2 พ.ย. 2020 เวลา 14:44 • ดนตรี เพลง
เรื่องเล่าของเพลง “รักไม่มีเสียง”
วันนี้คุณบอกรักใครหรือยัง?
เมื่อตื่นขึ้นมาในเช้าวันหนึ่ง “คุณไม่มีเสียง” คุณจะทำยังไง?
คุณจะพูด… สวัสดีตอนเช้าคนใกล้ตัว, จะทักทายคนที่บ้าน, จะถามแม่ว่า วันนี้บ้านเรามีอะไรกิน, หรือจะพูดหยอกล้อกับพี่ๆ น้องๆ… แต่คุณไม่มีเสียง…
แน่นอน… คุณคงหาน้ำอุ่นๆ มาดื่ม, จิบน้ำมะนาว-น้ำผึ้ง หรือน้ำขิงร้อนๆ, หายาอมแก้เจ็บคอ หรือหาอะไรที่ทำให้ชุ่มคอมาทาน, หรือไม่ก็อาจจะรีบไปหาหมอ
แต่… สำหรับเก่ง อธิปแล้ว มันมีอะไรมากกว่านั้น…
ในเช้าวันนึงที่เขาตื่นขึ้นมา แล้วพบว่าเขาไม่มีเสียง เขากลับได้ไอเดียในการแต่งเพลง
เก่ง อธิป กับช่วงเวลาการแต่งเพลง (ภาพจาก MV เพลง “รักไม่มีเสียง”)
เก่ง เล่าว่า โจทย์ในการแต่งเพลงวันนั้นคือ เขาตั้งใจจะแต่งเพลงเกี่ยวกับ “ความรักที่ไม่มีเสียง” โดยคิด จินตนาการไปว่า ถ้าเกิดในวันนึง เราไม่มีเสียง เราจะบอกรักคนที่เรารักยังไง
แล้วเก่งก็คิดไปถึง คนที่ไม่มีเสียงจริงๆ ในชีวิตของพวกเขา เช่นคนใบ้ หรือคนบกพร่องทางการได้ยิน พวกเขาบอกรักกันยังไง นอกจากใช้ภาษามือ
เก่งเสิร์จกูเกิลและยูทูป เพื่อหาข้อมูลดูว่า ใน “โลกไร้เสียง” ความรักจะถูกบรรยายออกมาได้ยังไง และในรูปแบบไหนบ้าง และคำตอบที่เก่งก็ได้คือ ความหลายหลายของวิธีบอกรัก และในที่สุด เพลงที่จะเป็นตัวแทนของ “การบอกรัก…แบบไร้เสียง” ก็ถูกเรียบเรียงขึ้น
เก่ง อธิป กับช่วงเวลาการแต่งเพลง (ภาพจาก MV เพลง “รักไม่มีเสียง”)
…หากท้องฟ้ายังมีดาวเป็นประกาย
หากต้นไม้ยังมีรากที่หล่อเลี้ยง
หากว่าฉันวันนึงต้องไม่มีเสียง
ฉันจะเขียนว่ารักเธอ
อยากให้รู้ว่ารักเธอมากแค่ไหน
ให้เธอนับดวงดาวที่มันพร่างพราย
ให้หมดทั้งทะเลและเม็ดทราย
ยังน้อยเกินไปสำหรับเธอ…
เก่ง อยากให้เพลงนี้เป็นตัวแทนของการบอกรักของเขาเอง เผื่อว่าในวันนึง เขาเกิดไม่มีเสียงขึ้นมาจริงๆ และมากไปกว่านั้น เขาอยากให้เพลงนี้เป็นสื่อที่คนจะใช้ในการแสดงออกถึงความรักต่อกันในหลายๆ มิติ
เพลง “รักไม่มีเสียง”เป็นอีกเพลงที่เก่งแต่งทั้งเนื้อร้องและทำนองด้วยตัวเอง โดยมี ม่อน-มุรธา ร่วมรักษ์ เป็นโปรดิวเซอร์ และเก่งได้เป็นโปรดิวเซอร์ร่วมเช่นเคย เพลงนี้ได้นักดนตรี
ผู้เชี่ยวชาญช่ำชองในทางดนตรีมาร่วมเล่นดนตรีให้ อาทิ ป๊อก-ต่อยศ จงแจ่ม (ป๊อก วง Zeal), โอ-ทฤษฎี สีม่วง (โอ Jetset’er), ติ-สุธิติ ไชยสมุทร และสรทัช ปิติเสถียร
มิวสิควิดีโอของเพลงนี้ เก่งได้มีโอกาสร่วมวางโครงเรื่องและคิดเรื่องราวด้วยตัวเองร่วมกับผู้กำกับมิวสิควิดีโออีกด้วย
เก่ง เล่าว่า เขาเป็นคนออกไอเดีย เสนอชุดความคิด และดีไซน์การเล่าเรื่องของ MV เพลงนี้ด้วยตัวของเขาเอง โดยได้สร้างเรื่องเล่า เล่าเรื่องความรัก 3 แบบ ของคน 3 วัย ได้แก่
1. ภาพเล่าเรื่อง: เรื่องเล่าของเด็กหญิงคนหนึ่ง กับความคิดถึงแม่ผู้จากไป
2. ภาพเล่าเรื่อง: เรื่องเล่าของหญิงสาวผู้พิการทางการได้ยิน แต่เธอตั้งใจที่จะซื้อแผ่นเสียง เพื่อไปเป็นของขวัญให้คนที่เธอรัก
3. ภาพเล่าเรื่อง: เรื่องเล่าของคู่รักสูงวัย ที่คุณตาเป็นโรคอัลไซเมอร์ แล้วคุณยายพยายามหาวิธีช่วยให้คุณตาใช้ชีวิตที่หลงลืมแบบไม่สะดุด และช่วยฟื้นความทรงจำของคุณตา
เรื่องเล่าทั้ง 3 เรื่อง เปรียบเสมือนตัวแทนภาพการบอกรักในรูปแบบต่างๆ ภายในกรอบข้อจำกัดของการบอกรักแบบไร้เสียงเหมือนกัน เรื่องเล่าทั้ง 3 ได้ดำเนินไป พร้อมๆ กับเสียงเพลง “รักไม่มีเสียง” ที่บรรเลงไป
สารสำคัญ หรือข้อคิดที่เก่ง และทีมผู้จัดทำต้องการบอกก็คือ ในสังคมที่ผู้คนเร่งร้อนรีบร้อนในการใช้ชีวิต จนอาจจะหลงลืมที่จะบอกรักคนใกล้ตัว ภาพเล่าเรื่องใน MV เพลง “รักไม่มีเสียง” จึงช่วยดึงเราให้ย้อนมองดูตัวเอง และกลับมาครุ่นคิดดูสักหน่อยว่า “วันนี้คุณได้บอกรัก-แสดงออกทางความรักแล้วหรือยัง”?
ในท่อนแรกของเพลงที่ว่า…
ให้บอกอีกทีก็ยังคือฉันรักเธอ
ให้บอกกี่ทีก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม
จะให้เป็นใครเมื่อใจของฉันคือเธอ
หากขาดเธอไปก็คงขาดลมหายใจ
กับอีกท่อนนึงที่ว่า…
เธอไม่ต้องจำคำที่ว่าฉันรักเธอ
เพราะคำๆนี้ตรงที่สมองไม่เข้าใจ
และคำๆนี้มันมีไว้ใช้กับหัวใจ
และไม่ใช่ใครคือคำๆนี้ฉันให้เธอ
เนื้อเพลงทั้งสองท่อนนี้ สามารถเป็นตัวแทนของคำบรรยายภาพในเรื่องเล่าของตัวละครในมิวสิควิดีโอได้เป็นอย่างดี
ใครยังไม่เคยฟังเพลง “รักไม่มีเสียง” ยังไม่ได้ดู MV ที่แสนละเลียดทางอารมณ์และละเอียดอ่อนทางความรู้สึกแบบนี้ ตามไปได้ที่ https://youtu.be/rbjPu5CmxlI
ต่อมา… ด้วยความที่เพลงนี้เป็นเพลงที่สื่อถึงความรักและการบอกรักได้เป็นอย่างดี ในวันหนึ่งเพลงนี้จึงได้ไปเข้าตาและถูกทางผลิตภัณฑ์ยาสีฟันเดนทิสเต้ (Dentiste) นำไปใช้เป็นเพลงประกอบโฆษณา โดยมี น้อต-วิศรุต รังษีสิงห์พิพัฒน์ และชมพู่ - อารยา เอ ฮาร์เก็ต เป็นพรีเซนเตอร์ด้วย
ภาพจากโฆษณายาสีฟันเดนทิสเต้
“รักไม่มีเสียง” จึงเป็นเพลงที่ซาบซึ้ง ละเมียดละไม และโรแมนติกยิ่ง
ก่อนจบบทสนทนา เก่ง ฝากข้อคิดเรื่อง “การบอกรัก” ไว้ว่า “บางที ในปัจจุบัน คนสมัยนี้ เราอาจจะบอกรักกันน้อยลง อาจจะหลงลืม หรือละเลย การบอกรักคนใกล้ตัว อย่างเช่น บอกรัก พ่อ, แม่, พี่, น้อง, คู่รัก, หรือ ญาติมิตร เพื่อนฝูง เขาอยากให้ทุกคน หันมามองดูว่า เราได้บอกรักกันแล้วหรือยัง การบอกรักหรือแสดงออกทางความรักอื่นๆ ทำได้ง่ายๆ และจะช่วยลดช่องว่างทางสังคมได้ ตรงนี้สำคัญมากๆ” เก่งเน้นย้ำ พร้อมรอยยิ้ม
โฆษณา