23 ก.ค. 2020 เวลา 12:19 • ไลฟ์สไตล์
เส้นชีวิต
....ฉันเชื่อว่าการเดินทางของชีวิตฉันมีคนขีดเส้นไว้แล้ว มีทั้งราบเรียบ ขรุขระ ล่อแหลม แต่มันก็ผ่านมาได้
มันเริ่มจากวัยเด็กในถิ่นห่างไกลเมือง การที่จะได้ไปงานเล่น หรือกิจกรรมในเมืองมันช่างแสนยาก ไม่เคยได้ไป จะได้ไปก็ต้องงานที่โรงเรียนบังคับว่าต้องไป นอกนั้นหมดสิทธิ์ ชีวิตฉันมีแต่ท้องนา ไร่มัน เลี้ยงควาย ทำงานกะพ่อแม่
ถามว่าครอบครัวยากจนหรอ ตอบว่า ไม่ สภาพตามวิถีชนบทที่มีกินกันได้ตามวิถีกับครอบครัวอื่นๆ แต่พ่อมักจะมองว่ามันไม่คุ้ม อยู่ช่วยงานที่ท้องนา เลี้ยงควายดีกว่า
....ไม่ใช่ว่าพ่อแม่ ไม่ชอบให้เรียนนะ ฉันเดินทางมาไกลกว่าเพื่อนก็เพราะ พ่อแม่ ผลักดันให้มา
ช่วงประถม ก็เรียนที่โรงเรียนประจำหมู่บ้าน การเรียนพอได้ ไม่ขี้เหล่ ในรุ่นเดียวกันทั้งชายหญิงที่ไปต่อมัธยมมีไม่ถึง 10คนด้วยซ้ำ ฉันเป็น 1ใน2 คนของผู้ชายที่ไปต่อ แต่ฉันไปไม่เหมือนใคร...
....หลุดจากประถม เมื่อต้องต่อมัธยมลุ้นกันว่าจะเรียนหรือทำนา จะเรียนก็ต้องไปตามทางที่ ตายาย พ่อแม่ มองไว้คือ บวชเรียน เท่านั้น ถ้าไปเรียนแบบปกติคงไปไม่ถึงฝั่งแน่ แลดพ่อแม่คงไม่ไหวจะส่งเสีย เพราะเด็กแถวบ้านไปกันก็ล่อแล่ เนื่องจาก โรงเรียนห่างไกลกับบ้านมาก
....บวชเรียน ชีวิตที่ถูกกำหนดไว้แล้ว เพราะเคยขอลาสิกขาตอนจบ มอ.3 แต่ก็มีเหตุให้ไม่ได้รับอนุญาติให้ลาสิกขา ต้องละเห็ดไปต่อ ม.4 อีก จนจบ มอ.6 สอบโควต้าเข้า มหาลัย ได้ถึงอนุญาติให้ลาสิกขาได้
คนแก่มองอนาคตได้ไกล และทะลุขาด หากฉันดันทุลังลาสิกขา คงไม่ได้เดินทางไกลออกจากบ้านมารอนแรมนับ10 - 20ปี แน่นอน
ชีวิตที่แสนเรียบราบในเส้นทาง แต่ขรุขระในทางเดินทำให้ฉันได้พบเจออะไรอีกมากมาย ทั้งชีวิตภายใต้ ผ้าเหลือง ของพุทธศาสนา ที่ให้ฉันได้มีทุกวันนี้
ชีวิตของสามเณรน้อย ที่มีทั้งผืดและถูกในชีวิตที่มีกฎข้อบังคับ การใช้ชีวิตที่ไม่เหมือนเด็กทั่วไป การเรียนที่แปลกจากเด็กทั่วไป ไม่มีเรียนพละ ไม่มีกลุ่มกิจกรรมที่เป็นของฆราวาส เช้าเรียนพุทธศาสนา บ่ายเรียนสายสามัญ อีกมุมที่ยังไม่เปิดกว้าง
ชีวิตนักบิณ......
ขอบพระคุณ ข้าว น้ำ ปัจจัย ที่ญาติโยมถวายหล่อเลี้ยงชีวิตมาให้เติบใหญ่
บุญกุศลที่ตอบแทนให้ยังสำนึกและตรึงใจเสมอ
สาธุ....
นายเป้ย
โฆษณา