นมแมลงสาบกับคุณประโยชน์ที่อุดมไปด้วยสารอาหาร
นี่เอารูปแบบมุ้งมิ้งขึ้นหน้าปกเลยนะคะ
วันนี้เจอแมลงสาบนอนตายอยู่ที่บ้าน 1 ตัวค่ะ ส่วนตัวเนี่ยทั้งเกลียดและกลัวมาก โดยเฉพาะแมลงสาบบิน เพราะรู้สึกว่ามันรู้ว่าเรากลัวและพร้อมจะบินเข้าใส่เราตลอดเวลาเลยค่ะ
เหมือนเดิมค่ะ ด้วยความเป็นคุณแม่ขี้สงสัยเตรียมคำตอบไว้เผื่อลูกถาม เลยมานั่งหาข้อมูลว่าอิเจ้าแมลงตัวนี้มันทำประโยชน์อะไรให้กับโลกและมวลมนุษยชาติบ้างรึเปล่าเนี่ย
แล้วก็เจอค่ะ
เราคงเคยได้ยินข่าวเมื่อนานมาแล้วที่เมืองจีนเลี้ยงแมลงสาบไว้ทำยาใช่มั้ยคะ นั่นธรรมดาไปค่ะ เมื่อ 2-3 ปีมาแล้วมีการศึกษาเกี่ยวกับนมของแมลงสาบและคุณประโยชน์ของมันค่ะ
เพจความรู้รอบโต๊ะเคยเขียนเรื่องนมแมลงสาบไว้เมื่อปีที่แล้ว และแม่ขี้สงสัยอย่างเราอยากรู้ข้อมูลก็เลยหาข้อมูลมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมค่ะ
เรื่องของเรื่องก็คือนักวิทยาศาสตร์ค้นพบว่านมของแมลงสาบนั้นเรียกได้ว่าเป็น superfood หรือเป็นอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากๆ อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมไปถึงช่วยป้องกันโรคบางชนิดได้อีกต่างหาก
เอ๊ะ แมลงสาบเลี้ยงลูกด้วยนมรึ ไหนล่ะเต้านม?
ไม่ใช่แมลงสาบทุกชนิดหรือพันธุ์ทั่วๆ ไปที่โผล่พรึบขึ้นจากท่อเวลาน้ำท่วมบ้านเราจะสามารถผลิตน้ำนมได้นะคะ (รูปประกอบไม่ต้องเนาะ) มีเพียงแมลงสาบพันธุ์เดียวเท่านั้นที่มีน้ำนมให้ลูกๆ ของพวกนาง และน้ำนมเหล่านี้ที่แหละคือแหล่งโปรตีนชั้นสุดยอดเลยค่ะ
เจ้าแมลงสาบที่ว่ามีชื่อเรียกว่า แมลงสาบเต่าทองแปซิฟิค หรือ Diploptera Punctata โดยที่แมลงสาบพันธุ์นี้จะออกลูกเป็นตัวนะคะ ไม่ได้ออกลูกเป็นไข่แบบบ้านเรา (ปรกติไข่แมลงสาบ 1 ใบมีเบบี๋แมลงสาบประมาณเกือบร้อยเลยค่ะ)
นี่คือคุณแมลงสาบเต่าทองแปซิฟิคในขนาดต่างๆค่ะ
จากภาพ ซ้ายสุดคือแมลงสาบเด็กน้อย หมายเลข 2 ถัดมาเป็นแมลงสาบวัยรุ่น ถัดมาอีกที่เลข 3 เป็นตัวผู้แบบโตเต็มวัย และหมายเลข 4 คือตัวเมียแบบโตเต็มวัยค่ะ ถัดจากเลข 4 คือแมลงสาบที่กำลังท้อง ถัดไปอีกคือคุณแม่ที่เกือบคลอดค่ะ และภาพขวาสุดคือแมลงสาบตัวผู้ที่โตเต็มวัย จะเห็นว่ามีขนาดเล็กกว่าตัวเมียเล็กน้อยค่ะ
อิชั้นคิดเล่นๆ ว่าตอนวิจัยเนี่ยต้องจับมากี่สายพันธุ์เหรอคะ คิดแล้วบรึ๋ยค่ะ
ช๊อคแพร้บ
คุณค่าทางอาหารจากนมแมลงสาบเยอะแค่ไหนกัน?
ด้วยความว่างหรืออะไรของนักวิจัยในประเทศอินเดียอันนี้ไม่แน่ใจ เค้าได้ค้นพบว่านมแมลงสาบให้สารอาหารมากกว่านมวัวถึง 4 เท่า!!!!! เพราะในนมของแมลงสาบชนิดนี้มีผลึกโปรตีนที่ให้พลังงานมากกว่านมควายถึง 3 เท่า (ซึ่งนมควายมีปริมาณแคลอรี่มากกว่านมวัว 1.6 เท่า)
นมแมลงสาบประกอบไปด้วย
โปรตีน 45%
คาร์โบไฮเดรต 25%
ไขมัน 16–22%
กรดอะมิโน 5%
ผลึกโปรตีนในน้ำนมแมลงสาบประกอบไปด้วย โปรตีน ไขมัน และน้ำตาล อีกทั้งยังมีกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกายทั้ง 9 ชนิดอีกด้วย (ซึ่งโดยปกติหรืออาหารที่ไม่ใช่เนื้อสัตว์มีกรดอะมิโนจำเป็นไม่ครบทั้ง 9 ชนิด)
นอกจากกรดอะมิโนจำเป็นแล้ว ยังมีสารอาหารที่มีประโยชน์เหล่านี้ได้แก่ กรดโอเลอิค กรดไลโนเลอิค(กรดไขมันไม่อิ่มตัวที่ต่อให้ร่างกายรับประทานมากไปก็ไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ แถมยังลดไขมันในเลือดอีกด้วย) โอเมกา 3 กรดไขมัน วิตามิน เกลือแร่ กรดไขมันสายสั้น (กรดไขมันที่ได้จากการทานอาหารที่มีเส้นใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน อ้วนลงพุง โรคหลอดเลือดหัวใจ และโรคมะเร็ง) และกรดไขมันสายกลางที่มีมากในน้ำมันมะพร้าว
สารอาหารเยอะมากแบบ ก ไก่ล้านตัว
ผลึกโปรตีนในนมแมลงสาบค่ะ ที่มา Nathan Coussens
เมื่อโปรตีนในน้ำนมแมลงสาบถูกย่อย ผลึกโปรตีนก็จะยิ่งปล่อยโปรตีนเพื่อให้ระบบย่อยอาหารสามารถทำงานต่อไปได้
ดังนั้นนมแมลงสาบนี้จึงไม่เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก หรือชาวตะวันตกที่บริโภคแคลอรี่เยอะมากอยู่แล้วในแต่ละวัน แต่จะเหมาะกับผู้ที่ต้องการสารอาหารและแคลอรี่จำนวนมาก
สารอาหารเยอะขนาดนี้ ผลิตนมแมลงสาบออกมาขายสำหรับคนที่แพ้แลคโตสในน้ำนมเลยจะดีมั้ย?
รู้หมือไร่ว่า 65% ของประชากรทั่วโลกแพ้แลคโตสจากน้ำนม สาเหตุเกิดจากเจ้าเอนไซม์ชื่อแลคเตสที่ร่ายการสร้างมาเพื่อสำหรับย่อยน้ำตาลในน้ำนมหรือผลิตภัณฑ์จากนมมีไม่เพียงพอ ซึ่งการขาดหรือพร่องแลคเตสทำให้เกิดอาการท้องเสีย ปวดท้อง มีแก๊สในกระเพาะหลังจากการบริโภคผลิตภัณฑ์นมนั่นเอง
ที่มา Albina Glisic / Shutterstock.com
และนมแมลงสาบคือ non dairy products หรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาจากวัว แพะ แกะ ดังนั้นผู้ที่แพ้แลคโตสสามารถทานได้
อย่างไรก็ตาม การผลิตนมแมลงสาบเพื่อออกจำหน่ายตามท้องตลาดยังเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากเพราะกรรมวิธีการผลิตจะต้องเริ่มจากการฆ่าแมลงสาบตัวเมียและลูกๆ ในช่วงที่แม่แมลงสาบมีน้ำนมให้ลูกๆ และนำผลึกโปรตีนในท้องของแม่แมลงสาบออกมา
ด้วยความที่แมลงสาบก็ตัวกระจิ๊ดนึง มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากๆๆ เลยค่ะที่จะผลิตออกมาปริมาณมากมายขนาดนั้น เพราะว่าต่อให้ฆ่าแมลงสาบถึง 1000 ตัว แต่กลับสามารถผลิตน้ำนมได้เพียง 3.5 ออนซ์ หรือแค่ 100 กรัมเท่านั้นเองค่ะ!!!!!!!
ถึงแม้นมแมลงสาบจะอุดมด้วยสารพัดวิตามินและสารอาหาร แต่ว่าเราจะต้องคำนึงถึงอะไรบ้าางรึเปล่านะ
อันดับแรกคือ ถึงแม้นมแมลงสาบจะมีคุณค่าทางอาการที่สูงมาก แต่ก็มีแคลอรี่มากเช่นกัน
นมแมลงสาบ 250 มล. มี 700 แคลอรี่ ซึ่งมากกว่านมวัวถึง 3 เท่า
พูดง่ายๆ ว่าถ้ากินเยอะก็จะอ้วนนั่นเอง
อันดับที่สอง ปัจจุบันยังมีผลงานวิจัยไม่เพียงพอที่จะบอกว่าการบริโภคนมแมลงสาบปลอดภัยกับมนุษย์จริงๆ ดังนั้นเด็กและหญิงตั้งครรภ์ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคนมชนิดนี้
อันดับที่สามคือเราจะต้องฆ่าแมลงสาบหลายพันตัวเพื่อการผลิตนมแมลงสาบเพียง 1 แก้ว
และประเด็นสุดท้ายคือการดื่มนมแมลงสาบฟังดูเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์สักเท่าไหร่นัก ดังนั้นทีมนักวิจัยที่นำโดย Institute of Stem Cell Biology and Regenerative Medicine ในอินเดียจึงพยายามที่จะศึกษาโครงสร้างผลึกโปรตีนเพื่อสังเคราะห์ในห้องแลปแทนการรีดจากเจ้าแมลงสาบ และพยายามผลิตยีสต์ที่มีจำนวนผลึกโปรตีนเทียบเท่าหรือมากกว่านมแมลงสาบค่ะ
โดยสรุปแล้ว ในปัจจุบันนี้ถึงแม้ว่าเราอาจจะไม่ได้คุณประโยชน์จากนมแมลงสาบจากการบริโภค แต่การค้นพบนี้ทำให้มนุษย์เราสาทารถคิดค้นต่อยอดที่จะผลิตผลึกโปรตีนที่คล้ายคลึงกับโปรตีนจากนมแมลงสาบ คงจะต้องรอดูต่อไปว่านีกวิจัยจะคิดค้นยีสต์ชนิดนี้สำเร็จหรือไม่ ถ้าสำเร็จแล้วล่ะก็ มนุษย์เราก็จะมีแหล่งอาหารแหล่งใหม่ไว้สำหรับวิกฤติการณ์การขาดแคลนอาหารในอนาคต
แถมม เพราะแม่อยากรู้ต่อว่ากรดอะมิโนจำเป็นต่อร่างกายมีอะไรบ้าง
กรดอะมิโน คือ สารประกอบอินทรีย์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของโปรตีน
กรดอะมิโนจำเป็น คือ กรดอะมิโนที่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตชนิดนั้นไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นมาเองได้แต่ร่างกายต้องการ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องได้รับมาจากอาหารการกิน กรดอะมิโนที่ร่างกายต้องการมีประมาณ 20 ชนิด แต่กรดอะมิโนจำเป็นมีอยู่ 9 ชนิด ได้แก่ กรดอะมิโนจำเป็น คือกรดอะมิโนที่จำเป็นต่อร่างกาย แต่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ ต้องได้รับจากอาหารที่กินเข้าไปเท่านั้น กรดอะมิโนจำเป็นมีอยู่ด้วยกัน 9 ชนิด ได้แก่
ฮีสทิดีน (Histidine) ใช้ในการผลิตสารสื่อประสาทฮิสทามินซึ่งจะเป็นต่อการตอบสนองต่อระบบภูมิคุ้มกัน การย่อยอาหาร พัฒนาการทางเพศ และวงจรการนอนหลับและตื่นนอน
ไอโซลิวซีน (Isoleucine) ช่วยในเรื่องกระบวนการเปลี่ยนแปลงพลังงานในกล้ามเนื้อ ระบบการทำงานของภูมิคุ้มกัน การผลิตฮีโมโกลบินของเม็ดเลือดแดง
Mariana Medvedev a from Upsplash
ลิวซีน (Leucine) มีบทบาทสำคัญที่ช่วยให้ร่างกายสังเคราะห์โปรตีน การผลิตฮอร์โมนและเอนไซม์ อีกทั้งยังช่วยในการดูดซึมแคลเซียม ให้พลังงานและช่วยให้ระลบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี อีกทั้งยังผลิตคอลลาเจนและอิลาสติน ช่วยทำให้ผิวหนังเกิดความยืดหยุ่นอีกด้วยค่ะ
วาลีน (Valine) ช่วยกระตุ้นให้กล้ามเนื้อเจริญเติบโตและฟื้นฟูกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยสน้างพลังงานให้แก่ร่างกาย
ไลซีน (Lysine) ช่วยสังเคราะห์โปรตีนและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด กระตุ้นให้ร่างกายเกิดการสมานแผลและช่วยผลิตโกรทฮอร์โมน หรือฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตนั่นเอง
เมไธโอนีน (Methionine) ช่วยให้ร่างกายมีการดูดซึมและล้างพิษ (detoxification) และยังจำเป็นต่อการเติบโตของเนื้อเยื่อ อีกทั้งยังช่วยในการดูดซึมแร่ธาตุ
ฟีนิลอะลานีน (Phenylalanine) ช่วยในกระบวนการสร้างและการทำงานของโปรตีนและเอนไซม์ และช่วยผลิตกรดอะมิโนให้ร่างกาย
ทรีโอนีน (Threonine) เป็นส่วนประกอบสำคัญของคอลลาเจนและอิลาสตินและเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่ช่วยห่อหุ้มกล้ามเนื้อ เส้นเลือด ไขมันไว้ด้วยกัน รวมถึงรับบเผาผลาญไขมัน และช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ดี
ทริปโตแฟน (Tryptophan) ช่วยควบคุมระดับไนโตรเจนให้มีความสมดุล และช่วยควบคุมความอยากอาหาร การนอน และอารมณ์อีกด้วยค่ะ
ที่มา
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
