Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Ghosts and legends
•
ติดตาม
23 ก.ค. 2020 เวลา 16:04 • บันเทิง
📍"เรื่องเล่า เเละ ประสบการณ์ขนหัวลุก"
( ตอนที่จบ ) "โรงเเรมหลอน สุดเฮี้ยน"
⭕ต่อจากความเดิมตอนที่เเล้ว ใครที่พลาด ยังไม่ได้อ่าน ตอนที่ 1-2 ให้กลับไปอ่านก่อนนะครับเดี๋ยวจะไม่เข้าใจ
❗ต่อจากความเดิมตอนที่เเล้ว
ยิ่งกว่านั้น ผมเริ่มเห็นหัวดำๆของต้นเสียง
โผ่วมาแล้วตามความสูงของขั้นบันได
ใบหน้าของยายจวนนั้น
พ้นบันไดขั้นสุดท้ายมาแล้วจนเห็นชัด!!!
สายตามองตรงมาที่ผม พร้อมเอ่ยขึ้นว่า
("คุณจ้ะ!")
เหมือนพระเจ้ายังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง
พร้อมกันนั้นประตูก็เปิดออก ให้ผมนั้นได้เข้าไป
ผมใช้โอกาสนี้อย่างรวดเร็วที่สุด
ปิดประตูดังโครมมม!!! ล็อคกลอนทุกตัวที่มีอยู่
เมื่อเข้ามาในห้องพักทุกอย่างเงียบสนิทและมืดมิดจนมองอะไรไม่เห็น
มีเพียงแสงไฟจากภายนอกเท่านั้นที่รอดเข้ามาที่ขอบประตูด้านล่าง จนมองเห็นเป็นเส้น
ถ้าไม่ได้เสียบการ์ดที่กุญแจเข้าที่ช่องเสียบระบบไฟในห้องก็จะไม่ทำงาน ตายล่ะมึง!!
กุญแจยังเสียบคาอยู่ที่หน้าห้อง
เวรเอ๊ยย!!ซวยอะไรอย่างนี้เนี่ย!
ผมนึกในใจไม่กล้าส่งเสียงอะไรเลย
มันอยากจะซ่อนตัวจากความกลัว
ที่ถาโถมอยู่ด้านนอก
ในห้องยังมืดแล้ว ทุกอย่างจะเงียบ
แล้วสิ่งที่ผมอยากให้มันเป็นเพียงความฝัน
มันก็เกิดขึ้นที่หน้าห้อง
มีใครคนหนึ่งกำลังเดินมา
นอกจากเสียงเดินที่พอได้ยินแล้ว สิ่งที่ยืนยันชัดก็คือ เงาของขาทั้งสอง
ที่รอดขอบประตูเข้ามา
แล้วเงานั้นมันก็หยุดอยู่ที่หน้าห้อง
ในห้องยังมืดและทุกอย่างยังเงียบ
มีเพียง เสียงหัวใจที่เต้นถี่และเสียงหายใจ
("ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก..ก๊อก") ผมสดุ้งสุดตัว!!
ผมเอาสองมือขึ้นปิดปากเเน่น!
อะไรก็ตามที่อยู่ข้างนอก ที่ห่างกันเพียงประตูกั้นมันเคาะประตู พร้อมกันนั้น
ผมได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กที่อยู่ด้านนอก
หากเเต่เวลานี้ น้ำเสียงเป็นไปด้วยความเย้ยหยันและสนุกใจ
ผมกระโดดขึ้นเตียง คลุมโปงเเน่น
มือทั้ง2ข้างอุดหู เเละอยู่ในสภาพนั้น
จนไม่รู้ว่าเวลาล่วงเลยไปนานเท่าไหร่
ในห้องยังมืดและทุกอย่างยังเงียบ
นอกห้องก็เช่นกัน ตัวผมเต็มไปด้วยเหงื่อ
โดยที่ไม่ต้องออกกำลังกาย นั้นเพราะความกลัวและอยู่ใต้ผ้าห่มหนาเป็นเวลานาน
โดยที่ไม่ได้เปิดแอร์ มือค่อยๆล้วงโทรศัพท์
ที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง
เพื่อกดเปิดพอให้มีแสงบ้าง
ผ้าห่มที่คลุมตัวถูกเปิดออกอย่างช้าๆ
ตอนนี้มีเพียงแสงจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือ
ที่น้อยนิดเท่านั้น
ที่พอทำให้เห็นอะไรได้บ้าง
ผมค่อยๆหันหน้าจอโทรศัพท์ไปรอบๆ
เพื่อหาโทรศัพท์ของโรงแรม
ซึ่งโดยปกติ ถ้าไม่อยู่หัวเตียงก็อยู่แถวโต๊ะวางทีวีตั้งใจจะโทรหาเจ้าหน้าที่โรงแรม เเต่เเล้ว
เสียงโทรศัพท์ของโรงแรมก็ดังจนลั่นห้อง!!!
("กริ้งง...กริ้งงง..กริ้งงง..")
ผมสะดุ้งสุดตัว เพราะความตกใจ
เลยรีบกดเปิดไฟที่มือถืออีกครั้งอย่างลนลาน
มันดังอยู่ 3-4 ครั้ง ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุด
ถ้าผมไม่รับ ผมคงต้องตายเพราะเสียงนี้เเน่ๆ
ผมตัดสินใจเอื้อมมือที่สั่นเป็นเจ้าเข้า
ไปหยิบโทรศัพท์แล้วยกหูขึ้นฟัง
แล้วเสียงจากปลายสายก็พูดว่า
("คุณพี่คะจากสำนักงานนะคะ")
เสียงที่ได้ยินทำให้ผมใจชื้นขึ้นมามาก อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียว
("คะ..คะ...คะ.ครับ") ผมพยายามทำเสียงให้ปกติที่สุด (จ.ข.บ.ค. : นี่ที่สุดเเล้วหรออ ? - - )
เธอพูดต่อ
("คุณพี่เสียบกุญแจลืมไว้ที่หน้าห้องค่ะ
เพื่อความปลอดภัย
หนูว่าคุณพี่เก็บกุญแจไว้ในห้องดีกว่านะคะ")
("อะ..อ่ะ..อ่ออ.ครับ")
("ขอบคุณค่ะ ราตรีสวัสดิ์นะคะ")
แล้วเธอก็วางสาย หลังจากเธอถงทิ้งโจทย์สุดท้าย
ไว้ให้ผมแก้ ผมคิดว่า
ถ้าปล่อยให้กุญแจมันคาอยู่อย่างนั้นจนเช้า
น่าจะปลอดภัยกับชีวิต
เเละสภาพจิตใจของผมมากกว่า
เพราะถึงแม้จะมีกุญแจเสียบคาอยู่
ก็ไม่มีใครเข้ามาได้
เพราะผมล็อคกลอนและสายยูงไว้แล้ว
แต่หากปล่อยไว้อย่างนี้
นอกจากความไม่สบายใจแล้ว
ผมต้องอยู่ในห้องนี้โดยที่ไม่มีแสงสว่าง
และเปิดแอร์ไม่ได้
ภารกิจการเก็บกูกุญแจ
จากหน้าห้องพัก จึงเริ่มขึ้น
หน้าจอมือถือบอกเวลา 21:42 นาที
ผมส่องไฟไปทางประตู
ค่อยๆเดินอย่างกล้าๆกลัวๆ
ตัวล็อคถูกปลดออกทีละตัวจนครบ
มือค่อยๆแง้ม ขณะที่เท้าที่ยันประตูไว้อยู่ด้านล่าง ถ้ามือไม่ทัน เท้าก็น่าจะช่วยได้
ผมคิดไม่แม้แต่จะชะโงกหน้าออกไป
ผมเเง้ม แล้วรีบคว้ากุญแจเข้ามาทันที
แล้วก็ปิดประตูล็อคด้วยความแน่นหนาดังเดิม
ทำอย่างกับมันจะป้องกันภูตผีจากภายนอกได้อย่างนั้น
การ์ดของกุญแจถูกเสียบเข้าที่ภายในห้องพัก
ไฟสว่างพรึบ!! ขึ้นมาทันที
บรรเทาความกลัวและเพิ่มความอุ่นใจ
ได้เลยไม่น้อย ผมรีบอาบน้ำด้วยความรวดเร็ว
พร้อมสวดมนต์
("พุทธังอาราธนานัง ธัมมังอาราธนานัง สังฆังอาราธนานัง")
เเล้วเข้านอน โดยหวังว่าจะผ่านค่ำคืนนี้ไป
โดยไม่มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก
คืนนี้ ผมอนุญาตให้ไฟทุกดวงในห้อง
ใด้ทำหน้าที่ของมันอย่างสุดกำลัง
ทีวีถูกเปิดไว้ในช่องรายการบันเทิง
ผมไม่ได้อยากดูเนื้อหา
แต่ผมต้องหารดูหลวงปู่เค็ม
(จ.ข.บ.ค.: ไม่ใช่นะครับ55) ผมเเค่ต้องการเพื่อน
ผมพลิกตัวอยู่หลายครั้ง สุดท้ายด้วยความเพลียจากการเดินทางตลอดทั้งวัน
ก็เป็นตัวช่วยชั้นดี ให้ผมหลับลงได้
ในที่สุดก็เช้า
บรรยากาศยามเช้าตรงกันข้ามกับเมื่อคืนนี้โดยสิ้นอากาศที่สดชื่นของต่างจังหวัด
ทำให้ผมรู้สึกดีขึ้นไม่น้อย
แม้เมื่อคืนจะหลับไม่ค่อยสนิทก็ตาม
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วผมออกจากห้องเพื่อที่จะไป check out
ทานอาหารเช้า แล้วค่อยไปที่ห้องประชุม
เดินกลับทางเดิม กับที่มาเมื่อวาน
แต่เช้านี้ผมเห็นเจ้าหน้าที่ของโรงแรม
และแขกคนอื่นๆที่มาพักอีกหลายคน
ทำให้ดูไม่เงียบเหงาวังเวงเหมือนเมื่อวาน
ที่เคาน์เตอร์ฟอนต์ของโรมเเรม มีเจ้าหน้าที่สาวมาประจำการอยู่ 2-3 คน
ผมคืนกุญแจแล้วแจ้ง check out
ระหว่างรอผมมองซ้ายมองขวาและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสงสัยว่า
("น้องครับรู้จักแม่บ้านที่ชื่อชื่อว่าป้าจวนรึเปล่าครับ")
("อ่อรู้ค่ะมีอะไรรึปล่าวคะ")
ก่อนที่ผมจะเอ่ยตอบต่อไป
("เเกร๊ก!!...เเกร๊ก!!...เเกร๊ก!!...เเกร๊ก!!")
ผมจำได้อย่างแม่นยำทั้งเสียงและจังหวะ
นี่กลางวันแสกๆเลยนะเห้ย
ผมขนลุกไปทั้งตัว
("นั้นไงคะป้าจวน พูดถึงก็มาพอดี ป้าจวน คุณพี่เค้าถามหาน่ะ")
หญิงสาวพูดพร้อมบอกทิศทางของยายจวน
ผมหันตามไปเช่นกัน
ภาพที่ผมเห็นคือ "ป้าจวน!!"
ผีแม่บ้านที่ผมเจอเมื่อวานนี้เต็มๆ
ผมพูดอะไรไม่ออก บอกไม่ถูก
เพราะปากเริ่มสั่น
แต่ก็พยายามเก็บอาการไว้อย่างดี
เเล้ว "ป้าจวน" ก็เอ่ยคำขึ้นที่สุภาพว่า
("คุณจ๊ะ เมื่อคืนคุณลืมกุญแจไว้ที่หน้าห้อง
ป้าเคราะเรียกตั้งหลายครั้ง ก็ไม่เห็นเปิดประตู
ป้าเกรงใจ ก็เลยมาบอกน้องที่เขาเข้ากะเมื่อคืน
ให้โทรบอกแขกหน่อย
ไม่รู้ว่าเขาโทรบอกคุณหรือเปล่า")
พอ"ป้าจวน"จบประโยคด้วยรอยยิ้ม อาการไอของเมื่อวานมีอยู่ในลำคอเพียงเบาๆ
("คะ..คะ.คะ.ครับ.บอกเเล้วครับ") ผมตอบเเบบงงๆ
"(เเล้วเด็กๆ ที่วิ่งเล่นอยู่หัวค่ำ ป้ากลัวว่าจะรบกวน
ก็เลยเดินไปตามกลับมาอยู่กับพ่อแม่มัน
เด็กๆพวกนี้มันก็หลานๆป้าทั้งนั้นเเหละ ว่าเเต่ถามหาป้า มีอะไรรึปล่าวจ๊ะ ป้ามาส่งงาน เเล้วกำลังจะกลับบ้านพอดี")
("เมื่อวานผมเห็นเด็กๆ 3 คนบอกว่าป้า.เป็น...เป็น")
("อ่อ เป็นผีน่ะหรอ ป้ายังไม่ตายยย")
แกทำเสียงสูงแล้วก็หัวเราะออกมา
เหมือนเป็นเรื่องปกติ
เเล้วเจ้าหน้าที่สาวประจำโรงแรม ก็อธิบายว่า
("ป้าจวน..ที่เด็กๆพูดถึงน่ะ เเกชื่อ "รัญจวน" ค่ะ ส่วนคนนี้ชื่อ"ลำจวน" แกเป็นเพื่อนกัน
แล้วก็เป็นเเม่บ้านของที่นี่มานานแล้วค่ะ
เมื่อปีก่อน ป้าจวนเเกป่วย
เอิ่มม..หนูหมายถึง ป้ารัญจวนนะคะ
จนต้องออกจากงานไปรักษาตัว
และก็เสียไปตั้งหลายเดือนแล้วค่ะ
ไม่มีอะไรหรอกค่ะ
เด็กๆ ลูกๆ หลานๆ ของคนในโรงแรม
เขาก็รู้จักเเกกันดี เด็กๆก็เอาไปพูดล้อหลอกกันตามประสาเด็กน่ะค่ะ")
แล้วเธอก็หันมองที่ป้าลำจจวน
("ส่วนคนนี้ยังแข็งแรงดี เเต่เป็นหวัดมา 2-3 วันแล้วค่ะ ไม่ยอมหยุดงาน วันนี้น่าจะดีขึ้นแล้วนะป้า")
ประโยคท้ายเธอพูดกับป้าจวน
เเต่ผมยังมีประเด็นที่สงสัยต่อ
("แล้วเด็กๆที่ไปวิ่งเล่นแถวตึกพักล่ะครับ
เห็นว่าเจ้าของโรงแรมห้ามอย่างเด็ดขาด
เพราะกลัวว่าจะรบกวนแขกแล้วก็กลัวว่าจะเกิดอุบัติเหตุ จมน้ำตายเหมือนคราวก่อน")
("จมน้ำตายเหรอคะ")
เธอทำหน้างงๆพูดพรึมพรำเหมือนคุยกับตัวเอง")
("หนูทำงานมาหลายปีไม่มีใครจมน้ำตายนะคะ เรื่องราวเป็นยังไงคะ")
ผมจึงเริ่มเล่าเรื่องเมื่อค่ำวานนี้ ที่ได้คุยกับ"ธงจิต"
ผู้ช่วยผู้จัดการห้องอาหารของโรงแรมให้ฟังเนื่องจากยังเช้าอยู่ งานที่เคาน์เตอร์ยุ่งไม่มากนักเจ้าหน้าที่สาวอีก 2 คน และป้าลำจวน
จึงเข้ามาฟังด้วย หลังจากที่ผมเล่าเรื่องทั้งหมด
ให้ทุกคนฟัง สาวๆหันไปมองหน้ากันอย่างงงๆ
สวนป้าจวน คงจะยังไม่เชื่อในเรื่องที่ผมพูด
และเอ่ยขึ้นมาทันทีว่า
("ไอจิต มันถูกไฟช๊อตตายในห้องอาหารเมื่ออาทิตย์ก่อน คุณจะเจอมันได้ยังไง")
ทันทีที่จบประโยค ผมอ้าปากค้าง ตาเบิกกว้างด้วยความตกใจในความสงสัย เจ้าหน้าที่สาวอีกคนพูดเสริมมาว่า
("เเล้วห้องอาหารที่คุณพี่เข้าไปเมื่อคืน มันถูกปิดอยู่นะคะ เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนเข้าไป
โรงแรมรอช่างเข้ามาซ่อมระบบไฟให้เสร็จ
แล้วถึงจะเปิดใช้อีกทีค่ะ ตอนนี้ก็เลยใช้ห้องอาหารอีกห้องที่ติดอยู่กับห้องประชุมใหญ่แทน เมื่อวานก็ยังมีลูกค้ามาทานอาหารตั้งหลายคนเลยนะคะ")
ผมอึ้งไปอีกครั้ง อาการเหมือนจะยืนไม่อยู่
ทุกคนเเม้จะดูตกใจ
แต่ก็ยังไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่ผมเล่าให้ฟังนัก
เจ้าหน้าที่อีกคน ที่อยู่ไกล้ๆ
หยิบแฟ้มห้องพักของผมขึ้นมา
เพื่อเตรียมรับชำระเงิน และออกบิล
คราวนี้ทุกคนหน้าซีดเผือก อย่างเห็นได้ชัด
แม้จะเพิ่งแต่งหน้ามาก็ตาม
ในแฟ้มมีเอกสารรายละเอียดค่าห้องพัก ส่วนกระดาษอีกใบสีเทา คือบิลค่าอาหาร พร้อมลายเซ็นของผม
ข้างๆกันกับผู้รับออเดอร์ เขียนเป็นลายมือชัดเจนระบุชื่อ "ธงจิต" ทุกคนมองหน้ากันไปมา
ไม่มีใครพูดอะไร หนึ่งในนั้นน้ำตาซึม เหมือนกับจะร้องไห้
("แล้วตั้งแต่เกิดเหตุ โรงแรมนี่ทำบุญบ้างหรือเปล่าครับ")
ผมถามด้วยน้ำเสียงสั่น
พร้อมควักยาดม ตราโป๊ยเซียน ในกระเป๋าเป้
("ยังไม่ได้ทำค่ะ")
ผมนึกย้อนไปถึงคำพูดของ "ธงจิต" เมื่อคืน
("จริงๆผมก็ไม่อยากพูดเรื่องนี้กับใครหรอกครับ
แต่หลังจากเกิดเรื่องขึ้น
ทางเจ้าของโรงแรม
เขาก็ไม่ได้ทำอะไรเลย
แม้แต่ทำบุญให้ พวกเขาก็เลยไม่ไปไหน
ผมเลยคิดว่า ถ้ามีคนรู้เรื่องนี้เยอะๆ
เจ้าของโรงแรม
เขาก็น่าจะทำอะไรให้มันดีขึ้นมาบ้างครับ")
"สิ่งที่เห็น อาจไม่ใช่สิ่งที่เป็น และสิ่งที่เป็น อาจไม่ได้เกิดจากคนเป็น อย่าเชื่อจนกว่าจะเช้า"
📍อาจจะใส่คำที่มันตลกๆลงไปบ้าง
เพื่อลดความหลอนลงไปหน่อยนะครับ
เเล้วเป็นยังไงกันบ้างครับ
กับ (โรงเเรมหลอน สุดเฮี้ยน)
ถ้าชอบก็อย่าลืม กดไลค์ กดติดตาม หรือกดเเชร์
เพื่อเป็นกำลังใจให้กันนะครับ
#Ghosts and legends
#ตำนานเเละนิทานอันสุดหลอน
ขอขอบคุณ
Credit Photos : อินเทอร์เน็ต
Credit เจ้าของเรื่อง : เดอะช็อคไทม์
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย