Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
คลังความรู้ by SpokeDark
•
ติดตาม
25 ก.ค. 2020 เวลา 08:00 • ประวัติศาสตร์
'พลปืนไฟ' กองกำลังสุดฉกาจแห่งโอวาริ ที่รบกับทหารม้านับหมื่นโดยไม่เสียกำลังพล
WIKIPEDIA PD
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
ย้อนกลับไปในช่วงปลายศตวรรษที่ 15 บรรดากองกำลังต่างๆ ของผู้มีอำนาจในญี่ปุ่นขณะนั้น เวลาทำสงครามเพื่อแย่งชิงอำนาจกัน อาวุธที่ใช้หลักๆ ในการรบนั้นก็เป็นพวกดาบคาตะนะ ธนู และกองทหารม้าที่เป็นว่ากำลังสำคัญในการรบ แต่เมื่อเข้าศตวรรษที่ 16 ปืนไฟก็เข้ามามีบทบาทในการทำสงครามของชาวญี่ปุ่นมากขึ้นแต่ไม่ค่อยได้รับความนิยมก็เพราะว่าความเชื่องช้าของมันที่กว่าจะยิงได้แต่ละครั้งนั้นต้องอาศัยการบรรจุกระสุนที่ค่อนข้างจะไม่ทันใจ ทำให้ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร
แต่การรบของญี่ปุ่นก็ต้องเปลี่ยนไปหลังจากที่ “โอดะ โนบุนากะ” ได้แสดงให้เห็นว่า กองทัพที่ใช้ปืนไฟเป็นกำลังหลักของเขานั้นมันร้ายกาจขนาดไหน ย้อนกลับไปในช่วงที่โนบุนากะยังเป็นหนุ่ม เขามีความสนใจในความร้ายกาจของปืนไฟ โดยเห็นว่ามันจะสามารถเป็นอาวุธที่ช่วยให้กองทัพของตนนั้นไร้เทียมทาน จึงได้มีการนำเข้ามาสะสมไว้อย่างลับๆ
WIKIPEDIA PD
และต่อมาหลังจากขึ้นเป็นไดเมียวแทนผู้เป็นพ่อที่เสียชีวิต ก็ได้การจัดตั้ง “กองพลปืนไฟ” ขึ้นมาโดยเฉพาะ มีการฝึกฝนเพื่อความเชี่ยวชาญอยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังซื้อปืนไฟรุ่นใหม่ที่ใช้งานได้ดีมีประสิทธิภาพกว่ามาศึกษากลไกและให้ช่างเหล็กของญี่ปุ่นตีเลียนแบบขึ้นมาเป็นจำนวนมาก ทำให้กองทัพของโอดะนั้นเป็นกองกำลังแรกของญี่ปุ่นที่มีพลปืนไฟเหมือนกับกองกำลังในยุโรป ซึ่งพลปืนไฟนี้ก็มาจากพลอาสาเป็นชาวนาธรรมดาที่มาร่วมในกองทัพของโอดะนั่นเอง
ผลของการมองการณ์ไกลเช่นนี้ส่งผลให้การยึดปราสาทนากาชิโนะในปี 1575 เป็นไปได้อย่างราบรื่นสามารถกำราบทหารม้าของฝ่ายศัตรูได้โดยที่ฝ่ายศัตรูนั้นคิดไม่ถึง ศึกครั้งนี้เป็นการรบกับระหว่างกองทัพของตระกูลโอดะและกองทหารม้าหนักของตระกูลทาเคดะ ซึ่งก่อนที่จะทำการรบนั้น โนบุนากะได้จัดเตรียมพลปืนไฟและได้ให้ทำแนวรั้วกั้น เพื่อให้พลปืนไฟอยู่ด้านหลังแนวรั้ว
WIKIPEDIA PD
โดยปกติแล้วการรบด้วยปืนไฟในกองทัพของขุนศึกคนอื่นๆ จะใช้กลยุทธิ์แบบให้พลปืนไฟยิงเพื่อเปิดทางให้ศัตรูชะงักและทหารม้าเข้าโจมตีซ้ำอย่างรวดเร็วให้ตั้งตัวไม่ได้ แต่ของโนบุนากะไม่ได้ทำเช่นนั้น โนบุนากะให้พลปืนไฟยืนเรียงแถวหน้ากระดานเป็นสามแถว เมื่อทหารม้าเข้ามาในระยะ พลปืนไฟแถวแรกจะเริ่มยิงใส่ศัตรู ซึ่งปกติแล้วจังหวะตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่พลปืนไฟต้องทำการบรรจุกระสุน ก็จะถูกทหารม้าเข้ามาโจมตีได้โดยง่าย แต่ทว่าคราวนี้พลปืนไฟแถวที่สองของโอดะได้สาดกระสุนใส่ทันที แถวที่สามก็ยิงซ้ำอีกรอบ ซึ่งพอดีกับแถวแรกบรรจุกระสุนเสร็จพอดี
ผลจากการศึกในครั้งนี้ ฝ่ายทหารม้าหนักของตระกูลทาเคดะต้องเสียทหารไปเป็นจำนวนกว่า 10,000 คน แต่ทว่าไม่สามารถทำลายแนวรั้วของพลปืนไฟได้ สุดท้ายแล้วก็ต้องล่าถอยโดยกองกำลังฝ่ายโนบุนากะนั้นสูญเสียไพร่พลไปไม่กี่พันนายเท่านั้น ภายหลังโนบุนากะก็ได้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งที่มีอำนาจมากกว่าโชกุนโดยเป้นผู้ชักใยอยู่เบื้องหลังและทำให้ปืนคาบศิลากลายเป็นกำลังหลักสำคัญของกองทัพญี่ปุ่น แต่เมื่อเข้าสู่ยุคสมัยของโชกุนโทคุงาวะ อิเอยาสุ ญี่ปุ่นได้มีนโยบายปิดประเทศและเลิกทำการค้ากับชาวต่างชาติ ทำให้อาวุธปืนกลายเป็นของต้องห้ามโดยมีเหตุผลว่าเพื่อความมั่นคงในอำนาจของโชกุน
ร่วมเป็นผู้สนับสนุนให้เรามีกำลังผลิตงานต่อไปได้ทาง บัญชีกสิกรไทย
0698966939
บริษัท สโป๊คดาร์ค จำกัด
123RF
1 บันทึก
12
1
1
12
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย