชั่วโมง....บางทีเล่น2ทุ่มยันตี3
แล้วนั่งแท๊กซี่กลับบ้าน..
วันไหนสอนเช้าก็เล่นแปบนึง..แล้วรีบกลับบ้าน
คนที่มาเล่นที่ร้าน....ก็จะมีคนวัยทำงานแบบผม
หลายอาชีพ เช่น วิศวกร สถาปนิก เทรนเนอร์
สาวทำงานกลางคืน
แล้วก็มีพวก นักศึกษาบ้าง
ส่วนเด็กๆ..หรือพวกมีปัญหา..พี่เอกมักไล่กลับบ้านหมด
จนกระทั่ง..งานมันเริ่มเยอะขึ้น...ภาระรับผิดชอบมากขึ้น
และ ผมกำลังฝึกวิชาโยคะขั้นสูง
เช่น พวกพลังจักระ กุณฑาลินี ตันตระ
ซึ่งมันต้องใช้เวลาฝึกมาก.....ถึงจะสำเร็จ..
พอฝึกแล้วมันก็เพลินๆดี..เวลามันเหมือนผ่านไปรวดเร็ว
ผมก็เลย.....ค่อยๆห่างหายไป
จากร้านGundam....โดยอัตโนมัติ
ทีนี้ เลิกติดเกมจริงๆเลย(เพราะโยคะเลยนะเนี่ย!!)
ถามว่าปัจจุบัน..ผมมีเล่นเกมบ้างไหม
ก็มีบ้างครับ....แต่ไม่ได้ติดเหมือนที่ผ่านๆมา
หยุดเล่น...ก็ไม่ได้โหยหา(สมัยก่อนนี่...ไม่ได้เลยนะ)
.
พอเห็นเด็กๆติดเกม....ก็นึกในใจ
****กรูผ่านมาแว้ววววว****
ลูกศิษย์หลายคน...มีลูกติดเกม
มาปรึกษาผม....เพราะรู้ว่าผมจบจิตวิทยาคลินิกมา
บอกว่า..พาลูกไปรักษาทางจิตเวชมาแล้ว
หมอ..บอกทฤษฎี..เหมือนที่ผมเรียนมาเป๊ะ
คือสร้าง “เงื่อนไข”กับเด็ก...ประมาณว่า
ให้เล่นได้เวลานี้...ถึงเวลานั้น..แล้วค่อยไปทำกิจกรรมอื่น
แต่ในทางปฏิบัติ....มันไม่ง่ายอย่างที่คิด
เช่น พอถึงเวลาตามที่ตกลงไว้...
ลูกดันกำลังเข้าทีมไฟต์อยู่
(เกมบางเกม..มันต้องแพ้ชนะก่อน..ถึงจะหยุดได้ไม่งั้นเจอลงโทษ
แถมกำหนดเวลาแน่นอนไม่ได้ด้วย..บางทีล่อไปครึ่งชั่วโมง)
ลองไปดึงเกมออกจากมือลูกสิ....
เรื่องใหญ่แน่ๆ(เชื่อเหอะ....ผมก็เคยเป็น)
พอปัญหานี้มันรุงรังมากๆ...
ก็มักจะจบด้วยยาทางจิตเวช...ซึ่งมันเป็นปลายเหตุสุดๆ
ที่ผม..เลิกติดเกมได้ทุกครั้ง...เพราะ
1.สภาพชีวิตมันถูกบีบบังคับ....คือ อดอยากต้องทำมาหากิน..ต้องรับผิดชอบครอบครัว
2.เปลี่ยนสังคมหรือสิ่งแวดล้อม...คือ..ไปอยู่กับทหาร..เจอเพื่อนใหม่
3.มีสิ่งหรือกิจกรรมที่น่าสนใจกว่า...คือ....ติดหญิง..ทำค่ายอาสา....ฝึกโยคะในระดับลึก
ถ้าจะให้ผมแนะนำ...
พ่อแม่...ก็ควรจะมีจิตใจที่เข้มแข็ง(ให้ลูกรู้ซะบ้าง...ว่าไผเป็นไผ)
บางคนกลัวลูกหิวก็ทำข้าวให้ลูกกินไปเล่นเกมไป
จริงๆถ้ามันหิวจัดๆมันจะเลิกเล่นไปหาอะไรกินเองครับ
(ไม่งั้นมันจะปวดหัวเล่นต่อไม่ได้)
พ่อแม่บางท่านกลัวแม่ต่อต้าน โกรธ
หงุดหงิด ทำลายข้าวของ ทำร้ายตัวเอง หนีออกจากบ้าน
เลยตามใจลูกไป
จริงๆแล้วคุณกำลังรักตัวเองครับ(กลัวลูกสลัดรัก)
ถ้าพ่อแม่ ผู้ปกครองไม่เข้มแข็ง ทุกอย่างก็จบ
ต้องไปบนสิ่งศักดิ์ ขอให้ลูกคิดได้เอง(ซึ่งจะเมื่อไหร่ก็ไม่รู้)
สร้างสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ....หรือกิจกรรมอันท้าทาย
ที่บีบให้เด็ก..ออกมาจากเกมบ้าง
ถ้าเด็กจะอะละวาด(มีโอกาสเกิดขึ้นสูง)..
ก็ต้องหาทางรับมือให้ได้
อาจพาไปเที่ยว..ค้างแรมในที่ที่เนตเน่าหรือไปไม่ถึง
หรืออื่นๆ....ให้เหมาะสมกับปัจจัยเฉพาะของแต่ละครอบครัว
(ไม่มีวิธีสำเร็จรูป...D.I.Y...ล้วนๆ)
พอห่างๆจากเกมได้บ้าง...ก็จะติดน้อยลงเองครับ
ยังไงซะ...ไม่ว่าจะเล่นเกม..
หรือทำอะไรก็แล้วแต่
การมีสติกำกับ....
เป็นสิ่งที่สำคัญ......เสมอ
โฆษณา