Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คุยกัน วันละนิด
•
ติดตาม
22 ก.ค. 2020 เวลา 10:00 • กีฬา
ลิเวอร์พูลที่ผมรู้จัก (6)
ฤดูกาล 04-05 อุลลิเย่ มีปัญหาสุขภาพลาออกไป
ราฟาเอล เบนิเตซ รับหน้าที่ ผจก.ทีมแทน และนี่คือไทม์ไลน์ฤดูกาลที่น่าจดจำของลิเวอร์พูล ก่อนที่แฟนๆหงส์แดงจะได้ฉลองแชมป์ที่รอคอยมา 30 ปีในคืนนี้ (22/7/20)
7/04 นักเตะย้ายเข้า ฌิบิล ซิสเซ่ จาก โอแซร์ ซาบี อลองโซ จาก รีล โซซิดัด หลุยส์ การ์เซีย จาก บาร์ซา ย้ายออกมี มาร์คุส บับเบิ้ล ไป สตุ๊ดการ์ท
8/04 แดนนี เมอร์ฟี ไป ชาร์ลตัน ไมเคิล โอเวน ไป รีลแมดริด ลิเวอร์พูลลงเตะรอบคัดเลือก UCL ชนะ Graz Ak 2-0 0-1 ผ่านเข้ารอบแบ่งกลุ่ม
9/04 UCL รอบแรก ชนะ โมนาโก 2-0 แต่ไปแพ้ โอลิมเปีย กอส 0-1
10/04 UCL รอบแรก เสมอลาคอรุญญา 0-0 คาร์ลิงคัพรอบสาม ถล่มมิลล์วอลล์ 3-0
11/04 คาร์ลิงคัพรอบสี่ ชนะ โบโร 2-0 UCL เอาชนะลาคอฯไปได้ 1-0 แต่ไปแพ้โมนาโก 0-1 เหลือนัดสุดท้ายเล่นในบ้านเจอโอลิมเปียกอส จบ 5 นัด กอสมี 10 แต้ม ได้ 4 เสีย 2 ลิเวอร์พูลมี 7 ได้ 3 เสีย 2 Head to Head ลิเวอร์พูลไปเยือนแพ้มา 0-1 นัดสุดท้ายต้องชนะ 2 ประตู หากชนะประตูเดียวต้องชนะ 1-0 จึงจะเข้ารอบ หากชนะประตูเดียวแบบมีสกอร์เช่น 2-1 3-2 จะตกรอบ
12/04 ลิเวอร์พูลเตะรอบควอเตอร์ไฟนัลคาร์ลิงคัพ เจอ สเปอร์ ก่อนเสมอกันไป 1-1 ลิเวอร์พูลชนะจุดโทษผ่านเข้ารอบไป ส่วน UCL ก็มาถึงนัดชี้ชะตากับ กอส ริวัลโด ปั่นลูกโทษนอกเขต คริส เคิร์กแลนด์ ไม่ได้ขยับ กอสบุกมานำ 1-0 จนจบครึ่งแรก สกอร์แบบนี้ทำให้ลิเวอร์พูลต้องการ 3 ประตู โดยต้องไม่เสียประตูในครึ่งหลัง 45 นาทีสุดท้ายของลิเวอร์พูล ปองโกลยิงตีเสมอ 1-1 ต้นครึ่งหลัง จากนั้นลิเวอร์พูลพยายามโหมบุกแต่ยังทำอะไรไม่ได้ จนนาที 81 นีล เมลเบอร์ ยิงให้หงส์ขึ้นนำ 2-1 และยังต้องการอีก 1 ประตู นาที 86 เจอร์ราร์ด ซัดนอกเขตเข้าประตู เท่านั้นเองเสียงเฮของแฟนๆ ดังกระหึ่ม เจอร์ราร์จและเพื่อนวิ่งเข้าหากองเชียร์อย่างสะใจ จบเกม ลิเวอร์พูลชนะโอลิมเปีย กอส ไป 3-1 เข้ารอบตามโมนาโกไป อย่างสุดมันส์
1/05 ขึ้นศักราชใหม่ ลิเวอร์พูล แพ้ เบิร์นส์ลี่ 0-1 ตกรอบเอฟเอคัพรอบสาม ในขณะที่คาร์ลิงคัพรอบรองฯ ชนะวัตฟอร์ดเหย้า เยือน 1-0 1-0 ผ่านเข้าชิงถ้วยกับเชลซี ที่มีมูริญโญเป็นกุนซือ และโรมัน อับราโมวิช เป็นประธานสโมสร ซึ่งหมายมั่นปั้นมือจะคว้าแชมป์แรกตั้งแต่มาคุมเชลซีให้ได้ เดือนนี้ลิเวอร์พูล ได้นักเตะใหม่ เฟอร์นันโด มอริเอนเตส จาก รีลแมดริด
2/05 UCL 16 ทีม ลิเวอร์พูลต้อน ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไป 3-1 3-1 ทั้งสองนัด คาร์ลิงคัพรอบชิงฯ เจอ เชลซี ที่มี จอห์น เทอรี่ ปีเตอร์ เช็ก แฟรงค์ แลมพ์พาร์ด อาเยน ร็อบเบน และดิดิเย่ ดร็อกบา นำทีม 27/2/05 คือกำหนดวันชิงชนะเลิศ แค่นาทีแรก ริเช่ก็วอลเลย์ให้ ลิเวอร์พูลออกนำเชลซี 1-0 ครึ่งหลังกุ๊ดยอห์นเซนโหม่งจ่อๆ ดูเด็คเซฟไว้ได้ ต่อมา หลุยส์ การ์เซีย ส่งลูกให้
ฮามันน์ ยิง เช็กเซฟไว้ได้ นาที 74 เชลซีโยนเข้าเขตโทษ เจอร์ราร์ดโหม่งสกัดผิดเหลี่ยม เข้าประตูตัวเองไปเชลซีตีเสมอเป็น 1-1 ครบ 90 นาที ทำอะไรกันไม่ได้ ต้องต่อเวลา 30 นาที นาที 107 เชลซีทุ่มไกลมาหน้าประตู ดร็กบายิงจ่อๆ เข้าประตูไป เชลซีขึ้นนำ 2-1 นาที 112 เครซมันเหยีบลูกชุลมุนเข้าไป เชลซีหนีห่าง 3-1 แต่นาทีถัดมา นูเนซก็ยิงให้ลิเวอร์พูลไล่เข้ามาเป็น 2-3 แต่ก็ไม่ทัน จบเกม ลิเวอร์พูลแพ้ 2-3 และเป็นจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของเชลซีชุดนี้
5/4/05 UCL รอบควอเตอร์ไฟนัลนัดแรก ลิเวอร์พูล พบ ของแข็ง ยูเวนตุส ที่มี บุฟฟอน คันนาวาโร ซามพ์บร็อตตา ลิลิร์ยอง ตูราม อีเมอร์สัน พาเวล เนทเวท อเลสซานโดร เดล ปิเอโร ซลาตัน อิบราโมวิช นัดแรกเล่นที่แอนฟิลด์ ครึ่งแรก จากลูกเตะมุม เจอร์ราร์ด โยนเข้ามา ฮูเปียยิงให้ลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 ต่อมา หลุย การ์เซีย วอลเลย์สุดสวยจากนอกเขตโทษสุดสวยขึ้นนำเป็น 2-0 ครึ่งหลังยูเว่ยิงคืนมาได้ 1 ลูก จบเกม ลิเวอร์พูลชนะ 2-1
13/4/05 UCL รอบควอเตอร์ไฟนอล นัดสอง ลิเวอร์พูลไปยันเสมอยูเว่ได้สำเร็จ 0-0 ลอยลำไปพบกับคู่ปรับตัวฉกาจ เชลซี แชมป์คาร์ลืงคัพ และ ว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก ใน
รอบรองชนะเลิศ ซึ่งในฤดูกาลนี้ ลิเวอร์พูลเจอเชลซีมาแล้ว 3 ครั้ง และแพ้ทั้ง 3 ครั้ง โดยแพ้ในพรีเมียร์ทั้ง 2 นัด ด้วยสกอร์ 0-1 และแพ้ในรอบชิงฯ คาร์ลิงคัพ 2-3
ในรอบแรกของศึก UCL เชลซีอยูร่วมกลุ่มกับทีมดังอย่าง ปารีสฯ และ ปอร์โต เชลซีเข้ารอบเป็นที่ 1 ในสาย รอบ 16 ทีม เจอยักษ์ใหญ่ บาร์เซโลนา เชลซีไปเยือนแพ้ไปก่อน 1-2 แต่กลับมาต้อนในถิ่น 4-2 ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมพบบาเยิร์น นัดแรกเชลซีเปิดบ้านชนะไป 4-2 ก่อนไปแพ้นัดเยือน 2-3 แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้เชลซีผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศไปพบกับคู่ปรับ ลิเวอร์พูล อีกครั้ง
27/4/05 เชลซี เปิดบ้านพบลิเวอร์พูล แต่เกมบุกที่มีประสิทธิภาพของเชลซีไม่สามารถทำอะไรเกมรับลิเวอร์พูลได้ จบเกมเสมอกันไปก่อน 0-0
3/5/05 ลิเวอร์พูล กลับมาเปิดบ้านรับเชลซี เกิดช็อตในตำนานจากหลุยส์ การ์เซีย อีกครั้ง หลังครั้งที่แล้ววอลเลย์สุดสวยดับยูเวนตุส โดยการ์เซียยิงลูกผ่านปีเตอร์ ช็ก ไปแล้ว แต่กองหลังเชลซีสกัดออกมาจากบริเวณหน้าประตู กรรมการเห็นว่าข้ามเส้นไปแล้วเป่าเป็นประตู ท่ามกลางการประท้วงของผู้เล่นเชลซี หลังจากนั้นทำอะไรกันไม่ได้อีก จบเกมลิเวอร์พูลชนะเชลซี ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศไปพบกับ เอ ซี มิลาน ที่อิสตันบูล ประเทศตุรกี
25/5/05 UCL รอบชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล พบ เอซี
มิลาน ซึ่งเต็มไปด้วยดาวดัง อาทิ ดีด้า คาฟู มัลดินี ยาปสตัม ปิโลร์ กัตตูโซ ซีดอล์ฟ กาก้า เชฟเชนโก เครสโป เริ่มเกม นาทีแรก มิลานได้ลูกโทษนอกเขต ปิร์โลโยนเข้าไปในเขตโทษ เปาโล มัลดินี ซัดเข้าไปด้วยลีลาการยิงคล้ายศูนย์หน้าอาชีพ มิลานนำเร็ว 1-0 และควบคุมเกมไว้ได้ทั้งหมด นาที 39 มิลานต่อบอลทะลุไปในเขตโทษ ผ่านลูกจากทางขวา เครสโป ซัดเข้าไป 2-0 นาที 44 กาก้า คิลเลอร์พาส ให้
เครสโป ชิพข้ามตัว ดูเด็คสุดสวย มิลานนำห่าง 3-0 จนจบครึ่งแรก ผู้ชมถ่ายทอดสดจำนวนไม่น้อยเข้านอน แต่กองเชียร์ในสนามยังคงร้องเพลงให้กำลังใจนักเตะ
ครึ่งหลัง มิลานยังคุมเกม เชฟเชนโก ซัดนอกเขตโทษ ดูเด็ค ต้องปัดมือเดียวเซฟไว้ได้ นาที 54
เจอร์ราร์ด โหม่งตีไข่แตก 1-3 นาที 56 สมิเซอร์ยิงไกลไล่มา 2-3 นาที 60 บารอสตอกลูกส้นให้
เจอร์ราร์ดในเขตโทษ กัตตูโซ่รวบเจอร์ราร์ดคว่ำ กรรมการเป่าจุดโทษ อลองโซ่ยิงมุมซ้ายของตัวเอง ดีด้าพุ่งปัดได้ แต่อลองโซตามไปซ้ำเสียบคาน ลิเวอร์พูลใช้เวลาเพียง 6 นาที ตีเสมอมิลาน เวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมบุกใส่กันอย่างสุดมันส์ แต่ยิงเพิ่มกันไม่ได้ จบ 90 นาที เสมอ 3-3 ต้องต่อเวลา
ต่อเวลา 30 นาที มิลานคุมเกมเป็นส่วนใหญ่ แต่ยังไม่มีดอกาสจบสกอร์ ต่อเวลาครึ่งหลัง เชฟเชนโก โหม่งจ่อๆ ดูเด็คปัด เชฟเชนโกซ้ำจ่อๆ ติด ดูเด็ค ข้ามคาน เชฟเชนโกถึงกับเอามือกุมหัวด้วยความเสียดาย หมดเวลาทำอะไรกันไม่ได้ต้องตัดสินด้วยการยิงลูกโทษ
มิลานยิงก่อน แซร์จินโญ แปไปทางซ้ายตัวเองบอลข้ามคาน
คนแรกลิเวอร์พูล ดีทมาร์ ฮามันน์ยิงไปทางซ้ายตัวเอง ดีด้าพุ่งถูกทาง แต่ไม่ทัน ลิเวอร์พูลนำ 1-0
คนที่สองมิลาน อังเดรียส ปิร์โล ยิงไปซ้ายมือตนเอง ดูเด็คพุ่งเซฟไว้ได้
ซิสเซ่ ออกมายิงไปขวา ดีด้าผิดทาง ลิเวอร์พูลนำห่าง 2-0
ลูกสาม โทมัสสัน ยิงไปทางซ้าย ดูเด็คผิดทาง มิลานไล่มา 1-2 ริเช่ก้มหน้าแปซ้าย ดีด้าพึ่งไปเซฟไว้ได้
ลูกที่สี่ กาก้า ยิงด้วยซ้ายบอลเสียบคาน มิลานตีเสมอ 2-2 สมิเซอร์ออกมาแปขวา เข้าสวยงาม หงส์นำ 3-2
ลูกที่ห้า เชฟเชนโกเม้มปาก แล้วยิงไปกลางประตู ดูเด็คเซฟได้ ลิเวอร์พูลกลายเป็นแชมป์ยูฟ่าแชมป์เปี้ยนลีกทันที ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของนักเตะ ผู้เกี่ยวข้อง และบรรดาแฟนบอลที่ติดตามมาเชียร์
ลิเวอร์พูลผงาดคว้าแชมป์อย่างยิ่งใหญ่ ในฐานะทีมรองบ่อน สำหรับในลีก ลิเวอร์พูลจบเพียงอันดับ 5 โดยเชลซีเป็นแชมป์ และอาร์เซนอลเป็นรองแชมป์ บารอส เตอร์ราร์ด และ การ์เซีย เป็นดาวยิงสูงสุดสโมสร ด้วยสกอร์ 13 ประตู
บันทึก
5
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
ลิเวอร์พูลที่ผมรู้จัก
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย