27 ก.ค. 2020 เวลา 00:45 • ความคิดเห็น
MovieTalk มูฟวี่ชวนคุย:
ดีต่อใจ...ถ้าใครรักงานเขียน
บทความที่ 800 ฝากติดตามด้วย (ได้ไหม) ครับ
เพจ MovieTalk เดินทางมาถึงบทความที่ 800 แล้วครับ
เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่บทความครบทุกหลักร้อย
ผมจะเขียนบทความให้กำลังใจในชุด “ดีต่อใจ...ถ้าใครรักงานเขียน” เพื่อเป็นกำลังใจแก่เพื่อน ๆ นักเขียน
หลายคนคงเจอข้อความมาตรฐาน เช่น
“ติดตามและเป็นกำลังใจให้ ฝากติดตามด้วยครับ”
“มาติดตาม และฝากติดตามด้วยนะคะ”
“แวะไปทักทายเราบ้างนะครับ”
ฯลฯ
ซึ่งรวม ๆ ก็คือ ฝากเพจนั่นล่ะ
ทั้ง ๆ ที่ในบีดีก็มีคำเตือนเรื่อง ห้ามฝากเพจตนเองในบทความของผู้อื่น
แต่เราก็ยังเห็นบทความทำนองนี้เกิดขึ้นเป็นประจำ
ถ้ามาติดตาม แล้วต้องติดตามกลับใช่ไหม?
ไม่ติดตามได้ไหม?
เขาห้าม...ทำไมยังทำ...ไม่เห็นกฎข้อนี้รึไง?”
ฯลฯ
เหล่านี้คือความรู้สึกของคนที่เป็นเจ้าของเพจ
ผมจึงอยากหยิบเอาเรื่องนี้มาพูดคุยกันครับ
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับเจ้าของเพจและ
คนฝากเพจกันก่อนครับ
ในฝั่งเจ้าของเพจ ต้องเข้าใจก่อนว่าแต่ละบทความที่ถูกเขียนขึ้นมา คนเขียนต้องใช้เวลาในการเขียน มีการค้นหาข้อมูล เรียบเรียง บางเพจมีการทำภาพประกอบเอง เรียกได้ว่า เจ้าของเพจทุ่มเทกับแต่ละบทความเป็นอย่างมาก
สิ่งที่เจ้าของเพจอยากได้จากคนอ่านคือ...
คนอ่าน...อ่านแล้วแสดงความรู้สึกอย่างไร มีความคิดเห็นอย่างไรต่อบทความนี้ มีข้อเสนอแนะอย่างไร
มีข้อท้วงติงเห็นต่างอย่างไร
เพราะฟีดแบ็กเหล่านี้ คือสิ่งที่เหมือนกำลังใจสำหรับเจ้าของเพจ
แต่เมื่อเจ้าของเพจพบกับข้อความสั้น ๆ
“เป็นกำลังใจให้ ฝากติดตามด้วยนะครับ”
เจ้าของเพจย่อมรู้สึกว่า สิ่งที่เขาเขียน คนนี้อ่านบ้างไหม หรือเพียงแค่ต้องการคนติดตามเพิ่มเท่านั้น
เจ้าของเพจบางคนโดยมารยาทก็ยินดีติดตามกลับ, บางคนก็ไม่ติดตามกลับ, บางคนมีบล็อกไปเลย ก็แล้วแต่วิธีคิดของแต่ละคน ซึ่งมันไม่มีผิดหรือถูก
แต่โดยมารยาทของเจ้าของเพจ เมื่อมี User ใหม่ ๆ เข้ามาแสดงความเห็น สิ่งที่เจ้าของเพจทำคือการแวะเวียนกลับไปที่เพจของ User หน้าใหม่คนนั้น ไปอ่านบทความ และแสดงความเห็น มันเหมือนกับการแสดงคำขอบคุณ ส่งกำลังใจให้ และติดตามกลับ ก่อนจะนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่เพิ่มพูนขึ้นในฐานะ ‘เพื่อนนักเขียน’ จึงไม่มีความจำเป็นต้องไปฝากเพจเลย
หันมาทางฝั่งคนที่ลงข้อความ “ฝากติดตามด้วย...”
ส่วนใหญ่จะเป็นเพจน้องใหม่ที่เพิ่งเข้ามา และไม่ทราบว่าบีดีมีกฎเหล็กห้ามฝากเพจไว้ที่เพจคนอื่น
ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อยากได้คนติดตามเพิ่ม เร็ว ๆ ก็เลยแวะมาฝากข้อความประมาณนี้ไว้ตามเพจคนอื่น
จะให้บูสต์คนอ่านเพิ่มขึ้นมันก็ต้องใช้เงิน ใครจะปั๊มเงินไปบูสต์ได้ตลอดเวลาล่ะครับ
ส่วนคนฝากเพจจะอ่านบทความหรือไม่ อันนี้ผมตอบแทนพวกเขาไม่ได้ครับ
ต้องเข้าใจเพจน้องใหม่ก่อน การที่เขาเข้ามาในโลกใบใหม่ มันเป็นอะไรที่ตื่นตา ท้าทาย พอมีคนเริ่มมาติดตาม มันจะรู้สึกว่า ดีจังมีคนอ่านสิ่งที่ฉันเขียน
และเขาก็เฝ้าติดตามดูตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างใจจดจ่อ
ซึ่งตัวเลขการเพิ่มขึ้นของคนอ่าน-คนติดตามมันวิ่งช้ากว่าใจของเจ้าของเพจน้องใหม่เสียอีก
การแวะเวียนไปแนะนำตัวตามเพจอื่น ๆ โดยหวังว่าเขาจะมาติดตามเพื่อเพิ่มจำนวนคนอ่าน-คนติดตามคือวิธีที่ง่ายที่สุด เร็วที่สุด
เพียงแต่มันอาจไม่ใช่วิธีที่เหมาะสมที่สุด
เพราะการที่เราฝากข้อความ
“ติดตาม และฝากติดตามด้วย..”
มันไปทำให้เจ้าของเพจบางเพจไม่แฮปปี้เท่าไรนักตามเหตุผลข้างต้น
แล้วจะทำอย่างไร?
เพจของฉันถึงจะมีคนติดตามล่ะ?
ทุกอย่างมันอยู่ที่ ‘เอาใจเขามาใส่ใจเรา’
ในสังคมบีดีแห่งนี้ เราอยู่กันด้วยมิตรภาพฉันท์เพื่อน-พี่น้อง เราแค่มอบความจริงใจให้แก่กันก็พอ
สิ่งแรกที่ผมจะบอกคือ...
ในยุคที่บีดีมี User มากถึง 4 แสนแล้ว บทความอีกเป็นร้อย ๆ ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
เอาเป็นว่าขนาดเพจยอดนิยมระดับคนติดตาม
เกินหลักหมื่นขึ้นไป ยังบ่นเลยว่า คนอ่านลดลง
แล้วคุณเป็นเพจน้องใหม่ จะไม่น้อยตามได้อย่างไร?
ผมจะถามเพจน้องใหม่ก่อน ไม่ต้องตอบผม
แต่ขอให้คุณตอบคำถามนี้อย่างจริงใจกับตัวเองครับ
คุณเข้ามาบีดีเพื่ออะไร?
ถ้าคุณเข้ามาเพื่อคาดหวังรายได้การเขียน ที่มาจากตัวเลขคนอ่าน คนติดตาม เพื่อให้ดาวหลาย ๆ ดวง
ผมขออวยพรให้คุณประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้ เพราะผมรู้ดีว่าถ้ามันไม่ใช่หนทางที่คุณต้องการ คุณรู้ดีว่าควรทำอะไรต่อไป มันไม่มีผิดหรือถูก ใช่หรือไม่ใช่ ก็เป็นสิทธิของคุณ ทางของคุณ สุดท้ายคุณจะเลือกทำสิ่งที่ใจคุณจะทำ
แต่ถ้าคุณเข้ามาเพื่อฝึกทักษะการเขียน, อยากเป็นนักเขียน, อยากทำ Podcast, อยากทำวีดีโอรีวิว ในสิ่งที่คุณชอบคุณถนัดคุณรัก
ถ้าคุณเข้ามาเพื่ออยากได้ความรู้เพิ่มเติมที่ค้นหาได้ง่ายในทุก ๆ หมวด
ถ้าคุณอยากมีเพื่อน ๆ ในสังคมที่ไม่มี Toxic
อยากได้มิตรภาพใหม่จากคนที่ไม่เคยพบหน้า
อยากได้กำลังใจจากเพื่อนร่วมแอพ
ถ้าเพราะเหตุเหล่านี้ ตัวเลขคนอ่าน-คนติดตาม
ก็ไม่ใช่สิ่งสำคัญที่คุณต้องโฟกัสกับมัน
คุณแค่ค่อย ๆ สร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมแอพ ควบคู่ไปกับการสร้างบทความในแบบที่คุณเป็นด้วยความตั้งใจ
เชื่อเถอะ ผม และ ใครหลาย ๆ คนในนี้ ส่วนใหญ่ก็ทำแบบนี้มาแล้วทั้งนั้น พวกเราไม่เคยฝากเพจของเราไว้ที่บทความคนอื่น เพราะเราทราบดีว่ามันเป็นข้อห้าม เราเกรงใจเจ้าของเพจ และ เราอยากให้เขาติดตามเพราะบทความเรา มากกว่า ‘ความเกรงใจ’
คุณอาจได้ตัวเลขเพิ่มเพราะความเกรงใจ
แต่ไม่ใช่ได้คนอ่านแท้จริงที่ติดตามเพจของคุณ
ตัวเลขคนอ่านประจำ อาจมีน้อย อย่างเพจผมก็ไม่เกินหนึ่งพันคนในแต่ละบทความ ทั้ง ๆ ที่มีคนติดตามใกล้แตะ 8K แล้ว
(และบทความนี้ก็คงมีคนอ่านอยู่ในหลักเกือบ 1 พันเหมือนที่ผ่านมา)
เห็นไหม ผมไม่ได้มีคนตามอ่านจริง ๆ ถึง 8K นะ
มันไม่สำคัญหรอก (สำหรับผมนะ)
แต่ผมมีเพื่อน มีพี่น้อง มากมายที่จะมาคอมเม้นท์
แข่งกันวางเกิบ เมื่อผมลงบทความ
ในวันที่ผมป่วย ขอหยุดเขียน ผมก็ได้กำลังใจจากเพื่อน ๆ นักเขียนเหล่านี้ แวะเวียนกันมาถามไถ่ ฝากกำลังใจไว้ให้กัน โดยไม่ได้เรียกร้อง หากแต่เขาเต็มใจจะมอบให้
เช่นเดียวกับวันที่บางเพจหายไป พวกเราก็แวะเวียนไปฝากข้อความถามไถ่ด้วยความห่วงใย
เพจไหนบ่นท้อ บ่นเหนื่อย จิตตก คุณเชื่อเถอะ
มันจะมีกำลังใจจากเพื่อน ๆ แวะเวียนไปเม้นท์ไว้ให้
เราแบ่งปันความสุข ความทุกข์ กำลังใจ ให้แก่กัน
 
พวกเเราเชื่อมโยงกันด้วยใจถึงใจ
มันคือ ‘ความผูกพัน’
ผมว่าสิ่งนี้มีคุณค่ามากกว่า ตัวเลขคนติดตามเสียอีก
สำหรับเพจเก่า เราเป็นรุ่นกลาง และรุ่นพี่ เราก็แค่หยุดคิดสักนิดว่า การที่เขามาฝากเพจเพราะเหตุใด
การหยิบยื่นมิตรภาพให้กัน ด้วยการเตือนกัน แนะนำกัน และแวะไปติดตามกัน น่าจะดีกว่าไหม?
สำหรับเพจรุ่นใหม่ ไม่ต้องฝากเพจ แต่ฝากความรู้สึกจริงใจไว้ เดี๋ยวคุณก็ได้คนติดตามเพิ่มเองล่ะนะ
เพจทุกเพจอยากให้คุณอ่านงานเขียนของเขาครับ
คุณก็อยากมีคนอ่านงานเขียนคุณไม่ใชเหรอ?
สังคมแห่งนี้มีมิตรภาพดี ๆ ให้แก่กัน อย่าให้เรื่องบางเรื่องมาทำให้เรารู้สึกไม่ดีต่อกันเลยครับ
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความเห็นในมุมมองของผมเท่านั้นนะครับ คุณอาจเห็นด้วย หรือเห็นต่างก็ได้ ผมแค่อยากแชร์มุมมองของผม และก็หวังว่าจะเป็นกำลังใจให้แก่กันและกันครับ
กำลังใจสร้างได้ด้วยวิธีคิด
มูฟวี่
โฆษณา